ผู้เขียน หัวข้อ: ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดลบ 36.64 จุด วิตกคาบสมุทรเกาหลี,หุ้นดิสนีย์ฉุดตลาด  (อ่าน 464 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 83118
    • ดูรายละเอียด
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดลบ 36.64 จุด วิตกคาบสมุทรเกาหลี,หุ้นดิสนีย์ฉุดตลาด


สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 10 สิงหาคม 2560 06:31:36 น.
 
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (9 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงวอลท์ ดิสนีย์


ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,048.70 จุด ลดลง 36.64 จุด หรือ -0.17% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,474.02 จุด ลดลง 0.90 จุด หรือ -0.04% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,352.33 จุด ลดลง 18.13 จุด หรือ -0.28%
 
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี รวมทั้งความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือ โดยล่าสุดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ทวีตข้อความว่า มีโอกาสที่การใช้ระเบิดนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 พร้อมกล่าวถึงแสนยานุภาพทางทหารของสหรัฐว่า คลังอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐมีความแข็งแกร่ง และมีอำนาจมากกว่าในอดีต
 
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีได้จุดปะทุขึ้นเมื่อวอชิงตัน โพสต์รายงานว่า เกาหลีเหนือประสบความสำเร็จในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ขนาดย่อส่วน ซึ่งออกแบบมาให้สามารถบรรจุเป็นหัวรบในขีปนาวุธได้ โดยหลังจากข่าวดังกล่าวเผยแพร่ออกไปไม่นาน ปธน.ทรัมป์ได้ออกมาแสดงความเห็นอย่างเผ็ดร้อนว่า เกาหลีเหนือจะต้องเผชิญกับ "ไฟและความเดือดดาล" จากสหรัฐอย่างแน่นอน หากยังคงดึงดันทำสิ่งที่เป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐมากกว่านี้
 
นอกจากนี้ เกาหลีเหนือยังใช้พื้นที่ข่าวในการยั่วยุสหรัฐอย่างต่อเนื่อง ด้วยการประกาศว่า เกาหลีเหนือจะชิงโจมตีสหรัฐก่อน ด้วยการยิงขีปนาวุธถล่มเกาะกวม ซึ่งเป็นที่ตั้งฐานทัพของสหรัฐในมหาสมุทรแปซิฟิก หลังจากที่สหรัฐได้ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด 2 ลำจากฐานทัพดังกล่าวไปยังเกาหลีใต้ เพื่อร่วมซ้อมทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ลงสู่เป้าหมายทางยุทธศาสตร์ของเกาหลีเหนือ
 
หุ้นวอลท์ ดิสนีย์ ร่วงลงเกือบ 4% และเป็นอีกหนึ่งในปัจจัยที่ฉุดตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนลบ หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายที่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ในไตรมาส 2 แม้กำไรปรับตัวดีขึ้นก็ตาม
 
หุ้นเน็ตฟลิกซ์ร่วงลง 1.5% หลังจากดิสนีย์ประกาศถอนรายการภาพยนตร์ของบริษัทออกจากแพล็ตฟอร์มสตรีมมิ่งของเน็ตฟลิกซ์ เพื่อให้บริการสตรีมมิ่งของตนเอง โดยดิสนีย์จะเปิดตัวบริการ ESPN สำหรับสตรีมรายการกีฬามากกว่า 10,000 รายการต่อปี เริ่มตั้งแต่ปี 2561 และจะเปิดตัวบริการสตรีมมิงภาพยนตร์ออนไลน์ในปี 2562
 
หุ้นออฟฟิศ ดีโปท์ ทรุดฮวบลงเกือบ 26% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาด
 
หุ้นไพร์ซไลน์ กรุ๊ป ดิ่งลง 6.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายที่น้อยกว่าคาดการณ์ ขณะที่หุ้นทริปแอดไวเซอร์ ดีดตัวขึ้น 2.5% เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากราคาหุ้นร่วงลงในช่วงแรก อันเนื่องมาจากผลประกอบการที่น่าผิดหวัง
 
อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มผู้ผลิตยุทธปัจจัยทางทหารที่ต่างก็พากันปรับตัวขึ้น เนื่องจากความหวังที่ว่าบริษัทเหล่านี้จะมียอดสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น หลังจากเกิดความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี โดยหุ้นล็อคฮีด มาร์ติน พุ่งขึ้น 1.7% หุ้นนอร์ทธรอป กรัมแมน ปรับตัวขึ้น 1.2% หุ้นร็อคเวลล์ คอลลินส์ ขยับขึ้น 0.6% หุ้นแอลทรี เทคโนโลยีส์ พุ่งขึ้น 2% และหุ้นเจเนอรัล ไดนามิกส์ ปรับขึ้น 1.1%
 
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกในระหว่างวัน หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งประจำเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 0.7% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 6 เดือน และมากกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 0.6% โดยสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนมิ.ย.ได้แรงหนุนจากสต็อกรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น 1.4%
 
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ค. และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ค.