สรุปข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศและในประเทศ 27/11/57 สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -27 พ.ย. 57 8:10: น.
สรุปข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ ? องค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจ (OECD) คาดการณ์เศรษฐกิจโลกปีนี้จะขยายตัว 3.3% และ 3.7% ปี 2558 ซึ่งเป็นอัตราขยายตัวปานกลางเมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดวิกฤต แต่ยังต่ำกว่าอัตราเฉลี่ยระยะยาวที่ 4.0% โดยยังคงเตือนถึงความเสี่ยงจากตลาดการเงินที่ผันผวน และการว่างงานสูงในยูโรโซน
? นางอังเกล่า แมร์เคล นายกรัฐมนตรีของเยอรมนี เปิดเผยว่า ปัจจุบันยุโรปไม่ได้เป็นมาตรวัดของทุกสิ่งทุกอย่างอีกต่อไป และยุโรปอาจเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ดังนั้น ยุโรปจึงจำเป็นต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และความเสี่ยงดังกล่าวอาจลดลงหากสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าเสรีร่วมกับแคนาดาและสหรัฐอเมริกา
? ธ.กลางอังกฤษ เปิดเผยว่า ความเสี่ยงจากภายนอกที่เพิ่มขึ้นกำลังคุกคามเศรษฐกิจของอังกฤษโดยเฉพาะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงและความตึงเครียดทางการเมืองที่กำลังฉุดแนวโน้มเศรษฐกิจทั่วโลก ซึ่งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเศรษฐกิจยุโรปและญี่ปุ่นอยู่ในภาวะที่ย่ำแย่ลง ขณะที่สถานการณ์ทางการเมืองยังคงมีความขัดแย้งอย่างต่อเนื่อง ทำให้เศรษฐกิจของอังกฤษยังจำเป็นต้องมีการกระตุ้นทางการเงิน ขณะที่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะยังคงค่อยเป็นค่อยไป
? จีนเตรียมผ่อนคลายเกณฑ์การเข้าสู่ตลาดในอุตสาหกรรมหลักๆหลายภาคส่วน เพื่อกระตุ้นการลงทุนผ่านการปฏิรูปทางการเงินและกฎเกณฑ์การลงทุน รวมถึงสร้างเสถียรภาพให้กับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยจะช่วยยุติการผูกขาดในภาคอุตสาหกรรม ลดอุปสรรคในตลาด และลดเส้นแบ่งในการเข้าสู่ตลาด
? ธ.กลางเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า การอ่อนค่าลงของเงินเยนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐนั้น ส่งผลกระทบต่อกลุ่มผู้ส่งออกเกาหลีใต้อย่างมาก โดยเฉพาะธุรกิจรถยนต์และเครื่องจักร อาทิ ฮุนได มอเตอร์ และเกีย มอเตอร์ส ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ในกรุงโซล รวมทั้งบริษัทผู้ผลิตเครื่องจักรซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในพื้นที่ตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ
? ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสิงคโปร์ เดือน ต.ค. ขยายตัว 0.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ต่ำกว่าคาดการณ์ว่าจะขยายตัว 2.1% หลังจากที่ -1% ในเดือนก่อนหน้า โดยมาจากการขยายตัวของอุตสาหกรรมเภสัชภัณฑ์เป็นหลัก
สรุปข่าวเศรษฐกิจในประเทศ ? ก.พาณิชย์ รายงานว่า มูลค่าการส่งออกของไทยเดือน ต.ค. ขยายตัว 3.97% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขยายตัวสูงสุดในรอบ 21 เดือน
? สศค. คาดการณ์ มูลค่าการส่งออกของไทยในปีนี้จะเติบโตเพียง 0.1% เป็นผลจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ 1.ราคาสินค้าที่ปรับตัวลดลงโดยเฉพาะสินค้าเกษตร 2.การส่งออกไปยังตลาดหลักที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจของแต่ละประเทศเอง ซึ่งคาดว่าการส่งออกของไทยในปีหน้าจะขยายตัวได้ 3.5% ทั้งนี้ผู้ประกอบการภาคส่งออกของไทยจึงควรปรับตัวและปรับกลยุทธ์ โดยกลับไปพึ่งพาตลาดส่งออกใน กลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา, ลาว, เมียนมาร์, เวียดนาม) ซึ่งคาดว่าเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศนี้จะเติบโตได้ถึงปีละ 7-8% ดังนั้นจะเป็นโอกาสสำคัญสำหรับตลาดส่งออกไทยอย่างมากในช่วงต่อไป
? รมว.คลัง เปิดเผยว่า ภาคส่งออกของในระยะต่อไปยังมีความเสี่ยงมากขึ้น เนื่องจากคู่แข่งจากตลาดต่าง ๆ ทั่วโลกมีมากขึ้น ดังนั้นไทยจำเป็นต้องลดบทบาทของภาคการส่งออกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศลง และหันมาเพิ่มบทบาทของภาคส่วนอื่น ๆ แทน เช่น การพึ่งพาการลงทุนภาครัฐ และภาคการท่องเที่ยวที่ปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้สูงขึ้นมากเมื่อเทียบกับภาคการส่งออก
? SET Index ปิดที่ 1,591.00 จุด ลดลง 5.80 จุด (-0.36%) มูลค่าซื้อขาย 60,595.48 ล้านบาท ดัชนีหุ้นไทยปรับลดลงสวนทางกับตลาดในภูมิภาค นำโดยการปรับลงของหุ้นในตลาด mai และการขายทำกำไรในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างหลังจากครม.อนุมัติโครงการสร้างรถไฟรางคู่ รวมทั้งเป็นแรงเทขายทำกำไรบางส่วนจากการที่ SET Index ปรับขึ้นมาก่อนหน้านี้
? อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงอยู่ในช่วง -0.02% ถึง 0.02% มูลค่าการซื้อขาย 60,647.95 ล้านบาท สำหรับวันนี้มีไม่มีการประมูล
สรุปยอดสุทธิการซื้อขายของแต่ละกลุ่ม(26 พ.ย. 57)กลุ่มนักลงทุน ล้านบาท
นักลงทุนสถาบัน -213.66
บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ +1,660.80
นักลงทุนต่างชาติ +109.14
นักลงทุนทั่วไป -1,556.28
ที่มา : Good Morning News บลจ.บัวหลวง
เรียบเรียง โดย ประน้อม บุญร่วม
อีเมล์. reporter@efinancethai.com
