***ดาวโจนส์ปิดบวก 115.80 จุด ขานรับข้อมูลจ้างงานหนุนเฟดหยุดขึ้นดอกเบี้ย
ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday September 2, 2023 06:31 ?สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (1 ก.ย.) หลังจากการพุ่งขึ้นของอัตราว่างงานได้ตอกย้ำการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.นี้
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,837.71 จุด เพิ่มขึ้น 115.80 จุด หรือ +0.33%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,515.77 จุด เพิ่มขึ้น 8.11 จุด หรือ +0.18% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,031.81 จุด ลดลง 3.15 จุด หรือ -0.02%
ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์บวก 1.43%, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 2.50% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 3.25%
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 187,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 170,000 ตำแหน่ง
ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.8% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2565 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.5% ขณะที่การขยายตัวของค่าจ้างชะลอตัวลง
ข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่า เฟดประสบความสำเร็จในการควบคุมเงินเฟ้อ และตอกย้ำการคาดการณ์ที่ว่า เฟดใกล้ยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
FedWatch Tool ของ CME Group ระบุว่า สัญญาอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าได้บ่งชี้ว่า บรรดาเทรดเดอร์คาดว่า มีโอกาส 93% ที่เฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไม่เปลี่ยนแปลงในการประชุมวันที่ 19-20 ก.ย.นี้
หุ้น 6 ใน 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้น นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงานบวก 2.05% ตามมาด้วยหุ้นกลุ่มวัสดุปรับตัวขึ้น 1.01%
หุ้นที่มีการซื้อขายมากที่สุดในดัชนี S&P500 ได้แก่หุ้นเทสลา อิงค์ ซึ่งมีมูลค่าซื้อขายราว 3.26 หมื่นล้านดอลลาร์ และราคาหุ้นร่วงลง 5% หลังปรับลดราคาขายรถไฟฟ้ารุ่นโมเดล S และโมเดล X ในสหรัฐ
หุ้นบรอดคอม ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิป ร่วงลง 5.5% หลังคาดการณ์รายได้ไตรมาสปัจจุบันต่ำกว่าคาด แต่หุ้นเดลล์ เทคโนโลยีส์ พุ่งขึ้น 21% หลังปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้และผลกำไรทั้งปี
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐค่อนข้างเบาบางราว 8.9 พันล้านหุ้นในวันศุกร์ เทียบกับปริมาณเฉลี่ย 1.04 หมื่นล้านหุ้นในช่วง 20 วันทำการที่ผ่านมา
ตลาดหุ้นสหรัฐจะปิดทำการในวันจันทร์หน้า (4 ก.ย.) เนื่องในวันแรงงานซึ่งเป็นวันหยุดประจำชาติ
***น้ำมัน WTI ปิดพุ่ง $1.92 รับแนวโน้มอุปทานตึงตัว
ข่าวต่างประเทศ Saturday September 2, 2023 07:11 ?สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันศุกร์ (1 ก.ย.) แตะระดับสูงสุดของปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากแนวโน้มอุปทานน้ำมันที่ตึงตัว ขณะที่การเปิดเผยข้อมูลผลสำรวจกิจกรรมการผลิตของจีนได้ช่วยหนุนตลาดน้ำมันด้วยก่อนที่ตลาดจะปิดทำการต่อเนื่อง 3 วันในช่วงสุดสัปดาห์นี้ เนื่องจากวันจันทร์ (4 ก.ย.) เป็นวันแรงงานซึ่งเป็นวันหยุดประจำชาติของสหรัฐ
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. พุ่งขึ้น 1.92 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 85.55 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย. 2565 ขณะที่ปรับตัวขึ้น 7.2% ในรอบสัปดาห์นี้ และเพิ่มขึ้น 2.2% ในเดือนส.ค.
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. พุ่งขึ้น 1.72 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 88.55 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 17 พ.ย. 2565 โดยปรับตัวขึ้น 5.5% ในรอบสัปดาห์นี้ และปรับตัวขึ้น 1.5% ในเดือนส.ค.
สัญญาน้ำมันดิบ WTI และน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวขึ้นในเดือนส.ค.เป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดยสัญญาน้ำมันได้แรงหนุนจากการที่จีนเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เพิ่มขึ้นสูงกว่าคาดที่ระดับ 51 ในเดือนส.ค. และจีนได้สั่งปรับลดเงินดาวน์สำหรับการซื้อบ้านด้วย
ตลาดน้ำมันยังปรับตัวขึ้นขานรับการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันจนถึงสิ้นปีนี้
บรรดาเทรดเดอร์คาดการณ์ว่า ซาอุดีอาระเบียจะประกาศขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจจำนวน 1 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้นเดือนต.ค. ขณะที่รัสเซียประกาศบรรลุข้อตกลงกับโอเปกพลัสในการปรับลดกำลังการผลิต โดยจะมีการเปิดเผยรายละเอียดในสัปดาห์หน้า
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังการเปิดเผยรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์
ตลาดมองว่าอัตราการว่างงานที่พุ่งขึ้นในรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร รวมทั้งตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงานที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งบ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเงินเฟ้อ จะเป็นปัจจัยหนุนให้เฟดยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวัฏจักรปัจจุบัน แม้ว่าตัวเลขการจ้างงานสูงกว่าคาดก็ตาม
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 187,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 170,000 ตำแหน่ง
ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.8% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2565 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.5%
ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 4.3% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.4% และเมื่อเทียบรายเดือน ค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 0.2% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3%
***ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดบวก $1.20 รับคาดการณ์เฟดเบรกขึ้นดอกเบี้ย
ข่าวต่างประเทศ Saturday September 2, 2023 07:41 ?สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (1 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมที่เหลืออีก 3 ครั้งในปีนี้ หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรชะลอตัวลงและอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.20 ดอลลาร์ หรือ 0.06% ปิดที่ 1,967.10 ดอลลาร์/ออนซ์ และในรอบสัปดาห์นี้ราคาเพิ่มขึ้น 1.4% แต่ราคาลดลงมากกว่า 2% ในเดือนส.ค.
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 25.00 เซนต์ หรือ 1.01% ปิดที่ 24.562 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 5.70 ดอลลาร์ หรือ 0.58% ปิดที่ 968.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 8.70 ดอลลาร์ หรือ 0.70% ปิดที่ 1,227.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้แรงหนุน หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 187,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 170,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.8% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2565 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.5%
ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 4.3% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.4% และเมื่อเทียบรายเดือน ค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 0.2% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3%
นักลงทุนเทน้ำหนักมากกว่า 90% ในการคาดการณ์ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ หลังการเปิดเผยรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 93.0% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 19-20 ก.ย. และให้น้ำหนักเพียง 7.0% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.50-5.75%
นอกจากนี้ FedWatch Tool บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือนพ.ย.และธ.ค.
โดย กัลยาณี ชีวะพานิช