ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ข่าวหุ้น-การเงิน 18 เมษายน 2566  (อ่าน 153 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 85228
    • ดูรายละเอียด

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 100.71 จุด จับตาผลประกอบการ-ความเห็นจนท.เฟด
          สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 เม.ย. 2566)--ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (17 เม.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มการเงินและกลุ่มอุตสาหกรรม ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้ รวมทั้งการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,987.18 จุด เพิ่มขึ้น 100.71 จุด หรือ +0.30%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,151.32 จุด เพิ่มขึ้น 13.68 จุด หรือ +0.33% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,157.72 จุด เพิ่มขึ้น 34.26 จุด หรือ +0.28%
          หุ้นกลุ่มการเงินและกลุ่มอุตสาหกรรมพุ่งขึ้นนำตลาด โดยหุ้นแบล็กร็อก บวก 0.90% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 2.88% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก ทะยานขึ้น 4.19% หุ้นเจพีมอร์แกน บวก 0.79% หุ้นโบอิ้ง พุ่งขึ้น 1.65% หุ้นแคทเธอร์ พิลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.66% หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) พุ่งขึ้น 1.38% หุ้นฮันนีเวลล์ บวก 0.67%
          ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามราคาน้ำมัน WTI โดยหุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ดิ่งลง 1.66% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 1.1% หุ้นเชฟรอน ลดลง 0.88% หุ้นออคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ร่วงลง 2.39%
          หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ร่วงลง 2.66% หลังจากหนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทมส์รายงานว่า บริษัทซัมซุง อิเลกทรอนิกส์ กำลังพิจารณาให้ Bing ซึ่งเป็นเครื่องมือค้นหาข้อมูลของบริษัทไมโครซอฟท์ มาแทนที่กูเกิลบนผลิตภัณฑ์ของซัมซุง
          รายงานข่าวดังกล่าวบ่งชี้ว่า กูเกิลกำลังเผชิญความท้าทายที่เพิ่มมากขึ้นจาก Bing หลังไมโครซอฟท์ประกาศเปิดตัว Bing เวอร์ชันใหม่ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) แบบเดียวกับที่สนับสนุนแชตบอต ChatGPT โดยหากซัมซุงยกเลิกสัญญาที่ทำไว้กับกูเกิล ก็จะทำให้บริษัทสูญเสียรายได้ถึง 3 พันล้านดอลลาร์ต่อปี
          นักลงทุนจับตาการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ข้อมูลล่าสุดของ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 88.1% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ค. และให้น้ำหนักเพียง 11.9% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.75-5.00%
          นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงโกลด์แมน แซคส์, แบงก์ ออฟ อเมริกา, มอร์แกน สแตนลีย์, จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน, เทสลา และเน็ตฟลิกซ์
          ข้อมูลจาก Refinitiv IBES ระบุว่า นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า บริษัทในดัชนี S&P 500 จะรายงานตัวเลขกำไรลดลง 5.2% ในไตรมาส 1/2566 หลังจากคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะมีกำไรเพิ่มขึ้น 1.4% ในไตรมาสดังกล่าว
          สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านปรับตัวขึ้น 1 จุด สู่ระดับ 45 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2565  อย่างไรก็ดี ดัชนียังคงปรับตัวต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงมุมมองทั่วไปที่เป็นลบ
          ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ ที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่  ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนมี.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดขายบ้านมือสองเดือนมี.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นเดือนเม.ย.จากเอสแอนด์พี โกลบอล
โดย รัตนา พงศ์ทวิช

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดร่วง $1.69 เหตุดอลล์แข็ง-กังวลเฟดขึ้นดบ.ฉุดดีมานด์
          สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 เม.ย. 2566)--สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 2% ในวันจันทร์ (17 เม.ย.) โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ รวมทั้งความกังวลที่ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน
          ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 1.69 ดอลลาร์ หรือ 2.05% ปิดที่ 80.83 ดอลลาร์/บาร์เรล
          ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 1.55 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 84.76 ดอลลาร์/บาร์เรล
          ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.48% แตะที่ 102.1082 เมื่อคืนนี้ โดยการแข็งค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ
          ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากความวิตกกังวลว่า การเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 88.1% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ค. และให้น้ำหนักเพียง 11.9% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.75-5.00%
          นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังปรับตัวลงจากรายงานข่าวที่ว่า อิรักอาจจะกลับมาส่งออกน้ำมันจากเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถานผ่านทางตุรกีอีกครั้ง หลังจากที่ประกาศระงับการส่งออกน้ำมันราว 450,000 บาร์เรล/วันจากเคอร์ดิสถานผ่านทางตุรกีเมื่อไม่นานมานี้
          นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพุธนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย
โดย รัตนา พงศ์ทวิช

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดลบ $8.80 เหตุดอลล์แข็งฉุดตลาด
          สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 เม.ย. 2566)--สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (17 เม.ย.) เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เป็นปัจจัยกดดันตลาด
          ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 8.80 ดอลลาร์ หรือ 0.44% ปิดที่ 2,007.00 ดอลลาร์/ออนซ์
          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 37.20 เซนต์ หรือ 1.46% ปิดที่ 25.088 ดอลลาร์/ออนซ์
          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 5.60 ดอลลาร์ หรือ 0.53% ปิดที่ 1,059.60 ดอลลาร์/ออนซ์
          สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 64.20 ดอลลาร์ หรือ 4.3% ปิดที่ 1,560.50 ดอลลาร์/ออนซ์
          สัญญาทองคำร่วงหลุดจากระดับ 2,000 ดอลลาร์ในระหว่างวัน ท่ามกลางความวิตกกังวลว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ โดยแม้ว่าสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ชะลอตัวลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ดัชนีดังกล่าวยังคงอยู่สูงกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ของเฟด
          ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 88.1% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ค. และให้น้ำหนักเพียง 11.9% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.75-5.00%
          นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.48% แตะที่ 102.1082 เมื่อคืนนี้
          ทั้งนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ
โดย รัตนา พงศ์ทวิช