ซีอีโอเจพีมอร์แกนเตือนวิกฤตภาคธนาคารเสี่ยงทำเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (7 เม.ย. 2566)--นายเจมี ไดมอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของธนาคารเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โคให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า วิกฤตการณ์ในภาคธนาคารของสหรัฐที่สั่นคลอนตลาดทั่วโลกอย่างหนักในเดือนที่แล้วนั้น มีแนวโน้มที่จะใกล้สิ้นสุดลง แม้มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะมีธนาคารล้มละลายอีกในวันข้างหน้าก็ตาม
มีธนาคารเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้นที่จะมีปัญหาเหมือนกับที่ธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) เผชิญ และเมื่อธนาคารต่าง ๆ เริ่มรายงานผลประกอบการรายไตรมาสในสัปดาห์หน้า ผมเชื่อว่าตัวเลขจะออกมาดี นายไดมอนให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็นในวันพฤหัสบดี (6 เม.ย.)
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีธนาคารล้มละลายเพิ่มขึ้นหรือไม่ นายไดมอนกล่าวว่า เรื่องนี้ผมไม่ทราบ แต่หากว่ามี ผมก็มั่นใจว่าธนาคารเหล่านี้จะได้รับความช่วยเหลือให้ผ่านพ้นวิกฤตไปได้ และผมมองว่าวิกฤตการณ์ในภาคธนาคารใกล้จะจบลงแล้ว
อย่างไรก็ดี นายไดมอนกล่าวกับซีเอ็นเอ็นว่า วิกฤตการณ์ในภาคธนาคารที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะเผชิญภาวะถดถอย วิกฤตการณ์ครั้งนี้ได้สร้างความตื่นตระหนกในตลาด และส่งผลให้เกิดภาวะตึงตัวด้านการเงิน เนื่องจากธนาคารและสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้เริ่มใช้นโยบายที่เข้มงวดในการอนุมัติเงินกู้ เราเห็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ประชาชนค่อย ๆ ลดการกู้ยืม และลดการใช้จ่าย
การแสดงความเห็นล่าสุดของนายไดมอนสอดคล้องกับที่เขาได้ระบุในจดหมายถึงผู้ถือหุ้นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (4 เม.ย.) ว่า ระบบธนาคารของสหรัฐเผชิญแรงกดดันระลอกใหม่ หลังการล่มสลายของธนาคาร SVB และเครดิต สวิสในเดือนมี.ค. โดยคาดว่าวิกฤตการณ์ครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อเนื่องอีกหลายปี และทำให้มีแนวโน้มมากขึ้นที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
โดย รัตนา พงศ์ทวิช/กัลยาณี ชีวะพานิช