ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศและในประเทศ 30/10/56  (อ่าน 973 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 84476
    • ดูรายละเอียด
 
 
 
 
 
 
 
สรุปข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศและในประเทศ 30/10/56   
 
 
สรุปข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ                 ? ยอดค้าปลีกของสหรัฐเดือน ก.ย. ชะลอตัวลง 0.1% จากยอดขายรถยนต์ที่ลดลง ซึ่งเป็นผลของการนำเอายอดขายรถช่วงหยุดวันแรงงานเข้าไปรวมในเดือน ส.ค. แต่หากไม่รวมยอดขายรถแล้ว จะขยายตัว 0.4% บ่งชี้ว่าผู้บริโ???คยังรจับจ่ายเพิ่มขึ้น ป็นสัญญาณที่ดีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ                 ? ดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐเดือน ก.ย. ลดลง 0.1% เมื่อเทียบรายเดือน จากราคาอาหารที่ลดลง ส่งสัญญาณว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐจะยังคงอยู่ในระดับต่ำต่อไป                 ? ความเชื่อมั่นผู้บริโ???คสหรัฐเดือน ต.ค.ลดลงสู่ 71.2 จาก 80.2 ในเดือน ก.ย. จากการปิดหน่วยงานชั่วคราวของรัฐบาล และความขัดแย้งในเรื่องงบประมาณ (Conference Board)                ? อัตราว่างงานของญี่ปุ่นเดือน ก.ย. ลดลงสู่ 4.0% จาก 4.1% ในเดือนก่อน นำโดยการจ้างงานของ???าคก่อสร้างและการค้า จึงเป็นปัจจัยบวกที่อาจส่งผลให้การบริโ???ค???ายในปรับตัวเพิ่มขึ้นได้               ? การใช้จ่าย???าคครัวเรือนของญี่ปุ่นเดือน ก.ย.ปรับตัวขึ้น 3.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเป็นอัตราขยายตัวสูงที่สุดในรอบ 6 เดือน จากการจ้างงานที่แข็งแกร่งมากขึ้น และผู้บริโ???ครีบซื้อสินค้าก่อนที่???าษีมูลค่าเพิ่มจะถูกปรับขึ้นในปีหน้า                ? IMF ระบุว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังฟื้นตัวด้วยแรงผลักดันจากนโยบายรัฐ ซึ่งการขึ้น???าษีมูลค่าเพิ่มเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการคลังเพื่อบรรเทาหนี้สาธารณะที่อยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม มันอาจส่งผลกระทบต่อการบริโ???ค???ายใน ดังนั้น รัฐบาลต้องหาจุดสมดุลในการปฏิรูปทางการคลังที่เอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจเท่าที่จะเป็นไปได้               ? ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของเกาหลีใต้เดือน ก.ย.เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 20 ติดต่อกันสู่ 6.75 พันล้านดอลลาร์ จากยอดส่งออกสินค้า กับ???าคบริการซึ่งรวมถึงการท่องเที่ยวและการขนส่งสูงขึ้น              ? ธ.กลางอินเดียมีมติขึ้นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงเป็นครั้งที่ 2 ติดกันเป็น 7.75% จากเดิม 7.5% เพื่อช่วยลดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่สูงขึ้นจากการอ่อนค่าลงของเงินรูปีและราคาน้ำมันมันที่เพิ่มขึ้น              ? ธ. กลางสิงคโปร์คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อในระยะสั้นจะสูงขึ้นสู่ 2-3% จากปัจจุบันที่ 1.5-2.0% ซึ่งเป็นผลของมาตรการสกัดกั้นแรงงานต่างชาติที่ทำให้ต้นทุนการดำเนินงานของธุรกิจเพิ่มขึ้น              ? รัฐบาลอินโดนีเซียจะออกพันธบัตรสกุลเงินยูโรและเยนครั้งแรกปีหน้า เพื่อรับมือปริมาณดอลลาร์ที่อาจตึงตัวขึ้นจากการลดมาตรการ QE ของ FED ซึ่งอาจทำให้ระดมทุนได้ไม่ต่อเนื่องสรุปข่าวเศรษฐกิจในประเทศ                ? มูลค่าการส่งออกข้าวไทยใน9 เดือนแรกปีนี้ลดลง 3.8% เมื่อเทียบรายปี เป็น 96,402 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณส่งออกลดลงและราคาข้าวไทยมีแนวโน้มอ่อนตัวลง อีกทั้งยังต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากประเทศคู่แข่ง เช่น เวียดนามและอินเดีย ที่เร่งส่งออกข้าวอย่างต่อเนื่อง               ? อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มขึ้น 0.00-0.03% ในตราสารที่มีอายุเกิน 3 ปีจากแรงเทขายของนักลงทุนโดยเฉพาะต่างชาติ เพื่อทำกำไรบางส่วน และรอผลการประชุม FOMC สำหรับวันนี้ไม่มีการประมูลพันธบัตร              ?ความกังวลทางการเมือง กำลังจะกลับมากดดันตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง เนื่องจาก                1. จะมีการประชุมส???าเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม วาระ 2 ในวันที่ 31 ต.ค.- พ.ย. แล้วจะลงมติวาระ 3 ต่อทันทีในวันเสาร์ที่ 2 พ.ย.นี้                2. อัยการสูงสุด สั่งร่างคำฟ้อง อ???ิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และ สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ เป็นผู้ต้องหาข้อหาร่วมกันก่อหรือใช้ให้ผู้อื่นกระทำผิดฐานฆ่าและ พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญา จากกรณีสลายการชุมนุมของกลุ่ม นปช. เมื่อปี 2553 ซึ่งหากไม่ใช้เอกสิทธิ์ ส.ส.คุ้มครอง ก็จะยื่นฟ้องได้ทัน 31 ต.ค.นี้               3. สุเทพ เทือกสุบรรณ เป่านกหวีดเรียกประชาชนแต่งชุดดำมารวมตัวกันที่สถานีรถไฟสามเสน ในเวลา 16.00 น. วันที่ 31 ต.ค.เป็นต้นไป เพื่อต่อต้านกฎหมายล้างผิด               4. ศาลโลกจะมีคำวินิจฉัยเกี่ยวกับคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหาร ในวันที่ 11 พ.ย.             ? SET Index ปิดที่ 1,455.86 จุด เพิ่มขึ้น 6.24 จุด (+0.43%) ด้วยมูลค่าซื้อขายเบาบางที่ 23,964 ล้านบาท โดยดัชนีเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ โดยที่ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามากระทบกับตลาด ประกอบกับนักลงทุนยังคงรอความชัดเจนในประเด็นการลดวงเงิน???ายใต้มาตรการ QE จากการประชุม FOMC ในขณะที่ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า FED จะยังคงวงเงิน???ายใต้มาตรการ QE ไว้ที่ 8.5 หมื่นล้านดอลล่าร์ / เดือนต่อไปอย่างน้อยจนถึงสิ้นปีสรุปยอดสุทธิการซื้อขายของแต่ละกลุ่มกลุ่มนักลงทุน                ล้านบาทนักลงทุนสถาบัน               -268.54บัญชีบริษัทหลักทรัพย์       -113.45นักลงทุนต่างชาติ               -34.45นักลงทุนทั่วไ ป              +416.44ที่มา : Good Morning News บลจ.บัวหลวง
 
 
เรียบเรียง โดย ประน้อม บุญร่วม
อีเมล์แสดงความคิดเห็น  commentnews@efinancethai.com
 
 
 
ที่มา สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย     วันที่   30/10/13   เวลา   7:13:40