ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ข่าวหุ้น-การเงิน 7 เมษายน 2564  (อ่าน 742 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 84444
    • ดูรายละเอียด

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดลบ 96.95 จุด จับตาผลประกอบการ-แผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน
          สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (7 เม.ย. 2564)--ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายหลังจากดัชนีดาวโจนส์และ S&P500 ปิดทำนิวไฮเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งความคืบหน้าในการผลักดันแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงินกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน
          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,430.24 จุด ลดลง 96.95 จุด หรือ -0.29% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,073.94 จุด ลดลง 3.97 จุด หรือ -0.10% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,698.38 จุด ลดลง 7.21 จุด หรือ -0.05%
          ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กค่อนข้างซบเซาเมื่อคืนนี้ แม้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2564 สู่ระดับ 6% จากระดับ 5.5% และปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจปี 2565 สู่ระดับ 4.4% จากระดับ 4.2%
          หุ้น 5 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปรับตัวลง นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง 0.38% โดยหุ้นอัลฟาเบท ลดลง 0.44% หุ้นไมโครซอฟท์ ปรับตัวลง 0.49% หุ้นเฟซบุ๊ก ลดลง 0.86% หุ้น Nvidia ลดลง 0.90%
          อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคดีดตัวขึ้น 0.53% ขานรับความหวังเกี่ยวกับแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของปธน.ไบเดน โดยหุ้นเอ็กเซลอน คอร์ปอเรชั่น เพิ่มขึ้น 0.18% หุ้นดุ๊ค เอนเนอร์จี บวก 0.64%
          หุ้นสแนป (Snap) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Snapchat ทะยานขึ้น 5.12% หลังได้รับการปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนจากนักวิเคราะห์ของบริษัทแอตแลนติก อิควิตี้ส สู่ระดับ  Overweight  จากระดับ  Neutral
          หุ้นโนวาแว็กซ์ ปรับตัวขึ้น 0.8% หลังบริษัทประกาศแผนการขยายการทดลองวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ภายในไตรมาสส 2/2564 โดยครอบคลุมถึงการทดลองในเด็กและวัยรุ่น
          หุ้นนอร์วีเจียน ครูซ ไลน์ โฮลดิ้งส์ พุ่งขึ้น 4.61% หลังจากบริษัทประกาศว่าจะเริ่มให้บริการเรือสำราญนอกเขตแดนสหรัฐในเดือนก.ค.นี้ หลังจากที่หยุดให้บริการเป็นเวลานานนับปี เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
          นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งความคืบหน้าในการผลักดันแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของปธน.ไบเดน ขณะที่นางเจนนิเฟอร์ แกรนโฮล์ม รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า หากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการอนุมัติแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงินกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ ปธน.ไบเดนก็อาจจะผลักดันแผนการดังกล่าวโดยไม่พึ่งพาเสียงสนับสนุนจากพรรครีพับลิกัน
          นางแกรนโฮล์มเปิดเผยว่า ปธน.ไบเดนอาจจะใช้วิธีการผลักดันแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานแบบ fast track โดยใช้แนวทางจัดทำงบประมาณที่เรียกว่า Budget Reconciliation ซึ่งจะปูทางให้สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาสามารถให้การรับรองงบประมาณดังกล่าวด้วยคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่ง แทนที่จะใช้คะแนนเสียง 2 ใน 3 สำหรับการผ่านกฎหมายทั่วไป และทำให้ปธน.ไบเดนสามารถผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าว โดยไม่จำเป็นต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากพรรครีพับลิกัน
          สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดเมื่อคืนนี้ สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 7.4 ล้านตำแหน่งในเดือนก.พ. จาก 6.9 ล้านตำแหน่งในเดือนม.ค. โดยตัวเลข JOLTS นับเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสนใจ เนื่องจากมองว่าเป็นมาตรวัดภาวะตึงตัวในตลาดแรงงาน ซึ่งเป็นปัจจัยในการพิจารณานโยบายการเงิน และอัตราดอกเบี้ยของเฟด
          ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ดุลการค้าเดือนก.พ., รายงานการประชุมเดือนมี.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมี.ค. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.พ.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--


ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดบวก 68 เซนต์ รับข้อมูลศก.จีน-สหรัฐแข็งแกร่ง
          สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (7 เม.ย. 2564)--สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (6 เม.ย.) หลังจากสหรัฐและจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งช่วยให้นักลงทุนมีความหวังว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันจะฟื้นตัวขึ้นในไม่ช้านี้
          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 68 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 59.33 ดอลลาร์/บาร์เรล
          สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 59 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 62.74 ดอลลาร์/บาร์เรล
          สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นขานรับข้อมูลเศรษฐกิจของจีนและสหรัฐ โดยสำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 7.4 ล้านตำแหน่งในเดือนก.พ. จาก 6.9 ล้านตำแหน่งในเดือนม.ค.
          ทางด้านสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 63.7 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากระดับ 55.3 ในเดือนก.พ. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 59.0
          ทั้งนี้ ดัชนีภาคบริการของสหรัฐได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน ท่ามกลางความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในสหรัฐ และการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งสภาพอากาศที่อบอุ่นขึ้นในเดือนมี.ค.
          สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจจีนนั้น ไฉซิน/มาร์กิตเปิดเผยผลสำรวจบ่งชี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของจีน เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 54.3 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2563 จากระดับ 51.5 ในเดือนก.พ. 2564 โดยดัชนี PMI ที่อยู่เหนือ 50 บ่งชี้ว่า ภาคบริการยังคงขยายตัว
          นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจากข่าวอังกฤษเตรียมผ่อนปรนข้อจำกัดในการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 โดยจะอนุญาตให้ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจบริการกลางแจ้ง และร้านทำผม กลับมาเปิดบริการอีกครั้งได้ในวันที่ 12 เม.ย.นี้
          นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในคืนนี้ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 7 แสนบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 2 เม.ย.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--


ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดบวก $14.2 ขานรับดอลล์อ่อน-บอนด์ยีลด์ชะลอตัว
          สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (7 เม.ย. 2564)--สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (6 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการชะลอตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ รวมทั้งการที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับเพิ่มคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจโลกทั้งในปีนี้และปีหน้า
          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 14.2 ดอลลาร์ หรือ 0.82% ปิดที่ 1,743 ดอลลาร์/ออนซ์
          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 44.7 เซนต์ หรือ 1.8% ปิดที่ 25.227 ดอลลาร์/ออนซ์
          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. พุ่งขึ้น 30.7 ดอลลาร์ หรือ 2.54% ปิดที่ 1,240.5 ดอลลาร์/ออนซ์
          สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 35.50 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 2,690.20 ดอลลาร์/ออนซ์
          สัญญาทองคำปิดในแดนบวกติดต่อกัน 3 วันทำการ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีที่ชะลอตัวลงสู่ระดับ 1.66% เมื่อคืนนี้ โดยการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวล หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ตลาดทองคำได้รับแรงกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ซึ่งจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost) ในการถือครองทองคำ เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
          ขณะเดียวกันการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดทองคำ เนื่องจากทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีราคาถูกลง และมีความน่าดึงดูดมากขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น
          ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.29% สู่ระดับ 92.3261 เมื่อคืนนี้
          นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้ปัจจัยหนุนหลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2564 สู่ระดับ 6% จากระดับ 5.5% และปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจปี 2565 สู่ระดับ 4.4% จากระดับ 4.2%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--