ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ข่าวหุ้น-การเงิน 2 กุมภาพันธ์ 2564  (อ่าน 761 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 84444
    • ดูรายละเอียด

***ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดบวก $13.6 ตามราคาโลหะเงินพุ่งสูงสุดรอบ 8 ปี

ข่าวต่างประเทศ Tuesday February 2, 2021 07:07 ?สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (1 ก.พ.) โดยสัญญาทองคำดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 1,860 ดอลลาร์ เพราะได้แรงหนุนจากราคาสัญญาโลหะเงินที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 ปี อันเนื่องมาจากคำสั่งซื้อของนักลงทุนรายย่อย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 13.6 ดอลลาร์ หรือ 0.74% ปิดที่ 1,863.9 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. พุ่งขึ้น 2.504 ดอลลาร์ หรือ 9.3% ปิดที่ 29.418 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 19 ก.พ.2556

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 59.6 ดอลลาร์ หรือ 5.52% ปิดที่ 1,138.8 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. พุ่งขึ้น 33.30 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 2,241.70 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำปรับตัวตามราคาโลหะเงินที่พุ่งขึ้นกว่า 9% ปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 8 ปีเมื่อคืนนี้ หลังกลุ่มนักลงทุนรายย่อยได้เล็งเป้าหมายใหม่เป็นโลหะเงินเพื่อดันราคาขึ้น หลังจากที่ได้ใช้กลยุทธ์ในลักษณะเดียวกันนี้กับหุ้น GameStop ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายวิดีโอเกมชื่อดังในสหรัฐ เพื่อสั่งสอนกองทุนเฮดจ์ฟันด์รายใหญ่ที่มักเก็งกำไรด้วยการขายชอร์ตในตลาด

รายงานระบุว่า กลุ่มนักลงทุนรายย่อยในห้อง WallStreetBets ซึ่งมีสมาชิกกว่า 7.6 ล้านรายบนเว็บบอร์ด Reddit ได้หันมาเล็งเป้าหมายตลาดโลหะเงินในขณะนี้ โดยชักชวนกันให้ทุ่มซื้อโลหะเงินเพื่อกดดันให้เฮดจ์ฟันด์ต้องกลับเข้าซื้อคืนสัญญาโลหะเงินเพื่อตัดขาดทุน หลังจากที่ได้ขายชอร์ตก่อนหน้านี้ โดยเก็งว่าราคาโลหะเงินมีแนวโน้มในช่วงขาลงต่อไป

นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ในช่วงเวลาที่หลายประเทศยังคงใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

นักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของทำเนียบขาว โดยรายงานล่าสุดระบุว่า วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน 10 คนได้เรียกร้องให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดนปรับลดวงเงินในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจลงจากระดับ 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อให้สามารถผ่านการอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาสหรัฐ

***น้ำมัน WTI ปิดพุ่ง $1.35 ขานรับซาอุฯลดผลิต-คาดดีมานด์น้ำมันฟื้นตัว

ข่าวต่างประเทศ Tuesday February 2, 2021 06:47 ?สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% เมื่อคืนนี้ (1 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า พายุหิมะทางฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐจะทำให้ความต้องการใช้พลังงานปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้ปัจจัยบวกจากการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. พุ่งขึ้น 1.35 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 53.55 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 1.31 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 56.35 ดอลลาร์/บาร์เรล

นักลงทุนคาดการณ์ว่า ความต้องการใช้พลังงานในสหรัฐจะสูงขึ้นเนื่องจากพื้นที่ฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐกำลังเผชิญพายุหิมะที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายปี โดยพายุหิมะครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่รัฐเพนซิลเวเนียไปจนถึงนิวอิงแลนด์

รายงานระบุว่า สายการบินต่างๆในสหรัฐประกาศยกเลิกเที่ยวบินในพื้นที่นครนิวยอร์ก เนื่องจากความกังวลที่ว่าอาจจะเกิดลมกรรโชกแรงและหิมะตกหนักในภูมิภาค โดยเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเรียกร้องให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางบนท้องถนน

ข้อมูลจาก Flightaware.com ระบุว่า สายการบินประกาศยกเลิกเที่ยวบิน 151 เที่ยวหรือคิดเป็น 3 ใน 4 ของเที่ยวบินที่เดินทางออกจากสนามบินนานาชาติจอห์น เอฟ. เคนเนดี รวมถึงอีก 102 เที่ยวบิน หรือคิดเป็น 86% จากสนามบินลากวาร์เดีย

นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้ปัจจัยหนุนจากรายงานที่ว่ากลุ่มโอเปกพลัสได้ปฏิบัติตามข้อตกลงการปรับลดการผลิตน้ำมันอย่างเคร่งครัด โดยซาอุดีอาระเบียปรับลดกำลังการผลิต 1 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 8.125 ล้านบาร์เรล/วัน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.ไปจนถึงสิ้นเดือนมี.ค. ขณะที่กลุ่มโอเปกพลัส มีกำหนดคงกำลังการผลิตน้ำมันที่ระดับ 7.2 ล้านบาร์เรล/วันในช่วงเวลาดังกล่าว

***ดาวโจนส์ปิดบวก 229.29 จุด รับแรงซื้อหุ้นเทคโนฯ-หุ้นเหมือง

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 2, 2021 06:23 ?สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (1 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะหุ้นแอมะซอนดอทคอมที่ทะยานขึ้นกว่า 4% ก่อนที่บริษัทจะเปิดเผยผลประกอบการในวันนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่ดีดตัวขึ้นหลังจากราคาโลหะเงินพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 ปี อันเนื่องมาจากคำสั่งซื้อของนักลงทุนรายย่อย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,211.91 จุด เพิ่มขึ้น 229.29 จุด หรือ + 0.76% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,773.86 จุด เพิ่มขึ้น 59.62 จุด หรือ +1.61% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,403.39 จุด เพิ่มขึ้น 332.70 จุด หรือ +2.55%

หุ้นทั้ง 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้นทั้งหมด นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่พุ่งขึ้นกว่า 2.5% โดยหุ้นแอมะซอนดอทคอม ทะยานขึ้น 4.26% หุ้นอัลฟาเบท พุ่งขึ้น 3.6% หุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 3.32% หุ้นแอปเปิล บวก 1.65% หุ้นเฟซบุ๊ก ดีดตัวขึ้น 1.42% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ บวก 1.25%

หุ้นกลุ่มเหมืองแร่พุ่งขึ้น นำโดยหุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอร์แกน พุ่งขึ้น 4.95% หุ้นอัลโค อิงค์ พุ่งขึ้น 4.5% หุ้นยูไนเต็ด สเตทส์ สตีล ดีดขึ้น 2.08% โดยหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ได้แรงหนุนจากราคาโลหะเงินที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 ปี หลังนักลงทุนรายย่อยในตลาดหุ้นสหรัฐได้เล็งเป้าหมายใหม่เป็นโลหะเงินเพื่อดันราคาขึ้น หลังจากที่ได้ใช้กลยุทธ์ในลักษณะเดียวกันนี้กับหุ้น GameStop เพื่อสั่งสอนกองทุนเฮดจ์ฟันด์รายใหญ่ที่มักเก็งกำไรด้วยการขายชอร์ต

หุ้น GameStop ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายวิดีโอเกมชื่อดังในสหรัฐ ร่วงลง 30.77% ซึ่งช่วยให้ตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับความผันผวนในตลาด หลังจากที่ราคาหุ้น GameStop พุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงในช่วงที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากนักลงทุนรายย่อยในห้อง WallStreetBets ซึ่งมีสมาชิกกว่า 7.6 ล้านรายบนเว็บบอร์ด Reddit ได้เล็งเป้าหมายที่จะผลักดันราคาหุ้น GameStop ให้สูงขึ้นเพื่อกดดันให้เฮดจ์ฟันด์ต้องกลับเข้าซื้อคืนหุ้นดังกล่าวเพื่อตัดขาดทุน หลังจากที่ได้ขายชอร์ตก่อนหน้านี้ โดยเก็งว่า GameStop จะต้องปิดกิจการในไม่ช้า

นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยไอเอชเอส มาร์กิต ระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐ ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 59.2 ในเดือนม.ค. จากระดับ 57.1 ในเดือนธ.ค. โดยดัชนี PMI เดือนม.ค.ถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการเก็บข้อมูลในเดือนพ.ค.2550

ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ที่เริ่มมีการเก็บรวบรวมข้อมูลในปี 2545 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.9% หลังจากพุ่งขึ้น 1.1% ในเดือนพ.ย.

นักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของทำเนียบขาว โดยรายงานล่าสุดระบุว่า วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน 10 คนได้เรียกร้องให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดนปรับลดวงเงินในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจลงจากระดับ 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อให้สามารถผ่านการอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาสหรัฐ

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนม.ค.จาก ADP, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนม.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคบริการเดือนม.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนธ.ค. และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค.