ผู้เขียน หัวข้อ: ยานยนต์-นิคมฯเฮ!รับอีโคคาร์ เฟส 2  (อ่าน 1040 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 85662
    • ดูรายละเอียด
ยานยนต์-นิคมฯเฮ!รับอีโคคาร์ เฟส 2
« เมื่อ: ตุลาคม 04, 2013, 09:22:14 AM »
 
ยานยนต์-นิคมฯเฮ!รับอีโคคาร์ เฟส 2

          สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย (4 ต.ค.56) - - โบรกเกอร์เชียร์ทยอยเก็บหุ้นยานยนต์-นิคมอุตสาหกรรม หลังบีโอไอคลอดเกณฑ์ อีโค คาร์ เฟส 2 หนุนการลงทุนและยอดขายชิ้นส่วนยานยนต์ทะลัก คาดดันยอดผลิตรถยนต์รวมแตะ 3 ล้านคัน???ายใน 4 ปี กูรูให้น้ำหนักลงทุน ?มากกว่าตลาด? คาดระยะยาวยังเติบโตได้ดี แนะซื้อลงทุน AH- SAT- TRU และเลือก STANLY เป็นหุ้นเด่น เหตุรับผลบวกมากสุด หลังขายอุปกรณ์ส่องสว่างรถยนต์ให้หลายค่าย ทั้ง นิสสัน ฮอนด้า ซูซูกิ มิตซูบิชิ ส่วน HEMRAJ AMATA ได้ดีด้วย

บีโอไอ ไฟเขียว อีโคคาร์ เฟส 2
         นายประเสริฐ บุญชัยสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(BOI) ออกประกาศส่งเสริมการลงทุนในโครงการอีโคคาร์ ระยะที่ 2(เฟส2) แล้ว โดยเปิดให้ผู้ประกอบการค่ายรถยนต์ที่สนใจยื่นคำขอส่งเสริมเพื่อเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่บัดนี้ ไปจนถึงวันที่ 31 มี.ค.57 มั่นใจช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ของประเทศไทย ซึ่ง BOI จะเชิญค่ายรถยนต์ร่วมรับฟังรายละเอียดโครงการอย่างเป็นทางการ???ายใน 2 สัปดาห์
         ทั้งนี้ ผู้ประกอบการค่ายรถยนต์จะต้องยื่นคำขอส่งเสริมโครงการ???ายใต้เงื่อนไขและหลักเกณฑ์ต่างๆ ที่กำหนดไว้ ได้แก่ มีมูลค่าเงินลงทุนไม่น้อยกว่า 6,500 ล้านบาท โดยผู้ประกอบการจะต้องลงทุนผลิตแบบครบวงจรทั้งการประกอบรถยนต์และการผลิตชิ้นส่วนและเครื่องยนต์ มีปริมาณการผลิตไม่น้อยกว่า 100,000 คันต่อปี นับตั้งแต่การผลิตปีที่ 4 เป็นต้นไป
       สำหรับเครื่องยนต์ที่ใช้สำหรับอีโคคาร์รุ่นที่ 2 จะต้องเป็นเครื่องยนต์มาตรฐานยูโร 5 ที่มีมาตรฐานในการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ไม่เกิน 100 กรัมต่อกิโลเมตร และต้องมีอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงไม่เกิน 4.3 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร สำหรับขนาดเครื่องยนต์ของอีโคคาร์ 2 หากเป็นเครื่องยนต์เบนซินต้องมีขนาดไม่เกิน 1300 ซีซี ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลต้องมีขนาดไม่เกิน 1500 ซีซี
         ส่วนผู้ประกอบการค่ายรถยนต์รายเดิมที่เคยเข้าร่วมโครงการอีโคคาร์รุ่นที่ 1 สามารถเลือกขยายการลงทุนได้ 3 ทาง คือ 1.สามารถยื่นขอรับส่งเสริมลงทุนผลิตอีโคคาร์รุ่นที่ 2 ???ายใต้เงื่อนไขใหม่ แต่มูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำลดจากเงื่อนไข 6,500 ล้านบาท เหลือ 5,000 ล้านบาท 2.ยื่นขอขยายการลงทุนผลิตอีโคคาร์รุ่นที่ 1 ???ายใต้เงื่อนไขและสิทธิประโยชน์การลงทุนเดิม โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้น???าษีเงินได้นิติบุคคลเท่ากับจำนวนปีที่เหลืออยู่ และ 3.ผู้ผลิตอีโคคาร์รุ่นที่ 1 สามารถยื่นขอขยายการผลิตทั้งอีโคคาร์รุ่นที่ 1 และเพิ่มการผลิตอีโคคาร์รุ่นที่ 2 ได้ด้วย โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้น???าษีเงินได้นิติบุคคลเท่ากับจำนวนปีที่เหลืออยู่

โบรกฯ คาด STANLY-AH-SAT รับผลบวกมากสุด
       บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (MBKET) ระบุว่า จากประกาศ อีโค-คาร์ รุ่น 2 จะช่วยเสริมโปรดักต์แชมเปี้ยนตัวใหม่ หนุนเป้าการผลิตรถอีโค-คาร์จาก 5 แสนคัน เป็น 9.3 แสนคัน ในปี 2561 และ คาดยอดผลิตรถยนต์รวมจะเพิ่มเป็น 3 ล้านคัน ในปี 2560 เรามอง STANLY จะได้ประโยชน์จากโครงการอีโค-คาร์มากสุด จากปัจจุบัน มีการผลิตไฟหน้าและไฟท้าย ให้กับรถอีโค-คาร์ 4 รุ่น คือ นิสสัน ฮอนด้า ซูซูกิ มิตซูบิชิ โดยเราให้น้ำหนักการลงทุน ?มากกว่าตลาด? คาดระยะยาวจะยังเติบโต สำหรับหุ้นที่เราแนะนำ ซื้อ ในกลุ่มในลักษณะลงทุน ได้แก่ AH-SAT- STANLY และ TRU
        สำหรับโครงการอีโค-คาร์ รุ่น 2 จะหนุนยอดผลิตรถอีโค-คาร์รวม 9 แสนคัน ปัจจุบันมี 5 ค่ายรถที่ได้รับการส่งเสริมรถอีโค-คาร์ รุ่นแรก คือ นิสสัน ฮอนด้า ซูซูกิ มิตซูบิชิ และโตโยต้า ด้านการผลิตล่าสุด ม.ค.-ส.ค. มี 2.37 แสนคัน คาดว่าสิ้นปีนี้จะไม่ต่ำกว่า 3 แสนคัน สูงกว่าปีที่แล้วที่ผลิต 2.58 แสนคัน ส่วนโครงการอีโค-คาร์ รุ่น 2 นี้ คาดจะมีค่ายรถยนต์อื่นๆ เข้าร่วมนอกจาก 5 ค่ายรถยนต์ดังกล่าว ซึ่งจะผลักดันให้ยอดผลิตอีโค-คาร์ รุ่น 1 และ รุ่น 2 มีเป้าเพิ่มขึ้นเป็น 9.3 แสนคัน ในปี 2561 และ จะทำให้ยอดผลิตรถยนต์รวมเกิน 3 ล้านคัน ตั้งแต่ปี 2560
        MBKET ระบุต่อว่า สำหรับราคาหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ได้ทรุดหนักลงมาใกล้ช่วงที่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมปี 2554 สะท้อนข่าวลบมากเกินไป ในขณะที่กำไรปี 2556 จะมากกว่าปี 2554 เท่าตัว และ ปรับลดลงจากปี 2555 ไม่มากนัก เรายังมีมุมมอง ?เป็นบวก? สำหรับกลุ่มยานยนต์ในระยะยาว สำหรับหุ้นที่เราแนะนำ ซื้อในลักษณะลงทุน ในกลุ่ม คือ AH (เป้าหมาย 26 บาท) SAT (เป้าหมาย 26 บาท) STANLY (เป้าหมาย 280 บาท) และ TRU (เป้าหมาย 10.8 บาท)
        ด้าน บล.เคจีไอ ระบุว่า จากการที่บีโอไอ ออกเกณฑ์อีโคคาร์ 2 เป็นทางการ ค่ายรถสามารถยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนจนถึง 31 มี.ค.57 กระทรวงอุตสาหกรรมฯ คาดมีค่ายรถสนใจ 5-6 ราย (ค่ายรถที่ทำอีโคคาร์ 1 อยู่แล้วสามาถยื่นขออีโคคาร์ 2 ได้ด้วย) คาดเป็นบวกต่อกลุ่มนิคมฯ (HEMRAJ, AMATA) และกลุ่มยานยนต์ (SAT, AH, STANLY) ทั้งนี้ คาดการลงทุนจะเกิดขึ้นในช่วงต้นปี 2558

บิ๊ก STANLY ยิ้มรับยอดขายอุปกรณ์ส่องสว่างพุ่ง
        นายอ???ิชาต ลี้อิสสระนุกูล ประธานกรรมการ บริษัท ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ STANLY เปิดเผยกับ "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" ถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ประกาศส่งเสริมการลงทุนรถยนต์อีโค คาร์ รุ่น 2 ว่า จะส่งผลบวกกับบริษัทที่จะได้รับคำสั่งซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น จากเดิมที่บริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดในด้านอุปกรณ์ส่องสว่างรถยนต์อยู่แล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะส่งผลดีมากน้อยแค่ไหน ซึ่งจะต้องรอดูว่าผู้ผลิตรถยนต์ค่ายต่างๆ จะเข้ามายื่นขอรับสิทธิมากน้อยแค่ไหน
        ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่า ค่ายรถยนต์ที่มีการผลิตรถยนต์อีโค คาร์ รุ่น 1 จำนวน 5 ราย คือ โตโยต้า ฮอนด้า ซูซูกิ มิตซูบิชิ นิสสัน จะมีการยื่นขอรับส่งเสริมฯ เพราะมีการลงทุนเพิ่มอีกไม่มาก จากปัจจุบันที่มีการผลิตอยู่แล้ว และคาดว่าจะมีผู้ประกอบการค่ายรถยนต์รายใหม่เข้ามายื่นขอเพื่อผลิตรถยนต์อีโค คาร์ ซึ่งจะต้องติดตาม เพราะสามารถขอยื่นรับสิทธิ์ได้ถึง 31 มีนาคม 2557
        สำหรับรายได้รวมในรอบปี 2557 (เม.ย.56-มิ.ย.57) นั้น บริษัทฯ คาดว่าจะมีการเติบโตไปตาม???าวะอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งตนมองว่าจะมีการเติบโต 5-10% แต่จาก???าวะเศรษฐกิจไทยที่มีการเติบโตลดลง และ ???าวะเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ฟื้นตัวนั้น ทำให้ส่วนตัวไม่แน่ใจว่าอุตสาหกรรมยานยนต์จะมีการเติบโตได้ตามเป้าหรือไม่เพราะ เร็วเกินไปที่ประเมินต้องติดตามสถานการณ์อีกสักระยะ
        ส่วนแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส2/57 (ก.ค.56-ก.ย.56)นั้น ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ว่าจะปรับตัวดีขึ้นกว่าไตรมาส1/57 (เม.ย.56-มิ.ย.56) หรือไม่ เพราะเพิ่งจะปิดงบไป   เมื่อเร็วๆ นี้ อนึ่ง ณ ไตรมาส1/57 (เม.ย.56-มิ.ย.56) บริษัทฯ มีรายได้ 2,925.17 ล้านบาท กำไรสุทธิ 391.56 ล้านบาท

โบรกฯ ชี้ TRU มีอัพไซด์จากการหาพันธมิตร
        MBKET ออกบทวิเคราะห์หุ้น TRU โดยระบุว่า ปัจจุบันซื้อขาย P/E ปี 2556 ที่ต่ำ 7.9 เท่า และ มีอัตราเงินปันผลตอบแทน 6.4% TRU มีศักย???าพที่จะโตในระยะยาว ดังนั้น จึงคงคำแนะนำ ซื้อ ในลักษณะลงทุน ประเมินราคาเป้าหมาย 10.8 บาท (ลดลงจากเดิม 12.5 บาท) บนฐาน P/E 12 เดือนข้างหน้าเท่ากับ 12 เท่า เช่นเดียวกับหุ้นอื่นๆในกลุ่มยานยนต์
          ทั้งนี้ คาดว่าแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/56 จะตกต่ำต่อเนื่องจากไตรมาส 2/56 ได้รับผลกระทบจากงานประกอบและพ่นสีของลูกค้าหลักสองรายลดกำลังการผลิตลงมาก เราปรับประมาณการยอดขายและกำไรลงอีก แต่แนวโน้มในระยะยาวคาดจะเติบโตตามอุตสาหกรรมรถยนต์ และ มีอัพไซด์จากการเจรจาหาพันธมิตรร่วมทุน โดยประเมินยอดขายในปีนี้จะติดลบ 6% เหลือ 3,275 ล้านบาท และ มีกำไรทรุดลงเหลือ 404 ล้านบาท (-27%yoy) มีอัพไซด์จากการเจรจาหาพันธมิตรร่วมทุน
          TRU เป็นบริษัทผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ที่ครบวงจรมากสุด มีประเด็นที่จะช่วยเพิ่มอัพไซด์ในอนาคตซึ่งเรายังไม่รวมในประมาณการคือ 1.) บริษัทกำลังเจรจาร่วมมือกับพันธมิตรญี่ปุ่น เพื่อผลิตตัวถังรถบรรทุกขนาดใหญ่แบบสั่งต่อ 2.) ร่วมมือกับพันธมิตรจากประเทศจีน เพื่อประมูลผลิตรถเมล์ NGV 3.) การหาพันธมิตรในการผลิตรถเฉพาะทาง เช่น รถขนาด Mini Bus, รถ TR Transformer, รถตรวจการณ์ลาดตระเวนทางการทหาร (MUV4), รถฉุกเฉินเคลื่อนที่เร็ว ส่วนความเสี่ยง คือ 1.) อุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศมีแนวโน้มจะชะลอตัวในครึ่งปีหลัง 2.) ปัญหาขาดแคลนแรงงาน
 
 
 
เรียบเรียง โดย นายศักดิ์ชาย  งอกงาม

อีเมล์แสดงความคิดเห็น  commentnews@efinancethai.com
 
 
 

ที่มา สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย     วันที่   04/10/13   เวลา   8:27:00