ผู้เขียน หัวข้อ: ปัญหายางต้องแก้ทั้งระบบ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์  (อ่าน 1169 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 84444
    • ดูรายละเอียด
ปัญหายางต้องแก้ทั้งระบบ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

ม็อบยางพารา เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดี เลิกปิดถนน เลิกปิดทางรถไฟ เมื่อทีมเจรจารัฐบาล พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกฯ และ กิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯและรัฐมนตรีคลัง ได้ข้อสรุปร่วมกับ แกนนำส่วนใหญ่ ยอมรับราคายางที่ กิโลกรัมละ 90 บาท แต่มีแกนนำบางกลุ่มยังไม่พอใจ ต้องการกิโลกรัมละ 95 บาท หากไม่ได้จะปิดประเทศโดยเฉพาะด่านสะเดา
ทำไม ชาวสวนยาง???าคใต้ จึงต้องการให้รัฐบาล ประกันราคาที่กิโลกรัมละ 95?100 บาท โดย ไม่สนใจความช่วยเหลือไร่ละ 1,260 บาท รายละ 25 ไร่ ซึ่งเป็นเงินถึง 31,500 บาท หรือกิโลกรัมละ 6 บาท
คำตอบก็คือ มันไม่ตอบโจทย์ปัญหาของชาวสวนยาง???าคใต้
ซึ่งแตกต่างจากชาวสวนยาง???าคอื่น เพราะระบบสวนยางใน???าคใต้ เจ้าของสวนยาง ใช้วิธี แบ่งปันผลผลิต คือ นํ้ายาง กับ ผู้กรีดยาง แบบครึ่งต่อครึ่งเป็นส่วนใหญ่ คือ 50 ต่อ 50 เพราะแรงงานกรีดยางทางใต้หายากมาก เจ้าของสวนยางเองก็ไม่มีกำลังพอที่จะกรีดยางทุกเช้ามืดวันละ 25 ไร่ 100 ไร่ จึงต้องใช้วิธีแบ่งผลประโยชน์กับผู้กรีด
ทุกวันนี้สวนยางใน???าคใต้ ไม่มีการจ้างคนงานกรีดยาง มีแต่ผู้รับจ้างกรีดยางด้วยการแบ่งปันผลผลิต 50?50 ทำให้ ผู้รับจ้างกรีดยาง มีผลผลิต เหมือนเป็นเจ้าของสวนยางอีกคน มีรายได้จากการ ขายนํ้ายาง ที่เป็น ส่วนแบ่ง รวมทั้งขี้ยางที่เป็นรายได้เสริม
เมื่อรัฐบาลมีมติให้ ช่วยเหลือต้นทุนการผลิตไร่ละ 1,260 บาท
รายละ 25 ไร่ เงินส่วนนี้ก็ไปตกกับ เจ้าของสวนยาง ไม่ใช่ ผู้กรีดยาง เจ้าของสวนยางก็จะมีรายได้ 2 ต่อ คือรายได้จากการขายยาง และรายได้จากการช่วยเหลือของรัฐบาลไร่ละ 1,260 บาท แต่ผู้กรีดยางกลับไม่ได้อะไรเลย มีเพียงรายได้จากการขายยางเท่านั้น
ตรงนี้แหละครับที่ แกนนำบางคน ซึ่งน่าจะเป็น ตัวแทนผู้กรีดยาง จึง ไม่รับข้อเสนอของรัฐบาล และ ต้องการให้รัฐบาลรับประกันราคาขายอย่างเดียว โดยไม่สนใจความช่วยเหลือต้นทุน เพราะผู้กรีดยางไม่ได้รับเงินช่วยเหลือก้อนนี้ มีรายได้จากการขายยางที่เป็นส่วนแบ่งอย่างเดียว เขาจึงต้องการให้รัฐบาลรับประกันราคายาง ถ้าจะประเมินกันคร่าวๆ จำนวนผู้กรีดยาง มีมากกว่า เจ้าของสวนยาง แน่นอน
การแก้ปัญหายาง???าคใต้ รัฐบาลจึงต้องมอง 2 ด้าน คือ ด้านเจ้าของสวนยาง และ ด้านผู้กรีดยาง มิฉะนั้นการแก้ปัญหาก็จะไม่ลงตัว เพราะผลประโยชน์ต่างกันรัฐบาลยังมีเวลาคิดอีกหลายวันก่อนจะถึงวันชุมนุมอีกครั้ง
นอกจากนี้ยังมีอีกกลุ่มคือ ชาวสวนยางที่บุกรุกป่าสงวน ซึ่งรัฐปล่อยปละละเลยมานาน จะไม่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล เพราะ ผิดกฎหมาย ไม่มีเอกสารสิทธิที่ดิน
ปัญหาทั้งหมดนี้ หากมองย้อนกลับไป ก็ต้องโทษทั้ง รัฐบาลไทยรักไทย ที่กลายมาเป็น รัฐบาลเพื่อไทย ในเวลานี้ และ รัฐบาลประชาธิปัตย์ ที่ฝันหวานจะให้ประเทศไทยเป็น ?รับเบอร์ซิตี้? เมืองศูนย์กลางยางโลก แต่ฝันของไทย ทุกรัฐบาลกลับทำแค่ครึ่งเดียว คือ ส่งเสริมให้ปลูกยาง แต่กลับไม่มีการส่งเสริมพัฒนาอุตสาหกรรมยางให้ต่อเนื่องครบวงจร
ต่างจาก มาเลเซีย ซึ่งส่งเสริมพัฒนาอุตสาหกรรมยางอย่างต่อเนื่อง มีการทุ่มเทวิจัย ?พันธุ์ยางใหม่ๆ? ที่ ให้น้ำยางมากขึ้น มาเลเซียถือว่า ?นวัตกรรมยาง? เป็น ?ความลับแห่งชาติ? โดยเฉพาะ ?พันธุ์ยาง? ห้ามเปิดเผย ห้ามนำออกนอกประเทศ ไม่เชื่อรัฐบาลลองไปขอซื้อพันธุ์ยางหรือขอดูข้อมูลการพัฒนายางในมาเลเซียก็ได้ เขาจะให้ดูถึงแก่นหรือไม่
ยังไม่สายครับ ที่รัฐบาลจะเริ่มต้นแก้ไขใหม่ ก็ทำเหมือน ?ข้าว? นี่แหละ ต้องมีการ โซนนิ่งพื้นที่ปลูกยาง เพื่อจำกัดปริมาณสวนยางให้พอประมาณ วิจัยพันธุ์ยางใหม่ๆ เพื่อให้น้ำยางต่อไร่เพิ่มขึ้น ให้ชาวสวนยางมีรายได้เพิ่มขึ้นอัตโนมัติตามผลผลิตน้ำยางที่เพิ่มขึ้น แล้วพัฒนาอุตสาหกรรมยางให้ต่อเนื่องครบวงจร ทุกขั้นตอนต้องทำด้วย ?ความจริงใจ? ครับ ไม่ใช่แค่ ?หาเสียง? เหมือนหลายสิบปีที่ผ่านมา.