ผู้เขียน หัวข้อ: STA เล็งเข้าลงทุนใน'ไทยกอง'ผู้ผลิตถุงมือยาง คาดสรุปภายในสิ้นปีนี้ หลังผู้บริหารจะเข้าลงทุนในนามส่วนตัวก่อน  (อ่าน 549 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 84897
    • ดูรายละเอียด
STA เล็งเข้าลงทุนใน'ไทยกอง'ผู้ผลิตถุงมือยาง คาดสรุปภายในสิ้นปีนี้ หลังผู้บริหารจะเข้าลงทุนในนามส่วนตัวก่อน

บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA) แจ้งว่าตามที่บริษัทได้รับหนังสือจากบริษัท ถุงทอง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (TT) เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.61 เพื่อเสนอขายหุ้นในบริษัท ไทยกอง กรุ๊ป จำกัด (TKG) ที่ TT ถืออยู่ประมาณ 100% โดย TKG เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้น (Holding Company) และถือหุ้น 95 % ในบริษัท ไทยกอง จำกัด (TK) ซึ่งเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจผลิตถุงมือยางเพียงบริษัทเดียว โดยหนังสือฉบับดังกล่าวได้ระบุมูลค่าเสนอขายและข้อจำกัดที่เป็นเงื่อนไขหลัก 2 ประการ ได้แก่  (1) TT จะต้องได้รับชำระเงินค่าหุ้น TKG ให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 20 ก.ค.61 เนื่องจาก TT มีข้อจำกัดด้วยกำหนดระยะเวลาของภาระผูกพันทางการเงินของตน และ (2) ผู้ถือหุ้นรายอื่นใน TK ยังคงมีความประสงค์ที่จะคงสัดส่วนการถือหุ้น 5% ต่อไป
          อย่างไรก็ตามที่ประชุมคณะกรรมการของ STA เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.61 ไม่ได้อนุมัติให้บริษัทเข้าซื้อหุ้นใน TKG จาก TT เนื่องจากการเข้าลงทุนใน TK ผ่านการถือหุ้นของ TKG นั้นควรจะต้องใช้เวลาในการตรวจสอบข้อมูลและกิจการ (Due Diligence) ของ TKG และ TK ให้ถี่ถ้วน รวมทั้งควรจัดจ้างที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงการร่างสัญญาและการประเมินมูลค่ากิจการด้วยวิธีการต่าง ๆ ที่เหมาะสมซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาในการนี้เกินกว่า 1 เดือน แม้การลงทุนใน TK น่าจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า แต่ระยะเวลาที่ให้ไม่สามารถขยายออกไปได้นั้นไม่เพียงพอต่อการตรวจสอบข้อมูลและกิจการ ที่จะทำให้มีข้อมูลเพียงพอและเหมาะสมในการตัดสินใจด้วยความรอบคอบระมัดระวัง
          ขณะที่นายไวยวุฒิ สินเจริญกุล ประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการ ของบริษัท ได้ขอให้คณะกรรมการบริษัท พิจารณารักษาโอกาสในการเข้าลงทุนใน TK ผ่าน TKG ในการประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 5/2561 เมื่อวันที่ 10 ก.ค.61 ด้วยเหตุผลว่าการที่บริษัทจะได้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ TK และมี TK เข้ามาอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัท จะสร้างประโยชน์ที่คุ้มค่าสำหรับธุรกิจถุงมือยางของบริษัท เนื่องจากTK เป็นผู้ผลิตถุงมือยางรายหนึ่งให้กับบริษัทซึ่งสามารถผลิตสินค้าที่มีคุณภาพตรงตามความต้องการของลูกค้าของบริษัท ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการจัดหาผลิตภัณฑ์ของบริษัทอย่างต่อเนื่องให้กับลูกค้าของบริษัท ถือเป็นการสร้าง Synergy Value เพิ่มเติมจากผลกำไรในการลงทุนปกติ และหาก TK ตกเป็นของคู่แข่งทางธุรกิจอาจสร้างความเสียหายแก่ธุรกิจถุงมือยางของบริษัทได้ทั้งจากการแข่งขันที่จะรุนแรงขึ้นและความเสี่ยงในการจัดหาผลิตภัณฑ์ของบริษัท
          นอกจากนี้ธุรกิจถุงมือยางมีทิศทางที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทสามารถขยายกำลังผลิตของ TK ขึ้นอีก อย่างมีนัยสำคัญอันจะเป็นการสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจถุงมือยางให้แก่บริษัท และการลงทุนใหม่เพื่อให้ได้กำลังการผลิตเทียบเท่ากับกำลังการผลิตของ TK ในปัจจุบันจะต้องใช้ระยะเวลานานถึง 18-24 เดือน ซึ่งการลงทุนใน TK จึงเป็นการเพิ่มกำลังการผลิตให้กับบริษัทได้ทันที ตลอดจนการวิเคราะห์ในเบื้องต้นโดยเทียบเคียงกับบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ รายการซื้อขาย ในอดีต และมูลค่าในการลงทุนใหม่ ราคาที่ผู้เสนอขายเสนอเป็นราคาที่อยู่ในเกณฑ์ที่น่าสนใจในการเข้าลงทุน
          อย่างไรก็ตามการเข้าซื้อหุ้น TKG เพื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ TK ทางอ้อม 95% นั้นมีความเสี่ยงจากการมีเวลาไม่เพียงพอในการตรวจสอบข้อมูลและกิจการ  ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัท ดังนั้น นายไวยวุฒิ จึงจะเข้าลงทุนใน TK ผ่านการซื้อหุ้น TKG ด้วยเงินลงทุนของตนเองภายในระยะเวลาที่ ผู้เสนอขายกำหนด โดยจะเป็นผู้รับความเสี่ยงจากการขาดข้อมูลที่เพียงพอด้วยตนเอง หลังจากนั้นจะให้บริษัทเข้าทำการตรวจสอบข้อมูลและกิจการ  ของ TKG และ TK และศึกษารูปแบบการเข้าลงทุนที่เหมาะสมโดยละเอียด
          ทั้งนี้ นายไวยวุฒิ จะให้คำมั่นเป็นหนังสือแก่บริษัท โดยให้มีกำหนดระยะเวลา ที่บริษัทจะสนองตอบเป็นหนังสือว่าบริษัทสนใจจะเข้าลงทุนใน TK หรือไม่ในรูปแบบใดภายในวันที่ 31 ธ.ค.61 ซึ่งจะเป็นการให้สิทธิแก่บริษัทแต่เพียงผู้เดียวในการเข้าลงทุนไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมใน TK เพื่อนำ TK มาเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัท โดยใช้ราคาทุน (ซึ่งรวมต้นทุนทางการเงิน) ที่นายไวยวุฒิ ได้มาซึ่งหุ้นของ TK และจะให้บริษัทเป็นผู้กำหนดรูปแบบในการลงทุนที่เห็นว่าเหมาะสม
          ดังนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าบริษัทไม่ได้เสียประโยชน์จากแนวทางการเข้าลงทุนที่นายไวยวุฒิ เสนอ และถือเป็นโอกาสลงทุนในธุรกิจผลิตถุงมือยางที่น่าจะคุ้มค่าของบริษัท จึงมีมติไม่คัดค้านในการที่นายไวยวุฒิ จะเข้าลงทุน ใน TK ผ่านการซื้อหุ้น TKG ภายใต้คำมั่นที่ จะให้ไว้แก่บริษัทตามหลักการข้างต้น