ผู้เขียน หัวข้อ: ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น55.67จุด  (อ่าน 305 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 84583
    • ดูรายละเอียด
ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น55.67จุด
« เมื่อ: กันยายน 01, 2017, 08:46:27 AM »
ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น55.67จุด

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (31 ส.ค.) ที่ 21,948.10 จุด เพิ่มขึ้น 55.67 จุด หรือ +0.25% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,471.65 จุด เพิ่มขึ้น 14.06 จุด หรือ +0.57% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,428.66 จุด เพิ่มขึ้น 60.35 จุด หรือ +0.95% หลังจากนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐได้ออกมาส่งสัญญาณว่า รัฐบาลกำลังผลักดันมาตรการปฏิรูปภาษีให้มีผลบังคับใช้ภายในช่วงสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ ข้อมูลเงินเฟ้อที่ซบเซาของสหรัฐยังช่วยให้นักลงทุนมีความหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ขานรับความคืบหน้าในการผลักดันมาตรการปฏิรูปภาษีของรัฐบาลสหรัฐ โดยนายมนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ขณะนี้รัฐบาลมีแผนปฏิรูปภาษีที่ลงลึกในรายละเอียดแล้ว และกำลังผลักดันให้มีผลบังคับใช้ภายในปีนี้

การส่งสัญญาณในด้านบวกของรัฐมนตรีคลังสหรัฐมีขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้แถลงนโยบายภาษีที่เมืองสปริงฟิลด์ รัฐมิสซิสซูรี เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยทรัมป์ได้กล่าวเน้นย้ำว่า เป้าหมายการปฏิรูประบบภาษีของเขาคือการเดินหน้าปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล ลงสู่ระดับ 15% จากระดับ 35% ในปัจจุบัน เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันและกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐ
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อล่าสุดของสหรัฐซบเซาลง โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เพิ่มขึ้นเพียง 0.3% ในเดือนก.ค. น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4% ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมการใช้จ่ายด้านอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญนั้น ขยับขึ้นเพียง 0.1% โดยดัชนีขยายตัวในอัตราดังกล่าวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3

นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขจ้างงานจะขยายตัวเพียง 180,000 ตำแหน่ง หลังจากที่ขยายตัวมากกว่า 200,000 ตำแหน่ง ติดต่อกันเป็นเวลา 2 เดือนก่อนหน้านั้น ขณะเดียวกันคาดว่า อัตราว่างงานเดือนส.ค.จะทรงตัวอยู่ที่ระดับ 4.3%
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนส.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคการผลิตเดือนส.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), การใช้จ่ายภาคการก่อสร้างเดือนก.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


ที่มา กระแสหุ้น