ผู้เขียน หัวข้อ: ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 89.44 จุด ขณะแรงเทขายหุ้นเทคโนโลยีทุบ Nasdaq ร่วงเกือบ 2%  (อ่าน 452 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 85161
    • ดูรายละเอียด

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 89.44 จุด ขณะแรงเทขายหุ้นเทคโนโลยีทุบ Nasdaq ร่วงเกือบ 2%


สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 10 มิถุนายน 2560 06:26:01 น.
 
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดแดนบวกเมื่อคืนนี้ (9 มิ.ย.) จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มการเงินและพลังงาน อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ลดช่วงบวกลงจากระดับสูงเป็นประวัติการณ์ในระหว่างวัน หลังจากที่นักลงทุนแห่เทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งฉุดให้ดัชนี Nasdaq ปิดร่วงลงไปถึงเกือบ 2%
 
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,271.97 จุด เพิ่มขึ้น 89.44 จุด หรือ +0.42% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,431.77 จุด ขยับลง 2.02 จุด หรือ -0.08% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,207.92 จุด ร่วงลง 113.85 จุด หรือ -1.80%


ตลอดสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 0.3% S&P 500 ลดลง 0.3% Nasdaq ลดลง 1.6%
 
สำหรับภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กวันศุกร์นั้น ในช่วงแรก ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นถึงกว่า 100 จุด แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยนักลงทุนซึมซับปัจจัยผลการเลือกตั้งในสหราชอาณาจักร ซึ่งไม่มีพรรคการเมืองใดครองเสียงข้างมากในสภา รวมถึงคำให้การของนายเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) เมื่อวานนี้ ที่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ และจะไม่เป็นอุปสรรคต่อการผลักดันโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ
 
อย่างไรก็ตามได้เกิดแรงเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเข้ามาในช่วงบ่าย ไม่ว่าจะเป็นแอปเปิ้ล เฟซบุ๊ก ไมโครซอฟท์ อเมซอน และอัลฟาเบท บริษัทแม่ของกูเกิล ซึ่งฉุดดัชนี Nasdaq ดิ่งลง หลังจากที่เพิ่งทำนิวไฮเมื่อวันพฤหัสบดี
 
ตลาดเริ่มปรับตัวสู่ทิศทางขาลงหลังจากที่ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการลงทุนของโกลด์แมน แซคส์ เตือนว่า ความผันผวนที่อยู่ในระดับต่ำของเฟซบุ๊ก อเมซอน แอปเปิ้ล ไมโครซอฟท์ และอัลฟาเบท บริษัทแม่ของกูเกิล อาจลวงตานักลงทุนจากความเสี่ยงต่างๆ ขณะที่นักวิเคราะห์กล่าวว่า หุ้นเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นคึกคักและอยู่ในช่วงขาขึ้นมานานแล้ว นักลงทุนจึงเริ่มมองหาเหตุผลที่จะขายทำกำไร
 
การร่วงลงของดัชนี Nasdaq วานนี้เป็นการปรับตัวลดลงมากที่สุดในหนึ่งวันนับตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค. และได้ถ่วงอีกสองดัชนีหลักในตลาดหุ้นนิวยอร์กให้ปรับตัวลดลงจากที่แตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ในระหว่างวัน
 
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลง 2.7% ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานและการเงินปรับตัวขึ้น 2.5% และ 1.9% ตามลำดับ
 
หุ้นแอปเปิ้ล ร่วง 3.9% หนักสุดในรอบกว่า 1 ปี หุ้นเฟซบุ๊ก ร่วง 3.3% มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว หุ้นอัลฟาเบทร่วง 3.4% อเมซอนร่วง 3.2% และไมโครซอฟท์ลดลง 2.3%
 
หุ้นเจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค บวก 2.4% และโกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป อิงค์ บวก 1.7% ขณะที่เชฟรอน บวก 2.3% และเอ็กซอนโมบิล บวก 1.9%
 
สำหรับในสัปดาห์หน้า นักลงทุนจับตาการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 13-14 มิ.ย. โดยคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้ ขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษและธนาคารกลางญี่ปุ่นก็มีกำหนดประชุมในสัปดาห์หน้าเช่นกัน