ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศและในประเทศ 11/07/56  (อ่าน 1955 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 83189
    • ดูรายละเอียด

 
สรุปข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศและในประเทศ 11/07/56

สรุปข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
   S&P ลดอันดับความน่าเชื่อถืออิตาลีลงจาก BBB+ เป็น BBB (สูงกว่าระดับขยะหรือ
Junk เพียง 2 อันดับ) พร้อมกับให้มุมมองเชิงลบ หลังคาดว่าเศรษฐกิจจะยังคงอ่อนแอเช่นเดียว
กับ???าคการเงิน พร้อมทั้งลดประมาณการ GDP อิตาลีปีหน้าลงจากเดิม -1.4% เป็น -1.9%  โดย
ระบุว่าการใช้มาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาลจะยิ่งทำให้เศรษฐกิจของอิตาลีตกต่ำ และมีแนวโน้ม
ที่จะอยู่ใน???าวะถดถอยต่อไป ขณะที่อัตราการว่างงานอยู่ที่ระดับสูงสุดนับแต่ปี 1977
    IMF ลดคาดการณ์เศรษฐกิจสเปนปีหน้าโดยให้ขยายตัว 0% จากเดิมที่คาดว่าจะเป็น
0.7% ขณะที่ในปีนี้จะมีเพียงอิตาลีที่แย่กว่าสเปน โดยเศรษฐกิจอิตาลีจะหดตัว -1.8% เมื่อเทียบ
กับสเปนที่คาดว่าจะหดตัว -1.6%
   ผลผลิต???าคอุตสาหกรรมของฝรั่งเศสเดือน พ.ค.ลดลง 0.4% หลังจากเพิ่มขึ้น 2.2%
ในเดือน เม.ย. เนื่องจากผลผลิตในกลุ่มอุตสาหกรรมถ่านโค้กและโรงกลั่นน้ำมันลดลง ขณะที่ยอด
การผลิตรถยนต์และการผลิตกระแสไฟฟ้ายังเพิ่มขึ้น
   เยอรมนี รับว่าหากเศรษฐกิจจีนชะลอตัวมากไปอาจส่งผลต่อ???าคธุรกิจในประเทศ
เนื่อง จากที่ผ่านมาพึ่งพาการส่งออกไปจีนและเอเชียมาโดยตลอด ทั้งนี้ ยอดส่งออกเดือน พ.ค.ลด
ลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปลายปี 2009 และผลผลิต???าคอุตสาหกรรมก็ปรับลดลง บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจ
กำลังฟื้นตัวอย่างยากลำบาก แม้การเพิ่มขึ้นของการนำเข้าจะบ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่ดีขึ้นในประเทศก็
ตาม
   ผลสำรวจ PMI ชี้ว่า การขยายตัวใน???าคการผลิตของจีนยังคงอ่อนแอลงในเดือน มิ.ย.
ขณะที่การส่งออกลดลง 3.1%จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่ ม.ค.2012
โดยการส่งออกไปยังสหรัฐซึ่งเป็นตลาดส่งออกใหญ่ที่สุดของจีนลดลง 5.4% ในเดือน มิ.ย.จากปี
ก่อน และการส่งออกไปยังสห???าพยุโรปลดลง 8.3% แสดงว่าแนวโน้มเศรษฐกิจจีนยังคงเติบโต
อย่างชะลอตัว
   สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันของจีนในเดือนมิ.ย.
ลงเนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัวลง ส่งผลให้การบริโ???คน้ำมันทั่วโลกในปีนี้อาจต่ำกว่าที่คาด เนื่อง
จากอุปสงค์น้ำมันของจีนมีสัดส่วนเกือบครึ่งหนึ่งของการบริโ???คน้ำมันทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นราว
790,000 บาร์เรลต่อวันในปีนี้
   ยูบีเอสเอจี คาดว่า จีนจะปล่อยให้หยวนอ่อนค่าลงในครึ่งหลังของปีนี้เพื่อช่วยเหลือ???าค
ส่งออก หลังยอดส่งออกเดือน มิ.ย. ลดลงมากที่สุดนับแต่เกิดวิกฤตการเงินโลก
   นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า BOJ จะยังคงวงเงินมาตรการซื้อหลักทรัพย์ไว้ที่ระดับเดิมใน
ปีนี้ หลังเศรษฐกิจญี่ปุ่นมีสัญญาณการขยายตัวมากขึ้น  นอกจากนี้ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อที่ไม่รวม
ผลกระทบจากการขึ้น???าษีมูลค่าเพิ่มจะเพิ่มขึ้น 1.9% ในปีงบประมาณที่เริ่มต้นเดือน เม.ย.ปี
2015
   ความเชื่อมั่นผู้บริโ???คญี่ปุ่นในเดือน มิ.ย.ลดลงเป็นครั้งแรกใน 6 เดือน เนื่องจากตลาด
หุ้นและตลาดปริวรรตเงินตราที่ผันผวนได้ส่งผลกระทบทางลบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศ
   เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้เริ่มเจรจารื้อฟื้นโรงงานที่ถูกทิ้งร้างในนิคมอุตสาหกรรม
ร่วม แกซองซึ่งเป็นสัญลักษณ์สุดท้ายแห่งความปรองดองข้ามพรมแดนอีกครั้ง โดยเกาหลีใต้ต้อง
การให้เกาหลีเหนือมีมาตรการปกป้องบริษัทและต้องคุ้มครองทรัพย์สินจากการตัดสินใจปิดแก
ซอง และให้รับปากถึงมาตรการคุ้มครองการเข้าออกนิคมฯ โดยเสรีด้วย
    ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ปิดที่ระดับ 2,008.13 จุด เพิ่มขึ้น 42.67 จุด หรือ +2.17 %
โดยเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 3 เดือน หลังนักลงทุนคาดว่า รัฐบาลอาจออกมาตรการ
กระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เนื่องจากยอดส่งออกเดือนมิถุนายนลดลง ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า
เศรษฐกิจจีนอาจชะลอลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้
   ตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่น คาดว่า จำนวนบริษัทญี่ปุ่นที่เข้าจดทะเบียนในตลาดฯ อาจเพิ่ม
ขึ้นถึง 70 แห่งในปีนี้ หรือเพิ่มขึ้น 45% เมื่อเทียบกับปีก่อน หลังตลาดหุ้นได้แรงหนุนจากนโยบาย
เศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ จนทำให้ดัชนีนิกเกอิพุ่งขึ้น 40% ในปีนี้ และกระตุ้นให้
นักลงทุนต้องการนำหุ้นใหม่เข้าจดทะเบียนมากขึ้น
   ธ.กลางจีนหลีกเลี่ยง???าวะส???าพคล่องตึงตัว โดยชะลอการขายตั๋วเงินระยะสั้นเพื่อดูดซับ
ส???าพคล่องมาตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่อัตราดอกเบี้ยระหว่างธนาคารเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่
10.77% สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยอาร์พีระยะ 7 วันในจีนลดลงมาอยู่ที่
3.59% ต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์

สรุปข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
    SET Index ปิดที่ 1,388.41 จุด ลดลง 10.28 จุด หรือ -0.73% ด้วยมูลค่าซื้อขาย
46,105.10 ล้านบาท โดยดัชนีลดลงหลังจากมีความกังวลเรื่องการถอนมาตรการผ่อนคลายทาง
การเงิน (QE) ซึ่งรายละเอียดจะมีความชัดเจนมากขึ้นในการประชุมของ FED ช่วงสิ้นเดือนนี้
รวมทั้งความกังวลต่อเศรษฐกิจและปัญหาทางการเมืองในประเทศ ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามคือ
การประชุม ธ.กลางญี่ปุ่น (BOJ) วันที่ 10-11 ก.ค.นี้ ว่าจะมีมาตรการอะไรออกมาเพื่อกระตุ้น
เศรษฐกิจใน???ูมิ???าค
   สรุปยอดสุทธิการซื้อขายของแต่ละกลุ่ม (ล้านบาท)
นักลงทุนสถาบัน -2,913.91
บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ +35.09
นักลงทุนต่างชาติ +1,813.86
นักลงทุนทั่วไป +1,135.14
   ธปท. เตรียมลดเป้า GDP ไทยจากเดิมที่คาดว่าจะ +5.1% เหลือต่ำกว่า 5% และ
คาดว่าการส่งออกปีนี้จะลดลงจากที่คาด ซึ่งเป็นผลจากเศรษฐกิจไทยชะลอตัวลงทั้งด้านการบริ
โ???ค การลงทุน การทยอยหมดลงของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ กับการเคลื่อนไหวของเงิน
ทุนที่อาจกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า
   ส???าพัฒน์ฯ เตรียมประชุมเชิงปฏิบัติการวันศุกร์นี้เพื่อแก้ปัญหาราคาสินค้าแพงและหา
มาตรการเร่งการส่งออก โดยคาดว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2 จะชะลอตัวต่อเนื่อง เนื่องจากการ
บริโ???คของ???าคเอกชนในไตรมาส 1 ขยายตัวเพียง 3.9% ต่ำกว่าที่คาดว่าจะเติบโต 6.0% และ
ยังคาดว่าจะชะลอลงในไตรมาส 2 โดยน่าจะขยายตัว 1.8% ในเดือน เม.ย.และหดตัว 0.2% ใน
เดือนพ.ค. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
   สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ลดคาดการณ์ดัชนีสิ้นปีนี้เหลือ 1,569 จุด จากเดิม
1,625 จุด ซึ่งเป็นผลจากความวิตกกังวลต่อเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว การเตรียมลดและยกเลิก
มาตรการ QE ของสหรัฐ อีกทั้งความเสี่ยงในเรื่องการเมืองไทย พร้อมปรับลดประมาณการ
GDP ปีนี้เหลือ +4.6% จากเดิม +4.9%  ส่วนปีหน้าก็ลดคาดการณ์จาก 5.0% ลงเป็น 4.8%
   ฟิทช์ เรทติ้งส์ ชี้ว่า ธ.ต่างประเทศโดยเฉพาะจากเอเชียแปซิฟิคกำลังมีสัดส่วนเพิ่ม
มากขึ้นในระบบธนาคารไทย และจากกรณีที่ ธ. โตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ (BTMU) แสดงความ
จำนงในการซื้อหุ้น BAY 75% จะส่งผลให้สัดส่วนของ ธ.ต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 26% ของ
สินทรัพย์รวมของ ธ.พาณิชย์ในประเทศไทย จากเดิมที่เป็น 18%  และจะส่งผลให้ BAY เป็น
ธนาคารพาณิชย์ที่มีผู้ถือหุ้นต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในไทย นอกจากนี้ ยังเป็นกรณีแรกที่มีการ
อนุมัติให้ต่างประเทศถือหุ้นในธนาคารไทยได้เกิน 49%
   อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับลดลงในช่วง -0.01% ถึง 0.00% ด้วยมูลค่าซื้อ
ขายรวม 67,990 ล้านบาท
   ทั้งนี้ กนง. ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.50% ต่อปี เนื่อง
จากประเมินว่าอุปสงค์ในประเทศน่าจะกลับมาขยายตัวปกติในระยะต่อไป เพราะปัจจัยพื้นฐานใน
ประเทศ เช่น การจ้างงานและรายได้ของประชาชนยังอยู่ในเกณฑ์ดี ประกอบกับนโยบายการเงิน
การคลังที่ยังผ่อนคลาย สะท้อนจากการขยายตัวของสินเชื่อ และการขาดดุลการคลังอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งเชื่อว่าจะสนับสนุนการขยายตัวของอุปสงค์ในประเทศได้ ขณะที่เศรษฐกิจและการเงินโลกยังอยู่
ในช่วงปรับตัว และมีความเสี่ยงด้านเสถียร???าพการเงินที่ต้องติดตาม


ที่มา : Good Morning News บลจ.บัวหลวง            
            
 
 
เรียบเรียง โดย ประน้อม บุญร่วม
อีเมล์แสดงความคิดเห็น  commentnews@efinancethai.com

 
 
 
ที่มา อีไฟแนนซ์ไทย     วันที่   11/07/13   เวลา   7:25:47