วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง วันอังคารที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2558

[Rakayang.Com]

วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง
วันอังคารที่  29  กันยายน  พ.ศ. 2558

ปัจจัย[/t][/t] [/t] วิเคราะห์ 1.สภาพภูมิอากาศ   - มรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น   ทำให้ภาคใต้มีฝนตกกระจายเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนร้อยละ   70-80 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรังและสตูล ซึ่งส่งผลกระทบต่อการกรีดยาง   2.การใช้ยาง   - ตามข้อมูลของ IRSG ระบุว่า ในช่วงท้ายของไตรมาสแรกปีนี้ สต๊อกยางทั่วโลกมีมากกว่า 3 ล้านตัน ซึ่งมากพอที่จะจำหน่ายในตลาดโลกได้มากกว่า 3 เดือน และจากข้อมูลของคณะกรรมการยางอินเดียพบว่าการผลิตยางธรรมชาติของอินเดียใน เดือนสิงหาคมที่ผ่านมาอยู่ที่ 55,000 ตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่ผลิตได้ 51,000   ตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.8 และมีการนำเข้า 33,292 ตัน ลดลงจาก 49,108 ตัน หรือลดลงร้อยละ 32.0 ส่วนการบริโภคอยู่ที่ 87,000 ตัน เพิ่มขึ้นจาก 86,300 ตัน   3.   สต๊อกยาง   - สต๊อกยางจีน ณ วันที่ 25 กันยายน   2558 มีจำนวน 212,738 ตัน เพิ่มขึ้น 16,513 ตันหรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.4 จากระดับ   196,225 ตัน ณ วันที่ 18 กันยายน 2558   4. เศรษฐกิจโลก   - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานว่า   การใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 ในเดือนสิงหาคม   เทียบกับที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 ในเดือนกรกฎาคม และร้อยละ 0.3 ในเดือนมิถุนายน นอกจากนี้ยังรายงานผลรายได้ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 ในเดือนสิงหาคม - ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เผยว่า IMF มีแนวโน้มที่จะปรับลดเป้าหมายการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)   ของโลกในปี 2558 และ2559 เนื่องจากการชะลอตัวลงของประเทศตลาดเกิดใหม่ - สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่า ตัวเลขกำไรของบริษัทอุตสาหกรรมรายใหญ่ของจีนลดลงร้อยละ   8.8 ในเดือนสิงหาคม เมื่อเทียบรายปี ซึ่งลดลงอย่างมากจากเดือนกรกฎาคม ที่ปรับตัวลดลงร้อยละ 2.9 ส่วนในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ตัวเลขผลกำไรของบริษัทอุตสาหกรรมลดลงร้อยละ 1.9 - ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองการคาดการณ์ GDPNOW แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มขยายตัวร้อยละ 1.8 ในไตรมาส 3 หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นในเดือน สิงหาคม   ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ที่ระดับร้อยละ 1.4 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว - ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาดัลลัส   เปิดเผยว่า ภาคการผลิตในรัฐเทกซัสปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 0.9 ในเดือนกันยายน จาก -0.8 ในเดือนสิงหาคม และ ? 1.9 ในเดือนกรกฎาคม ขณะที่ดัชนีย่อยด้านคำสั่งซื้อใหม่เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 7.9 จาก ? 4.6 - นายกรัฐมนตรีจีน ระบุว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนยังคงอยู่ในช่วงที่สมเหตุสมผล เนื่องจากการจ้างงานเพิ่มขึ้น   และรายได้ของภาคครัวเรือนเพิ่มมากขึ้น - ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)   สาขานิวยอร์ก กล่าวว่า เขาเชื่อว่าเฟดจะยุติการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษก่อนสิ้นปีนี้   5.   อัตราแลกเปลี่ยน   -   เงินบาทอยู่ที่ 36.49 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ  อ่อนค่า 0.25 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ -   เงินเยนอยู่ที่ 119.69 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ  แข็งค่า 0.70 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ   6.   ราคาน้ำมัน   - สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ปิดตลาดที่ 44.43 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 1.27 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับข้อมูลที่บ่งชี้ถึงภาวะอุปทานน้ำมัน ที่สูงขึ้น   รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก โดยเฉพาะเศรษฐกิจจีน - ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์   ส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 1.26 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 47.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล   7.   การเก็งกำไร   - TOCOM ส่งมอบเดือนตุลาคม 2558 อยู่ที่ 152.9 เยนต่อกิโลกรัม ลดลง 7.2  เยนต่อกิโลกรัม และส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ 2559 อยู่ที่ 163.8   เยนต่อกิโลกรัม ลดลง 5.6 เยนต่อกิโลกรัม - ราคาตลาด SICOM เปิดตลาดที่ 130.8   เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม ลดลง 1.2 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม   8. ข่าว   - คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีนได้อนุมัติแผนการก่อสร้างทางรถไฟ   3 โครงการเมื่อวานนี้ วงเงิน 1.09 แสนล้านหยวน ซึ่งสอดคล้องกับแผนการเพิ่มเงินทุนโครงสร้างพื้นฐานและกระตุ้นเศรษฐกิจที่ ชะลอตัวลง - สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติสหรัฐฯ (NAR) เปิดเผยว่าดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายลดลงร้อยละ 1.4 เมื่อเทียบรายเดือนสู่ระดับ 109.4   ในเดือนสิงหาคม จากระดับ 110.9 ในเดือนกรกฎาคม   9. ข้อคิดเห็นของ ผู้ประกอบการ   - ราคายางปรับตัวลดลงเนื่องจากปัจจัยลบจากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของจีนที่ออกมา ได้ดี   ซึ่งเป็นข่าวที่นักลงทุน ขณะที่ผู้ประกอบการในประเทศยังคงซื้อยางเก็บในช่วงที่ราคายางตกต่ำและผลผลิต ที่ออกสู่ตลาดค่อนข้างน้อย ทำให้ราคายางในประเทศได้ปรับลงมากตามราคาตลาดล่วงหน้า     แนวโน้ม ราคายางมีแนวโน้มปรับตัวลดลงตามตลาดล่วงหน้าโตเกียวและราคาน้ำมัน ประกอบกับนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน หลังจากมีรายงานว่าผลกำไรของบริษัทอุตสาหกรรมรายใหญ่ของจีนลดลงอย่างหนักใน เดือนสิงหาคม และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง สหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน ทีมวิเคราะห์สำนักงานตลาดกลางยางพาราสงขลา