ผู้เขียน หัวข้อ: วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง วันศุกร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2558  (อ่าน 871 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 86755
    • ดูรายละเอียด

วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง
วันศุกร์ที่  11  กันยายน  พ.ศ. 2558
ปัจจัย[/t][/t] [/t]

วิเคราะห์
1. สภาพภูมิอากาศ
 
- ประเทศไทยมีฝนหนาแน่นและตกหนักบางแห่ง ร้อยละ   60 - 70 ของพื้นที่ โดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนร้อยละ 80 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ ส่งผลกระทบต่อการกรีดยาง
 
2. การใช้ยาง
 
- สมาคมผู้ผลิตยานยนต์จีนเปิดเผยว่า ยอดจำหน่ายรถยนต์เดือนสิงหาคมลดลงร้อยละ 3.0 เมื่อเทียบเป็นรายปี อยู่ที่ 1.66   ล้านคัน ส่วนยอดจำหน่ายรถยนต์นั่งอยู่ที่ 1.42 ล้านคัน ลดลงร้อยละ 3.4   เมื่อเทียบเป็นรายปี สำหรับยอดผลิตรถยนต์อยู่ที่ 1.57 ล้านคัน ขณะที่ 8   เดือนแรกของปียอดจำหน่ายรถยนต์ทั้งประเทศอยู่ที่ 12.78 ล้านคัน เพิ่มขึ้นร้อยละ   2.6 เมื่อเทียบเป็นรายปี
- เลขาธิการหอการค้าผู้จำหน่ายรถยนต์จีน (CADCC) ระบุว่า บริษัทดีลเลอร์จำหน่ายรถยนต์ร้อยละ   30 มีแนวโน้มจะประสบภาวะล้มละลาย ซึ่งจีนมีบริษัทจำหน่ายรถยนต์ประมาณ 20,000   แห่ง หมายความว่า 6,000 แห่งจะต้องปิดกิจการลง
 
3. เศรษฐกิจโลก
 
- กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า   ดัชนีราคานำเข้าเดือนสิงหาคมลดลงร้อยละ 1.8 เมื่อเทียบเป็นรายเดือน เป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม เนื่องจากได้รับผลกระทบการแข็งค่าของเงินดอลล่าร์สหรัฐ และราคาน้ำมันที่ลดลง
- นายกรัฐมนตรีจีนเปิดเผยว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนยังคงขยายตัวในช่วงที่สมเหตุสมผล แม้ว่าจีนยังคงเผชิญกับแรงกดดันช่วงขาลง และความยากลำบากหลายประการก็ตาม
- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่า   ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนสิงหาคมขยายตัวร้อยละ 2.0   เมื่อเทียบเป็นรายปี เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 1.6 ในเดือนกรกฎาคม หากเทียบเป็นรายเดือน   ดัชนี CPI เดือนสิงหาคมปรับตัวขึ้นร้อยละ 0.5   จากเดือนกรกฎาคม
- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า   ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนสิงหาคมลดลงร้อยละ 5.9   เมื่อเทียบเป็นรายปี ย่ำแย่กว่าเดือนกรกฎาคมที่หดตัวลงร้อยละ 5.4 หากเทียบเป็นรายเดือนดัชนี PPI ปรับตัวลดลงร้อยละ 0.8
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า   เดือนกรกฎาคมสต๊อคสินค้าลดลงร้อยละ 0.1 เมื่อเทียบเป็นรายเดือน   แต่เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.9 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
 
4. อัตราแลกเปลี่ยน
 
- เงินบาทอยู่ที่ 35.99 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้น 0.19   บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ
- เงินเยนอยู่ที่ 120.83 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ อ่อนค่าลง   0.51 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ
 
5. ราคาน้ำมัน
 
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาด Nymex ส่งมอบเดือนตุลาคมปิดตลาดที่ 45.92 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น   1.77 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล โดยได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์เกี่ยวกับการผลิตน้ำมันดิบที่ลดลงในสหรัฐฯ และการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์ก แม้ว่าจะมีการเปิดเผยปริมาณสต๊อคน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์   (Brent)   ตลาดลอนดอนส่งมอบเดือนตุลาคม ปิดที่ 48.89ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.31   ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล
- สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยว่า สต๊อคน้ำมันดิบสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมากเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งนี้สต๊อคน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ 458 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล
- กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันจะยังคงอ่อนตัวลงในปีนี้ เนื่องจากปริมาณน้ำมันยังคงล้นตลาด และอุปสงค์ที่ลดลงจากจีน ทั้งนี้สมาชิกโอเปคเชื่อว่าราคาน้ำมันจะไม่สูงไปกว่านี้จนถึงสิ้นปี โดยคาดว่าราคาน้ำมันเบรนท์อยู่ในช่วง 40 - 50 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล สำหรับปีหน้าคาดว่าราคาน้ำมันจะฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย
 
6. การเก็งกำไร
 
- ราคา TOCOM ส่งมอบเดือนตุลาคม อยู่ที่ 169.7 เยนต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 4.9 เยนต่อกิโลกรัม และส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ 2559 อยู่ที่ 179.1 เยนต่อกิโลกรัม   เพิ่มขึ้น 6.5 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ- ราคา SICOM   เปิดตลาดที่ 133.0 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 0.1 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม
 
7. ข่าว
 
- กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่แล้วลดลง   6,000 ราย สู่ระดับ 275,000 ราย ยังคงต่ำกว่าระดับ 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกัน และเป็นเวลานานที่สุดในรอบกว่า 40 ปี ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังมีความแข็งแกร่ง
 
8.   ข้อคิดเห็นของผู้ประกอบการ
 
- ราคายางปรับตัวสูงขึ้นตามราคาตลาดล่วงหน้าโตเกียว โดยแหล่งข่าวรายงานว่าในช่วงนี้ปริมาณผลผลิตยังมีน้อยจากภาวะฝนตก และขาดแรงงานกรีดยาง ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายยังคงมีความต้องการซื้อ จึงทำให้ราคาซื้อขายอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับราคาตลาดล่วงหน้า
 
   ?แนวโน้ม ราคายางมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นตามตลาดล่วงหน้าโตเกียวและราคาน้ำมัน ประกอบกับเงินเยนอ่อนค่าและสภาพอากาศในหลายพื้นที่ปลูกยางของไทยมีฝนตกเพิ่ม ขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคายางยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบจำกัด เพราะนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก หลังจากหลายประเทศยังคงเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ โดยเฉพาะจีนและญี่ปุ่น


ทีมวิเคราะห์สำนักงานตลาดกลางยางพาราสงขลา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 11, 2015, 11:10:33 AM โดย Rakayang.Com »