ไทยฝนลดลง ตอนบนกลับมาตกมากขึ้น ช่วง 9-12 ก.ย. นี้โดย ไทยรัฐออนไลน์ 7 ก.ย. 2558 06:47 
ช่วงต้นสัปดาห์ ทั่วไทยมีฝนลดลง จากนั้นระหว่างวันที่ 9-12 กันยายน ไทยตอนบนจะมีฝนเพิ่มขึ้น และหนักบางแห่ง โดยเฉพาะภาคเหนือ อีสาน ตะวันออก เตือนประชาชนพื้นที่เสี่ยง ระวังอันตราย ...
เริ่มต้นเช้า วันจันทร์ที่ 7 กันยายน กับการคาดการณ์สภาพอากาศ 7 วันต่อจากนี้ เริ่มต้นในช่วงต้นสัปดาห์ จนถึงวันที่ 8 กันยายนนี้ ร่องมรสุมจะมีกำลังอ่อนลง เนื่องจากได้เลื่อนขึ้นไปพาดผ่านบริเวณประเทศพม่าและประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันตอนบน ภาคใต้ และอ่าวไทย จะมีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลง
แต่หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 9-12 กันยายน ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลางตอนบน ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ดังนั้นในช่วงวันที่ 9-12 กันยายนนี้ ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และภัยธรรมชาติที่อาจตามมาจากฝนหนักไว้ด้วย
ในขณะที่สภาพอากาศวันนี้ แต่ละภาคเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นแล้ว เริ่มต้นที่
ภาค เหนือ มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง ตาก และกำแพงเพชร อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์ อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36 องศาเซลเซียส
ภาคกลาง มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38 องศาเซลเซียส
ภาค ตะวันออก มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และสงขลา อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
กรุงเทพมหานครและ ปริมณฑล มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ วันนี้มีโอกาสเกิดฝน 15 เปอร์เซ็นต์ อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38 องศาเซลเซียส
ถ้าหากเรามาดูภาพถ่ายดาวเทียมที่ถ่ายภาพก้อนเมฆที่ปกคลุมเหนือท้องฟ้า เมืองไทยในเช้านี้ พบว่า เมฆฝนบางตาลงกว่าช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด โดยส่วนใหญ่เป็นเมฆชั้นกลางและเมฆชั้นสูง ส่วนเมฆฝนพบบางส่วนในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออก ฝั่งตะวันตกของประเทศ และบริเวณภาคใต้ตอนล่าง
ในขณะที่ความชื้นที่เข้ามาปกคลุมในเมืองไทยตั้งแต่ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ก็พบว่าลดน้อยลง จึงทำให้ปริมาณฝนสะสมวันนี้คาดการณ์ว่าจะไม่มากเหมือนช่วงปลายสัปดาห์ที่ ผ่านมา โดยถ้าหากนำปริมาณฝนทั้งหมดมาคำนวณลักษณะการตกของฝนตามช่วงเวลาตลอดทั้ง วันนี้ พบว่า ช่วงสายวันนี้เริ่มมีตกประปรายบริเวณภาคเหนือตอนบน ส่วนช่วงเที่ยงพบกลุ่มฝนตกเพิ่มในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี และตกปรอยที่จังหวัดสุรินทร์ ก่อนที่ช่วงบ่ายกลุ่มฝนจะไปตกกระจายตัวแถวๆ บริเวณฝั่งตะวันตกของประเทศ ช่วงเย็นจะตกเป็นจุดๆ ในบริเวณจังหวัดลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ สิงห์บุรี ลพบุรี ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา และช่วงค่ำจะตกหนักขึ้นในจังหวัดสระแก้ว จนถึงช่วงดึก
ส่วนสถานการณ์ฝนใต้วันนี้นั้น ช่วงสายยังคงอยู่ในทะเลเป็นส่วนใหญ่ ช่วงบ่ายเริ่มซึมๆ เข้ามาตามแนวชายฝั่งอันดามันตอนล่าง บริเวณจังหวัดตรัง สตูล และยะลา ช่วงเย็นพบตกเล็กน้อยแถวสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และยะลา ก่อนที่ช่วงค่ำจะเหลือตกเพียงในจังหวัดยะลา
ฝนที่คาดว่าจะลดลงและเมฆที่ลดลงในวันนี้ ทำให้อุณหภูมิในช่วงบ่ายค่อนข้างร้อน โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ภาคกลางตอนล่าง อุณหภูมิความรู้สึกร้อนสูงสุดวันนี้คาดว่าจะไปอยู่ที่ ประมาณ 38-39 องศาเซลเซียส ขณะที่ภาคเหนือตอนบนอุณหภูมิยังไม่สูงเท่าไหรนัก อากาศร้อนโดยทั่วไป อยู่ที่ประมาณ 33-34 องศาเซลเซียสเท่านั้น
ปิดท้ายที่สถานการณ์ พายุกิโล ตอนนี้เป็นไต้ฝุ่นระดับ 2 อยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิคกลาง ทางเหนือของเกาะเวค ทางตะวันตกของเกาะมิดเวย์ ห่างจากอุบลราชธานี 6,815 กม. มีความเร็วลมศูนย์กลาง 166.5 กม./ชม. เคลื่อนที่ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็ว 16 กม./ชม. มุ่งสู่ประเทศณี่ปุ่น คาดว่าพายุนี้จะเพิ่มความเร็วลมศูนย์กลางเป็นไต้ฝุ่นระดับ 3 ในบ่ายวันพรุ่งนี้ และจะสลายตัวในบ่ายวันที่ 12 กันยายน 2558 พายุนี้ไม่มีผลต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย
นอกจากนี้ยังพบการก่อตัวของดีเปรสชั่น Eighteen อยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิคตะวันตก ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะอิโวโตะ ประเทศญี่ปุ่น ห่างจากอุบลราชธานี 3,790 กม. มีความเร็วลมศูนย์กลาง 55.5 กม./ชม. เคลื่อนที่ไปทางทิศเหนือด้วยความเร็ว 14 กม./ชม. มุ่งสู่เกาะคิวชู ประเทศญี่ปุ่น คาดว่าพายุนี้จะเพิ่มความเร็วลมศูนย์กลางเป็นพายุโซนร้อนในบ่ายวันนี้ แล้วเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งประเทศญี่ปุ่นในเช้าวันที่ 10 กันยายน และจะสลายตัวในเช้าวันที่ 11 กันยายน พายุนี้ไม่มีผลต่อลักษณะอากาศของประเทศไทยเช่นกัน
