ทำไมราคายางรถยนต์ไม่เคยลด ?? l วิชัย สุวรรณบรรณ
วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม 2015 เวลา 10:42 น. | เขียนโดย Administrator
ผมใช้รถคันเดิมมากว่า 10 ปีแล้ว เคยเปลี่ยนยางรถทั้ง 4 ล้อ ไปแล้ว 4 ครั้งและทุกครั้งราคายางจะเพิ่มขึ้น 20% ? 30% จากราคายางในการเปลี่ยนครั้งก่อน เทียบราคาที่เปลี่ยนครั้งแรกกับการเปลี่ยนครั้งสุดท้ายราคาขึ้นไปเป็นเท่า ตัวแล้ว ขณะที่วันก่อนได้อ่านข่าวว่าชาวสวนยาง กำลังจะตายเพราะราคายางพาราตกต่ำ และวอนขอให้นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ช่วยดันราคายางให้ชาวสวนยางพออยู่ได้ผมรู้สึกแปลก ใจ ที่ราคายางรถยนต์ที่ผมต้องซื้อทุก ๆ 2-3 ปี ขึ้นราคาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ราคายางพาราขึ้น ๆ ลง ราคาน้ำมัน ตอนนี้ก็ตกต่ำลงมามากกว่า 50 % จากราคาที่เคยขึ้นไปสูงสุดบาร์เรลละ 104 ดอลลาร์ เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้วทำให้เคมีภัณฑ์ซึ่งเป็นวัตถุดิบอีกตัวหนึ่งของ การผลิตยางรถยนต์ลดลงไปด้วย
เมื่อหลายสิบปีก่อน ในสมัยที่หลายคนในประเทศฝันหวานคิดว่าไทยจะเป็นเสือตัวที่ห้าในเอเชีย ซึ่งหมายถึงเป็นประเทศอุตสาหกรรมเกิดใหม่ เช่นเดียวกับอีกหลาย ๆ ประเทศในเอเชีย ผมเคยทำข่าว การลงทุนสร้างโรงงานยางในประเทศไทยของบริษัทมิชิลิน จากฝรั่งเศส
จำได้ ว่าการลงทุนครั้งนั้น หน่วยงานราชการไทย ซึ่งน่าจะเป็นคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และกระทรวงอุตสาหกรรม มีความภูมิใจมากเพราะ การลงทุนของมิชิลิน ทำให้ประเทศไทย เป็น 1 ในไม่กี่ประเทศในโลกที่มีบริษัทผู้ผลิตยางยักษ์ใหญ่ของโลก คือกู๊ดเยียร์ บริดจ์สโตน และมิชิลิน มาตั้งโรงงานอยู่ในที่เดียวกัน
เรียกได้ว่า ตอนนั้นมีความภูมิใจกันว่าประเทศไทย เป็นมหาอำนาจ ยางรถยนต์ประเทศหนึ่งกันเลยทีเดียว
ใน ตอนนั้นคิดกันว่า การที่เราส่งเสริมเอาบริษัทผลิตยางยักษ์ใหญ่ของโลกมาตั้งโรงงานในประเทศไทย น่าคุ้มค่ากับ การลดหย่อนภาษีและการไม่เก็บภาษีและการคุ้มครองตลาด ตามเงื่อนไขของบีโอไอ เพราะนอกจากโรงงานยางระดับยักษ์ของโลกจะใช้ยางพาราที่ปลูกในประเทศเป็นการ ช่วยภาคเกษตรแล้ว ยังช่วยในการจ้างงาน การส่งออกยางและคนไทยจะได้ใช้ยางรถยนต์คุณภาพดี และมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตยาง
สิ่งหนึ่งที่ผมในตอนนั้นไม่รู้เลยก็ คือ ราคายางคุณภาพดีที่เรามีโอกาสได้ใช้กันจะมีราคาแพงขึ้นไปเรื่อย ๆ ไม่ว่าราคายางพาราหรือวัตถุดิบอื่น ๆ จะตกต่ำขนาดไหนและสุดท้ายแล้วบริษัทยางรถยนต์ที่ชื่อยางสยามของปูนซิเมนต์ ตราช้าง ซึ่งเป็นบริษัทของไทย จะเลิกกิจการไป ก่อนที่บริษัทเจ้าของยางแบรนด์ ดีสโตน ของไทยแท้จะถือกำเนิดขึ้นมา
ผมชัก ไม่แน่ใจว่า สิ่งที่เราได้จากส่งเสริมบริษัทข้ามชาติ กับ สิ่งที่เราเสียไปไม่ว่าจะเป็นภาษี การคุ้มครองตลาดให้เกิดการผูกขาด ทำให้บริษัทข้ามชาติขึ้นราคายางได้อย่างสบาย และการที่ไม่ได้ช่วยเรื่องราคายางพาราเท่าที่ควรจะคุ้มกันหรือไม่
หวัง ว่ารัฐบาลจะคิดอะไรให้ทะลุปุโปร่ง ในการส่งเสริมการลงทุนกับบริษัทต่างชาติ ผู้บริโภคยางรถยนต์อย่างผม ขอครวญคราง เคียงข้าง ชาวสวนยาง มาเท่านี้
ที่มา : ฐานเศรษฐกิจออนไลน์ (วันที่ 27 สิงหาคม 2558)
