ส่งออกข้าวอาการหนักลูกค้าหนีซื้อของคู่แข่ง.
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า สมาคมเตรียมทำการปรับเป้าหมายการส่งออกข้าวไทยในปีนี้ ลงจากเดิมที่คาดว่าจะสามารถ ส่งออกได้ 10 ล้านตัน เหลือ 8 - 8.5 ล้านตัน หรือลดลง 10-15% จากเป้าหมายที่วางไว้ โดยสมาคมจะทำการทบทวนตัวเลขที่ชัดเจนอีกครั้งหลังจากสิ้นไตรมาส 2 ซึ่งเบื้องต้นที่เตรียมปรับลดเป้าหมายการส่งออกข้าว เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวและการแข่งขันค่อนข้างสูง ซึ่งในช่วงไตรมาสที่ 1/ 2558 ไทยสามารถส่งออกข้าวได้ในปริมาณ 2.6 ล้านตัน ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ ขณะที่อินเดียสามารถส่งออกข้าวได้เพิ่มสูงขึ้นถึง 40% เนื่องจากราคาข้าวต่ำกว่าไทยถึง 40 เหรียญสหรัฐต่อตัน ทำให้ตลาดหลักอย่าง แอฟริกาหันไปซื้อข้าวจากอินเดียและเวียดนามมากขึ้น
ทั้งนี้การที่ราคาข้าวไทยที่สูงกว่า คู่แข่ง ทำให้ไทยเสียเปรียบประเทศคู่แข่ง โดยขณะนี้ราคาข้าวไทยเฉลี่ยอยู่ที่ 390 - 395 เหรียญสหรัฐต่อตัน ส่วนราคาข้าวของประเทศอินเดียอยู่ที่ประมาณ 360 - 365 เหรียญสหรัฐต่อตัน และข้าวเวียดนามราคาอยู่ที่ 350 ถึง 355 เหรียญสหรัฐต่อตัน ทั้งนี้สาเหตุที่ราคาข้าวของไทยยังสูง เนื่องจากค่าเงินบาทที่แข็งค่ากว่าในภูมิภาค ประกอบ กับสต๊อกข้าวของรัฐบาลที่ยังมีปริมาณสูงถึง 10 ล้านตัน จึงทำให้ประเทศผู้ซื้อชะลอการซื้อข้าวจากไทย
"ยอมรับว่า จากสถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้ไทยต้องเสียแชมป์ส่งออกข้าวให้กับประเทศ อินเดีย จากการสูญเสียตลาดแอฟริกาส่วนหนึ่งให้กับอินเดียไป แต่อย่างไรก็ตามจากการที่รัฐบาลไทยทำสัญญาขายข้าวให้กับรัฐบาลจีน รวมทั้งการขายข้าวให้กับตลาดฟิลิปปินส์เพิ่มนั้นช่วยทดแทนตลาดแอฟริกาที่สูญ เสียตลาดให้อินเดียไปได้ส่วนหนึ่ง"
ผู้ส่อข่าวรายงานว่า ตัวเลขการ ส่งออกข้าวไตรมาสแรกปี 2558 (ม.ค.-มี.ค. 2558) ของกระทรวงพาณิชย์ พบว่ามีปริมาณ 2,126,549 ตัน มูลค่า 35,775 ล้านบาท โดยปริมาณส่งออกลดลง 3.6% และมูลค่า ส่งออกลดลง 4.9% เมื่อเทียบกับปี 2557 ที่มีการส่งออกปริมาณ 2,205,926 ตัน มูลค่า 37,607 ล้านบาท
ทั้งนี้ เดือนม.ค.-มี.ค. 2558 ประเทศผู้นำเข้าข้าวไทย 5 อันดับแรก ประกอบด้วย ไนจีเรีย ปริมาณ 220,284 ตัน ฟิลิปปินส์ ปริมาณ 213,542 ตัน ไอวอรี่โคสต์ ปริมาณ 146,587 ตัน จีน ปริมาณ 138,883 ตัน และแอฟริกาใต้ ปริมาณ 130,931 ตัน
รายงานข่าวจากสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ระบุว่า ที่ผ่านมาประเทศผู้ซื้อข้าวที่สำคัญในแถบแอฟริกาต่างประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ ทั้งจากราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับลดลง ทำให้รายได้ประเทศลดลง ขณะที่ ค่าเงินของประเทศในแถบแอฟริกาที่ผูกกับค่าเงินยูโรมีทิศทางอ่อนค่า ทำให้ผู้ซื้อบางส่วนชะลอซื้อข้าวจากไทย และหันไปซื้อข้าวจากประเทศที่ราคาถูกกว่า เช่น เวียดนาม อินเดีย ซึ่งลดราคาส่งออกข้าวอยู่ระดับต่ำกว่า
ข้าวไทย เพื่อดึงดูด ผู้ซื้อ โดยเวียดนามประสบปัญหาการค้าชายแดนกับจีน ทำให้ส่งออกข้าวไปชายแดนได้ไม่มากเหมือนปีก่อน จึงต้องหาตลาดอื่น รองรับผลผลิตข้าวฤดูใหม่จำนวนมาก ทำให้เกิดภาวะแข่งขันรุนแรงในตลาดโลก
แนวหน้า (Th)
