ผู้เขียน หัวข้อ: Update /ผจก. AFET เห็นด้วยควบรวม TFEX เชื่อกระตุ้นวอลุ่มสินค้าเกษตรล่วงหน้าคึกคัก พร้อมดันสินค้ามัน-เวลาซื้อขายโฉมใหม่ก.  (อ่าน 654 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 84462
    • ดูรายละเอียด
Update /ผจก. AFET เห็นด้วยควบรวม TFEX เชื่อกระตุ้นวอลุ่มสินค้าเกษตรล่วงหน้าคึกคัก พร้อมดันสินค้ามัน-เวลาซื้อขายโฉมใหม่ก.พ.นี้


ผจก. AFET เห็นด้วยแผนควบรวม TFEX เชื่อจะกระตุ้นวอลุ่มสินค้าเกษตรล่วงหน้าคึกคัก พร้อมดันสินค้ามันสำปะหลังขนาดเล็กลงเข้าเทรด และขยายเวลาซื้อขายโฉมใหม่เป็น 8.00 น. คาดเห็นช่วงเดือนก.พ.นี้ ด้านกองทุนยางเฉพาะกิจ 280 ลบ.ซื้อขายผ่าน AFET คาดเห็นเดือน ม.ค.นี้

นายวิวัฒน์ ตีระวนิชพงศ์ กรรมการและผู้จัดการ  ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย หรือ AFET เปิดเผยกับ "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" ว่า จากกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในหลักการให้ควบรวมตลาดอนุพันธ์ (TFEX) กับ ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) เข้าด้วยกัน มองว่าเห็นด้วยกับแผนดังกล่าวเนื่องจากจะช่วยกระตุ้นปริมาณการซื้อขายสินค้าในตลาดเกษตรล่วงหน้าคึกคักมากขึ้น  ซึ่งหลังจากอนุมัติหลักการควบรวมแล้ว คงต้องรอดูถึงแนวทางปฏิบัติจริง อาทิ เรื่องการร่างกฏหมายใหม่ การนำเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (ประเทศไทย) หรือ สนช.


'หลังจากหลักการผ่านไป จากนี้คงต้องรอดูหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างกระทรวงพาณิชย์เสนอร่างกฎหมายใหม่ จากนั้นเสนอให้สนช. ซึ่งต้องใช้เวลาในการแก้ไขกฎหมาย และถ้าการควบรวมเกิดขึ้นคงจะช่วยกระตุ้นปริมาณการซื้อขายตลาดเกษตรเพิ่มขึ้น' นายวิวัฒน์กล่าว


ส่วนกรณีกระทรวงการคลัง ศึกษาการจัดตั้งตลาดกลางยางพาราแห่งใหม่ที่จะทำให้เกษตรกรชาวสวนยางและผู้ซื้อยางโดยตรงได้พบและเจรจาตกลงซื้อขายกันจริง ไม่ใช่เป็นเพียงการซื้อขายผ่านกระดาษ มองว่าหากเกิดขึ้นจริงจะยิ่งช่วยสนับสนุนตลาด AFET มากขึ้น เพราะหากผู้ประกอบการซื้อขายยางกันมากขึ้น ตลาด AFET จะเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยประกันความเสี่ยงด้านราคาให้กับผู้ประกอบการหันมาซื้อขายในตลาด AFET เพิ่ม

นอกจากนี้ AFET เตรียมเสนอบอร์ดที่ประชุมคณะอนุกรรมการมันสำปะหลังเส้น ในการปรับลดขนาดการซื้อขายสินค้ามันสำปะหลังเส้น แบบ Both Options (TC) ในอีก 2 สัปดาห์นี้ ซึ่งหากตกลงได้จะใช้เวลาอีกประมาณ 1 เดือน ในการเตรียมนำสินค้ามันสำปะหลังเส้นรูปแบบใหม่เข้ามาซื้อขายในตลาด AFET หรือจะสามารถเห็นได้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้


'ปัจจุบันขนาดสัญญามันเส้นใหญ่เกินไป ทำให้ซื้อขายลำบากหากลดขนาดลง จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องได้มากขึ้น' นายวิวัฒน์กล่าว


และอีกประมาณ 2 สัปดาห์ AFET จะเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (ก.ส.ล.) ให้อนุมัติการเปิดซื้อขายตลาด AFET เร็วขึ้นเป็น 8.00 น. จากเดิมที่เปิดตลาดเวลา 10.00 น.


ซึ่งการเปิดทำการตลาด AFET เร็วขึ้น จะช่วยสนับสนุนให้ผู้ประกอบการจากเดิมที่ไปซื้อขายและประกันราคายางในตลาด TOCOM ในประเทศญี่ปุ่น หรือตลาด SICOM ในประเทศสิงคโปร์ หันมาลงทุนในตลาด AFET แทน เพราะการเปิดช่วงเวลาดังกล่าวตรงกับตลาดยางล่วงหน้าต่างประเทศที่เปิดทำการ


'เราเคยเข้าไปคุยกับก.ส.ล.เกี่ยวกับแนวทางเปิดตลาดให้เร็วขึ้นมาก่อนแล้ว ซึ่งทาง AFET ก็ไปแก้ไขกฎระเบียบให้สอดคล้องกัน โดยการเสนอเลื่อนเวลาเปิดครั้งนี้คาดว่าก.ส.ล.จะอนุมัติได้ ทั้งนี้ผู้ประกอบการยางในประเทศไทยสามารถเข้ามาซื้อขายในช่วงเวลาดังกล่าว โดยไม่ต้องประสบปัญหาเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนด้วย'นายวิวัฒน์กล่าว


ด้านกรณีกองทุนยางเฉพาะกิจที่จะซื้อขายสินค้ายางผ่านตลาด AFET  ว่า มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นในเดือนมกราคมนี้ โดยหน่วยงานที่จัดตั้งเป็นการร่วมมือแบบ Joint Venture ระหว่างกระทรวงเกษตร และผู้ประกอบการยางพารา ซึ่งจัดตั้งกรรมการทั้ง 2 ฝ่ายเพื่อเป็นกลุ่มที่ดูแลกองทุนดังกล่าว


 อย่างไรก็ตามขนาดกองทุนยางเฉพาะกิจจะลดลงเหลือ 280 ล้านบาท จากเดิม 400 ล้านบาท เนื่องจากก่อนหน้านี้หน่วยงานดังกล่าวจะให้บริษัทหลักทรัพย์ จัดการกองทุน(บลจ.) เป็นผู้แล แต่ไม่มีบลจ.รายใดจัดทำ และการเริ่มต้นของกองทุนดังกล่าวช้ากว่าคาด จึงต้องลดขนาดกองทุนลง โดยกองทุนนี้มีอายุ 1 ปีและมีมาร์เก็ตเมกเกอร์ช่วยดูแลสภาพคล่อง


'กองทุนยางฉพาะกิจนี้จัดตั้งขึ้นจาก 2 หน่วยงานคือกระทรวงเกษตรและผู้ประกอบการยางพารา โดยซื้อยางผ่านตลาด AFET เพื่อนำไปขายให้กับผู้ประกอบการส่งออก โดยกองทุนนี้มีอายุ 1 ปี และคาดว่าจะเกิดการซื้อขายผ่าน AFET 2 ช่วง คือช่วงฤดูนี้และช่วงกลางปี ' นายวิวัฒน์กล่าว


ที่มา ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย     วันที่   05/01/15   เวลา   16:13:19
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 05, 2015, 04:51:17 PM โดย Rakayang.Com »