ผู้เขียน หัวข้อ: ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: หุ้นค้าปลีกพุ่ง หนุนดาวโจนส์ปิดบวก 0.49 จุด  (อ่าน 427 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 84478
    • ดูรายละเอียด
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: หุ้นค้าปลีกพุ่ง หนุนดาวโจนส์ปิดบวก 0.49 จุด

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2557 06:56:40 น.


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 พ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มค้าปลีก เนื่องจากบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ต่างก็ใช้แผนทางการตลาดเพื่อดึงดูดผู้ซื้อในช่วงเทศกาลวันหยุด  อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน เนื่องจากหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก หลังจากกลุ่มโอเปคมีมติคงเพดานการผลิตน้ำมันในการประชุมครั้งล่าสุด


ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,828.24 จุด เพิ่มขึ้น 0.49 จุด หรือ +0.00% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,791.63 จุด เพิ่มขึ้น 4.31 จุด หรือ +0.09% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,067.56 จุด ลดลง 5.27 จุด หรือ -0.25%
หุ้นกลุ่มค้าปลีกดีดตัวขึ้น และช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนบวก โดยหุ้นวอล-มาร์ท พุ่งขึ้น 3.02% หลังจากบริษัทใช้กลยุทธ์ปรับลดราคาสินค้าเพื่อดึงดูดผู้บริโภค ซึ่งส่งผลให้ยอดขายของบริษัทปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่หุ้นบริษัทค้าปลีกรายอื่นๆ รวมถึงทาร์เก็ต เมซี และเจซี เพนนี ต่างก็ปิดตลาดปรับตัวขึ้นเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงอย่างหนัก ภายหลังจากที่กลุ่มโอเปคมีมติคงเพดานการผลิตในการประชุมล่าสุด โดยหุ้นเชฟรอน และหุ้นเอ็กซอนโมบิล ต่างก็ปรับตัวลดลง
ทั้งนี้ กลุ่มโอเปคมีมติคงเพดานการผลิตน้ำมันไว้ที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน แม้ว่าตลาดโลกอยู่ในภาวะที่มีอุปทานน้ำมันมากเกินไปก็ตาม โดยที่ผ่านมานั้น สมาชิกกลุ่มโอเปคยังคงมีมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับเพดานการผลิตน้ำมัน โดยเวเนซูเอล่าและอิหร่านต่างก็ส่งสัญญาณว่าโอเปคควรจะปรับลดการผลิต ในขณะที่ซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ของกลุ่มโอเปคนั้น สนับสนุนให้มีการปรับลดราคาน้ำมันเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาด แทนการปรับลดการผลิต
แต่ถึงกระนั้นก็ตาม การร่วงลงของราคาน้ำมันได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มสายการบินพุ่งขึ้น นำโดยหุ้นเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ส พุ่งขึ้น 21% และหุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ทะยานขึ้น 16%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์หน้า รวมถึงดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพ.ย., ตัวเลขจ้างงานเดือนพ.ย.จาก ADP, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนพ.ย., รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ และตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนพ.ย.






 
อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--