ผู้เขียน หัวข้อ: ทุจริต 'ข้าวถุงธงฟ้า' ถึงมือดีเอสไอเจียเม้ง-พงษ์ลาภ-นครหลวงโดนอคส.ฟ้องถ้วนหน้า  (อ่าน 423 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 84444
    • ดูรายละเอียด
ทุจริต 'ข้าวถุงธงฟ้า' ถึงมือดีเอสไอเจียเม้ง-พงษ์ลาภ-นครหลวงโดนอคส.ฟ้องถ้วนหน้า


"จินตนา" ประธานบอร์ด อคส.ย้ำภาพไขคอร์รัปชั่น แจ้ง DSI สอบ 5 บริษัทข้าวถุงธงฟ้าฉาว ชี้สต๊อกข้าว 19.2 ล้านตัน ไม่ได้งอกแต่มีข้าวค้างท่อ-ติดคดีเก่า อีก 6 แสนตัน สั่งสำนักพัฒนาธุรกิจรื้อแผนธุรกิจ อคส. 300 ล้านบาท


นางจินตนา ชัยยวรรณาการ ประธานกรรมการองค์การคลังสินค้า (บอร์ด อคส.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้ได้ยื่นข้อมูลให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ตรวจสอบข้อเท็จจริง และสั่งฟ้องผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการจัดทำข้าวถุงธงฟ้า ในอดีตรัฐบาลเพื่อไทย ซึ่งได้มีการเบิกข้าวไปแล้วแต่ไม่ได้จัดทำข้าวถุงจริง และบางรายไม่คืนข้าวให้กับ อคส. และมีข้าวสารของรัฐบาลหายไปจากคลัง ตามที่ได้ข้อสรุปเบื้องต้นทั้งหมด 5 ราย คือ บริษัท พงษ์ลาภ จำกัด บริษัท นครหลวงค้าข้าว จำกัด หจก.โรงสีโชควรลักษณ์กิจรุ่งเรือง หจก. สิงห์โตทองไรซ์ และบริษัท เจียเม้ง จำกัด นอกจากนี้ ยังมีคดีอื่นที่เกี่ยวกับ อคส.อีกรวมแล้วนับ 100 คดี


"ยื่นฟ้องไปแล้วดีเอสไอกำลังสอบอยู่ ในความผิดคดีอาญาและทางแพ่งเพื่อให้ชดเชยค่าเสียหายให้รัฐ เพราะบางราย ติดค้างเบิกข้าวเกินไปแล้วไม่ส่งคืน โดยไม่มีการนำไปทำข้าวถุง นอกจากนี้ ยังมีคดีอื่นอีกรวมแล้วนับ 100 คดี พวกของหาย ไม่ว่าจะเป็นสมัยไหนที่ค้างเราตรวจสอบแล้วนำมาฟ้องหมด หากดีเอสไอตีความแล้วไม่ใช่คดีพิเศษก็ส่งมาที่ตำรวจฟ้อง ยืนยันว่าการตรวจสอบความผิดนี้จะไม่ใช่เอาผิดเฉพาะเอกชน หากมีเจ้าหน้าที่ของ อคส.หรือของรัฐที่มีความเกี่ยวข้อง ก็จะต้องดำเนินคดีด้วย"


ไม่คืนแอลจี "เจียเม้ง"


สำหรับความคืบหน้าของการคืนหลักทรัพย์ค้ำประกัน (L/G) ให้กับผู้ประกอบการขณะนี้ คืนไปแล้ว 100 ราย คิดเป็นเงิน 1,000 ล้านบาท โดยรายใดที่ไม่มีปัญหาเรื่องค่าปรับสามารถคืนค้างได้ทันที ส่วนกลุ่มที่ส่งมอบข้าวเข้าคลังล่าช้าต้องชำระค่า ปรับตามสัญญาของ อคส. คิดเป็น 0.2% ต่อวันหรือปีละ 73% ของมูลค่าข้าว ที่ส่งมอบไม่ทัน หรือมีบางรายที่ติดปัญหาอื่น เช่น เจียเม้ง ยังมีปัญหาเรื่องข้าวถุงธงฟ้าที่เบิกเกินไปแล้วไม่ทำ ประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นอาจจะมากกว่ามูลค่า เงิน L/G ที่ติดค้างจึงต้องชะลอการคืนไว้ก่อน


อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าอัตราค่าปรับ อคส. 73% ต่อปี สูงกว่าที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์กำหนดอัตราค่าปรับ ปีละ 7.5% ของมูลค่าข้าวที่ส่งมอบไม่ทัน แต่เจตนาของการทำสัญญาแบบนี้เพื่อไม่ต้องการให้เกิดปัญหาการค้างส่งมอบ แต่หากมีปัญหามากอาจจะต้องปรับเปลี่ยนเงื่อนไข เพราะผู้ประกอบการคงยอมขึ้นศาล เพราะไม่สามารถจ่ายค่าปรับได้


สต๊อกข้าว 19.2 ล้านตัน


นางจินตนากล่าวว่า ขณะนี้มียอดสต๊อกประเด็น 19.2 ล้านตันจริงไม่มีความผิดพลาด ไม่ใช่ยอดที่เพิ่มขึ้น แต่เป็นผลมาจากเดิมคณะอนุกรรมการตรวจสอบสต๊อกข้าว จะตรวจสอบเฉพาะส่วนที่ถูกเก็บในโกดังกลางประมาณ 18.6-18.7 ล้านตัน แต่ยังมีที่เหลืออีก 5-6 แสนตันเศษ ซึ่งเป็นข้าวเปลือกที่อยู่ในโรงสี อยู่ระหว่างสีแปรเพื่อส่งมอบ หรือสีแปรเสร็จแล้วแต่ยังไม่ได้ส่งมอบตามขั้นตอน แต่เกิดเหตุการณ์ยึดอำนาจก่อนจึงไม่มีส่วนนั้นในบัญชี และบางส่วนเป็นข้าวเก่า ที่โรงสีผิดสัญญาซึ่งส่วนนี้อยู่ระหว่างดำเนินคดีก็ยังมีอยู่ ส่วนขั้นตอนการตรวจสอบดีเอ็นเอข้าวหอมมะลิในสต๊อกของรัฐบาลเหลืออีก 200 ตัวอย่างคาดว่าจะตรวจสอบเสร็จสิ้น


ลุยแผนธุรกิจปี'58


นางจินตนากล่าวว่า บอร์ด อคส.มีมติให้สำนักพัฒนาธุรกิจ ไปจัดทำแผนการลงทุนที่มีหลักการการประกอบธุรกิจที่ชัดเจนว่าภายหลังจากที่ไม่มีโครงการรับจำนำสินค้าเกษตรแล้ว อคส.จะดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างรายได้เลี้ยงองค์กรอย่างไร จากแผนที่เสนอมาเบื้องต้นที่ต้องการสร้างคลังสินค้า และร้านค้าขนาดเล็ก คาดว่าจะใช้จ่ายงบลงทุนประมาณ 300 ล้านบาท ยังไม่สามารถระบุชัดเจนได้ว่าจะสร้างรายได้ และจุดคุ้มทุนได้อย่างไร


อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าผลประกอบการ อคส.ในปี 2557- 2558 จะไม่ขาดทุน เพราะยังมีรายได้ในรูปของค่าบริหารจัดการสินค้าเกษตร ที่มีการแบ่งเงินประกันรายได้ ป้องกันความเสี่ยงขององค์กรไว้แล้ว แต่หากยังใช้แผนเดิมที่เคยทำก็ยังคงต้องประสบปัญหาขาดทุนอย่างเดิมแน่นอน


"แผนคงต้องไม่ต้องรอ ผอ.ใหม่ เพราะยังอยู่ระหว่างกระบวนการสรรหา ยังไม่ได้ ออกทีโออาร์ คุณสมบัติของ ผอ.ต้องมีความสามารถในด้านธุรกิจ และต้องสามารถแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นได้ คาดว่า คงจะประกาศเร็ว ๆ นี้ คงไม่ใช้เวลานานเป็นปีอย่างสมัยที่ผ่าน ๆ มา"


เอกชนโต้คืนข้าวหมดแล้ว


นางประพิศ มานะธัญญากรรมการผู้จัดการ บริษัท เจียเม้ง จำกัด เปิดเผยว่า จากที่ประชุมร่วมกับประธานบอร์ด อคส.เมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา ว่า อคส.จะขอคืนเรื่องฟ้องจาก DSI เพราะขณะนี้ เป็นเรื่องการผิดสัญญาเท่านั้น หากบริษัทไม่คืนข้าวก็อาจเป็นการยักยอกทรัพย์ ซึ่งเป็นความผิด แต่กรณีนี้ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่ามีความผิดทางอาญา แต่ บริษัทนำหลักฐานทั้งหมดแจงให้ อคส.ทราบว่า ที่ได้รับอนุมัติให้ผลิตข้าวถุงปริมาณ 236,000 ตัน ผลิตจริง 139,000 ตัน และคืนส่วนที่เหลือ 70,000-80,000 ตัน โดยหักข้าวสารที่เป็นค่าจ้างปรับปรุง 8,500 ตันออกแล้ว


ส่วนหลักทรัพย์ค้ำประกัน (L/G) ที่ อคส.ต้องคืนบริษัทรวม 500-600 ล้าน แยกเป็น L/G ของข้าวถุง 207 ล้านบาท หากทาง อคส.จะยังไม่คืนก็พิจารณาเป็นรายกรณีไป ส่วนกรณีอื่น เช่น บริษัทประมูลรัฐบาลรับมอบแล้ว บริษัทรับจ้างเก็บข้าว (โกดังกลาง) ที่มีการส่งมอบสินค้าครบแล้ว อีก 300 ล้านบาทก็สามารถคืนได้


"ที่ผ่านมาผู้บริหาร อคส.ระงับโครงการแบบเหมาเข่ง แต่ตอนนี้ ผู้บริหารชุดใหม่เข้าใจ จะแยกกลุ่มว่าใครผิดใครถูก ซึ่งบริษัทนำหลักฐาน ไปชี้แจงทั้งหมด เชื่อว่าจะเป็นบริษัทที่เคลียร์ได้ครบโดยไม่มีการยื่นฟ้องแน่นอน"


โดยหลังจากนี้ บริษัทพร้อมจะเข้า ร่วมประมูลข้าวของรัฐบาลเพื่อช่วยรัฐบาลระบายสต๊อก โดยในการประมูล 3 รอบก่อนหน้านี้ได้ข้าวขาว 15% ปริมาณ 85 ตัน


นางประพิศกล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทได้รับผลกระทบจากการไม่ได้คืนค่า L/G เพราะขณะนี้ทางสถาบันการเงินต่าง ๆ ได้มีการจำกัดวงเงิน ทำให้ต้องเปลี่ยนจากการใช้ L/G มาเป็นการวางแคชเชียร์เช็คเพื่อค้ำประกันแทน ซึ่งทำให้เกิดปัญหาระบบการเงิน เพราะการประมูลซื้อข้าวรัฐบาลก็ต้องใช้ เงินสด


สำหรับผลประกอบการในปี 2557 คาดว่า จะมีรายได้จากการขายข้าวปริมาณ 3 แสนตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2556 ซึ่งมีปริมาณ 2.5-3 แสนตัน โดยในส่วนนี้เป็นตลาดในประเทศ 20% และตลาดส่งออกอีก 80% โดยตลาดส่งออกหลักของบริษัท คือ ตลาดแอฟริกา ซึ่งสามารถรองรับข้าวสารเก่าได้ น่าจะเป็นช่องทางในการช่วยรัฐบาลระบายสต๊อกข้าวสารเก่าที่มีมาตรฐานพอสมควรในระดับหนึ่ง แต่หากรัฐบาลอยากจะระบายข้าวได้มาก ก็อาจต้องลดราคาข้าวลงเพื่อแข่งขันกับข้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้เอกชนสามารถแข่งขันได้


นายวัลลภ พิชญ์พงศา รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทนครหลวงค้าข้าว เปิดเผย ว่า ยังไม่ทราบเรื่องการยื่นฟ้อง แต่ทางบริษัทได้รับมอบข้าวสารจากรัฐบาลมาจำนวนหนึ่ง เพื่อรอให้ อคส.สั่งผลิตข้าวถุง หลังจากสิ้นสุดโครงการก็ได้คืนข้าวจำนวนดังกล่าว อีกทั้งบริษัทยังมีความเสียหายจากการสั่งผลิตถุงบรรจุข้าวถุงล่วงหน้าที่ อคส.ยังไม่ได้ มีการชดเชยใด ๆ เช่นเดียวกับนาย สมพงษ์ กิติเรียงลาภ ประธาน บริษัท พงษ์ลาภ จำกัด ที่ยืนยันว่าได้รับ ประมูลทำข้าวถุงปริมาณ 50,000 ตัน แต่ทำได้เพียง 10,000 ตันเศษ จากนั้น ได้คืนข้าวอีก 30,000 ตันเศษให้กับ อคส.ไปครบแล้ว






Souce: ประชาชาติธุรกิจ