เงินบาทปิด 32.38/39 แกว่งแคบรอปัจจัยใหม่ มองกรอบสัปดาห์หน้า 32.30-32.50 ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม 2557 17:23:27 น.
นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ที่ระดับ 32.38/39 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 32.40/42 บาท/ดอลลาร์ นักลงทุนรอดูปัจจัยใหม่ที่จะเข้ามากำหนดทิศทางที่แท้จริง
"ตลอดทั้งวันค่อนข้างนิ่ง ไม่ขยับไปไหนไกล ปริมาณการซื้อขายก็มีไม่มาก เหมือนรอดูทิศทางที่ชัดเจน" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน คาดว่า สัปดาห์หน้าเงินบาทน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 32.30-32.50 บาท/ดอลลาร์
"น่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ ถ้ายังไม่มีข่าวอะไรเข้ามา" นักบริหารเงิน กล่าว
*ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 102.03 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 102.12 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3590 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.3605 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,495.83 จุด เพิ่มขึ้น 2.62 จุด, +0.18% มูลค่าการซื้อขาย 46,238.41 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 28.15 ล้านบาท(SET+MAI)
- นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง เผยจากการติดตามผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ พ.ศ.2557 พบว่า ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ของปีงบประมาณ 57 เบิกจ่ายภาพรวมได้เพียงร้อยละ 68.12 และเบิกจ่ายรายจ่ายลงทุนได้เพียงร้อยละ 48.82 เท่านั้น จึงคาดการณ์ได้ว่าผลการเบิกจ่ายเงินในปีนี้จะไม่เป็นไปตามเป้าหมาย โดยคาดว่าจะเบิกจ่ายภาพรวมได้ร้อยละ 90.8 และเบิกจ่ายรายจ่ายลงทุนได้ร้อยละ 65 ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศอย่างแน่นอน ที่เดิมเคยคาดไว้ว่าจะมีเม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจสูงถึง 2.399 ล้านล้านบาท นอกจากนี้จะส่งผลกระทบต่อคะแนนการประเมินตามคำรับรองการปฏิบัติราชการที่ทุกหน่วยงานได้ลงนามไว้กับสำนักงาน กพร.ที่อาจจะได้คะแนนต่ำ ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับจำนวนเงินรางวัลที่แต่ละส่วนราชการจะได้รับด้วย
- ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รายงานตัวเลขทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของไทย วันที่ 27 มิ.ย.อยู่ที่ 168.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากวันที่ 20 มิ.ย.57 ที่ 167.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ฐานะฟอร์เวิร์ดสุทธิของไทย วันที่ 27 มิ.ย.57 อยู่ที่ 23.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับวันที่ 20 มิ.ย.57 อยู่ที่ 23.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนเงินสำรองระหว่างประเทศในรูปเงินบาทวันที่ 27 มิ.ย.57 อยู่ที่ 5,454.8 พันล้านบาท จาก 5,449.0 พันล้านบาท เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.57
- กระทรวงเศรษฐกิจเยอรมนี เผยยอดสั่งซื้อภาคโรงงานในเดือน พ.ค.ปรับตัวลง 1.7% จากเดือน เม.ย.ซึ่งหดตัวลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ว่าจะลดลง 1.1% โดยยอดสั่งซื้อภาคโรงงานปรับตัวย่ำแย่ในเดือนที่แล้วหลังจากความเสี่ยงด้านสถานการณ์การเมืองโลกได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อเศรษฐกิจเยอรมนี
- กระทรวงการค้าระหว่างประเทศและอุตสาหกรรมมาเลเซีย เผยยอดส่งออกสินค้าในเดือน พ.ค.เพิ่มขึ้น 16.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้เพียง 8.0% เท่านั้น เพราะได้แรงหนุนจากปริมาณการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิก น้ำมันดิบ น้ำมันปาล์มไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ญี่ปุ่น ประเทศในแถบยุโรป และสหรัฐ ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่วนยอดการนำเข้าปรับตัวขึ้น 11.9% โดยส่วนใหญ่เป็นสินค้าประเภททุน
- เอชเอสบีซี เผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ(PMI) ของฮ่องกงในเดือน มิ.ย.เพิ่มขึ้นแตะ 50.1 จากระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือนที่ 49.1 ในเดือน พ.ค. โดยดัชนี PMI ของฮ่องกงปรับตัวขึ้นในเดือนที่แล้ว หลังจากหดตัวติดต่อกันเป็นเวลา 3 เดือน ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าภาวะธุรกิจของภาคเอกชนมีเสถียรภาพ และเป็นผลมาจากกิจกรรมการซื้อที่เพิ่มขึ้น
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงลดลง 10 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 12,230 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ หรือเทียบเท่ากับ 1,324.66 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 1.08 ดอลลาร์สหรัฐ
- ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปี ปิดทรงตัวในวันนี้ ขณะที่การซื้อขายเป็นไปอย่างไร้ทิศทาง โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรหมายเลข 334 ซึ่งเป็นมาตรวัดดอกเบี้ยระยะยาว ปิดที่ 0.560% ทรงตัวจากระดับปิดเมื่อวานนี้ ขณะที่ราคาสัญญาพันธบัตรอายุ 10 ปี ส่งมอบเดือน ก.ย.ปรับตัวลง 0.04 จุด แตะที่ 145.56 ที่ตลาดหุ้นโอซาก้า
อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/กษมาพร โทร.02-2535000 อีเมล์:
kasamarporn@infoquest.co.th-- 
