วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง วันพฤหัสบดีธที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2557

[Rakayang.Com]

วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง

วันพฤหัสบดีธที่  12  มิถุนายน  พ.ศ. 2557

[/size]ปัจจัย[/t][/t] [/t] วิเคราะห์ [/size]1. สภาพภูมิอากาศ [/size]- ร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกชุกและตกหนักบางแห่ง ร้อยละ 60 - 70 ของพื้นที่ ขณะที่ภาคใต้มีฝนร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนของภาค ส่งผลกระทบต่อการกรีดยาง [/size]2. การใช้ยาง [/size]- ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าการส่งออกรถยนต์ของไทยในปีนี้น่าจะมีโอกาสทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ที่ 1.16 - 1.22 ล้านคัน หรือขยายตัวร้อยละ 6 - 11 จากปี 2556 ที่ส่งออกกว่า 1.09 ล้านคัน โดยในช่วง 4 เดือนแรกปีนี้ ส่งออกแล้วกว่า 357,000 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปีก่อน ร้อยละ 1.5 ทั้งนี้มาจากความเชื่อมั่นการลงทุนในไทยที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงปัจจัยบวกต่าง ๆ เช่น การปรับสายการผลิตเพื่อการส่งออกมากขึ้น การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก การอ่อนค่าของเงินบาท และการเปิดตลาดใหม่ เช่น อเมริกาเหนือ โดยคาดว่าการส่งออกรถยนต์นั่งจะมีโอกาสขยายตัวได้มากกว่ารถยนต์เพื่อการพาณิชย์ แต่อาจต้องจับตาดูการส่งออกรถยนต์นั่งไปอินโดนีเซียและมาเลเซียที่หดตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ หลังมีการลงทุนผลิตรถยนต์นั่งในสองประเทศนี้เพิ่มขึ้น [/size]3. เศรษฐกิจโลก [/size]- ธนาคารกลางจีนเปิดเผยว่า เศรษฐกิจจีนยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และปรับตัวดีขึ้นในอนาคต สำหรับระดับราคาโดยรวมยังมีเสถียรภาพ- กระทรวงการคลังจีนเปิดเผยว่า รายได้การคลังของจีนเดือนพฤษภาคมยังคงขยายตัว ขณะที่เศรษฐกิจมีเสถียรภาพมากขึ้น โดยรายได้การคลังของจีนขยายตัวร้อยละ 7.2 เมื่อเทียบเป็นรายปี- ผลสำรวจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ในญี่ปุ่นไตรมาส 2 ปีนี้ ปรับตัวลดลงติดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ไตรมาส ชี้ให้เห็นว่าบริษัทญี่ปุ่นมีความกังวลว่าการปรับขึ้นภาษีการบริโภคเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2557 อาจส่งผลต่อเศรษฐกิจในประเทศ โดยระบุว่าดัชนีความเชื่อมั่นบริษัทขนาดใหญ่อยู่ที่ -14.6 จุดในไตรมาส 2 ปีนี้ ลดลงจากระดับสูงสุดที่ +12.7 จุดในไตรมาสแรก- ธนาคารโลกคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวร้อยละ 7.6 ในปีนี้ ลดลงเล็กน้อยจากที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนมกราคมที่ร้อยละ 7.7 แต่ก็ขึ้นอยู่กับความสำเร็จในการพยายามปรับสมดุลเศรษฐกิจของจีน สำหรับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ธนาคารโลกได้ปรับลดคาดการณ์ในปีนี้เหลือร้อยละ 2.1 จากเดิมที่ร้อยละ 2.8 แต่ธนาคารโลกยังมีมุมมองที่เป็นบวกว่าเศรษฐกิจจะปรับตัวขึ้นในช่วงปลายปีนี้- รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรในภาคเอกชนเดือนเมษายนปรับตัวลดลงร้อยละ 9.1 เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม- ธนาคารกลางเกาหลีใต้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ร้อยละ 2.5 ซึ่งเป็นการตรึงอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 13 ครั้งติดต่อกัน [/size]4. อัตราแลกเปลี่ยน [/size]- เงินบาทอยู่ที่ 32.49 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ อ่อนค่าลง 0.01 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ- เงินเยนอยู่ที่ 102.02 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้น 0.31 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ [/size]5. ราคาน้ำมัน [/size]- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาด Nymex ส่งมอบเดือนกรกฎาคม ปิดตลาดที่ 104.40 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.05 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพราะได้รับแรงหนุนจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA.) ที่ระบุว่าสต๊อคน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้- สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐฯ (EIA.) เปิดเผยว่า สต๊อคน้ำมันดิบสหรัฐฯ ในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 6 มิถุนายน 2557 ลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ โดยสต๊อคน้ำมันดิบลดลง 2.6 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงราว 1.7 ล้านบาร์เรล- กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) มีมติคงเพดานการผลิตน้ำมันไว้ที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ และเป็นการคงเพดานการผลิตเป็นครั้งที่ 5 ติดต่อกัน โดยกลุ่มโอเปคคาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันดิบจะอยู่ที่ 30.4 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วง 6 เดือนข้างหน้า ขณะที่เดือนเมษายน 12 ประเทศสมาชิกผลิตน้ำมันดิบได้ 29.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน [/size]6. การเก็งกำไร [/size]- ราคาตลาด TOCOM ส่งมอบเดือนกรกฎาคม อยู่ที่ 191.2 เยนต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 1.4 เยนต่อกิโลกรัม และส่งมอบเดือนพฤศจิกายน อยู่ที่ 200.9 เยนต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 1.0 เยนต่อกิโลกรัม- ราคาตลาด SICOM เปิดตลาดที่ 210.3 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 3.3 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม [/size]7. ข่าว [/size]- สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเดือนพฤษภาคมลดลง 27,400 ราย ลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลง 250,000 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้ว่างงานรวมอยู่ที่ 1.069 ล้านราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2551 ด้านอัตราว่างงานในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ - เมษายน ปรับตัวลงมาอยู่ที่ร้อยละ 6.6 จากร้อยละ 6.8 ในช่วง 3 เดือนก่อนหน้านั้น แตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี [/size]8. ข้อคิดเห็นของ ผู้ประกอบการ [/size]- ราคายางปรับตัวสูงขึ้น ผู้ประกอบการบางรายกล่าวว่าในสภาวะที่สินค้ามีน้อย ราคายางยังมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นได้ในช่วงแคบ ๆ และอาจต่อเนื่องไปจนถึงช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดอยู่ในภาวะปกติ อย่างไรก็ตาม ก็ต้องรอดูสถานการณ์ในประเทศอีก 2 - 3 เดือน ถึงการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ซึ่งจะมีนโยบายอย่างไรเกี่ยวกับยางพารา [/size]แนวโน้ม ราคายางมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ เพราะได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจหลายประเทศออกมาดีเกินคาด รวมถึงเศรษฐกิจจีนด้วย จึงช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนได้บ้าง ประกอบกับช่วงนี้มีฝนตกชุกในหลายพื้นที่ปลูกยางของไทย เป็นอุปสรรคต่อการกรีดยาง อย่างไรก็ตาม ราคายางยังมีแรงกดดันจากนักลงทุนเริ่มวิตกกังวลหลังจากธนาคารโลกปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกลง และการแข็งค่าของเงินเยน ทำให้ระยะนี้ราคายางยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบจำกัด                                   คณะทำงานวิเคราะห์สถานการณ์ตลาดและราคายาง  สำนักงานตลาดกลางยางพาราสงขลา [/size] [/size]

[/td][/tr][/table]