ผู้เขียน หัวข้อ: ทรัมป์ยอมรับ ขึ้นภาษีแคนาดา-เม็กซิโก-จีน อาจทำให้ชาวอเมริกันเจ็บ  (อ่าน 71 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 86196
    • ดูรายละเอียด

ทรัมป์ยอมรับ ขึ้นภาษีแคนาดา-เม็กซิโก-จีน อาจทำให้ชาวอเมริกันเจ็บ

4 ชม. ? อ่าน 1 นาที



? Matichon
ประธานาธิบดีทรัมป์ระบุว่าสหรัฐจะไม่เป็นประเทศที่โง่อีกต่อไป และยอมรับชาวอเมริกันอาจเผชิญความเจ็บปวดหรือไม่ก็ได้ หลังเรียกเก็บภาษี 3 ประเทศ ได้แก่ แคนาดา เม็กซิโก และจีน ขณะที่ส่งนายรูบิโอ รมว.การต่างประเทศเยือนปานามา ซึ่งได้เรียกร้องให้ทางการปานามากำจัดอิทธิพลจีนเหนือคลองปานามา

รอยเตอร์ (Reuters) และบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐกล่าวว่า มาตรการภาษีศุลกากรครั้งใหญ่ที่สหรัฐเรียกเก็บจากเม็กซิโก แคนาดา และจีน อาจสร้างความเจ็บปวดให้กับชาวอเมริกัน

ยังไม่ทันเข้ามาดำรงตำแหน่งครบ 2 สัปดาห์ ประธานาธิบดีทรัมป์ลงนามขึ้นภาษีแคนาดาและเม็กซิโก 25% และจีน 10% ซึ่งมีผลบังคับใช้ทันทีในวันที่ 4 กุมภาพันธ์นี้ โดยอ้างเหตุผลประเทศดังกล่าวไม่สามารถแก้ปัญหาสารเฟนทานิล ซึ่งเป็นสารตั้งต้นยาเสพติดได้รวมถึงปัญหาคนเข้าเมืองผิดกฎหมายจนทำให้หลั่งไหลเข้ามาในสหรัฐ

เอพี (AP) ระบุว่า ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากการเรียกเก็บภาษีของทรัมป์เป็นเหตุให้แคนาดาตอบโต้ด้วยการสั่งเก็บภาษีสหรัฐรอบแรก 25% สำหรับเครื่องดื่ม เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์กระดาษ มีผลวันเดียวกันคือ 4 กุมภาพันธ์ และจะตามมาอีกระลอก รายการสินค้าลำดับที่สองจะประกาศในเร็ว ๆ นี้ รวมถึงรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถบรรทุก ผลิตภัณฑ์เหล็กและอะลูมิเนียม ผลไม้และผักบางชนิด เนื้อวัว เนื้อหมู ผลิตภัณฑ์นม ผลิตภัณฑ์อวกาศ และอื่น ๆ รวมมูลค่าสินค้าสองระลอก 3.6 ล้านล้านบาท

ส่วนเม็กซิโกให้คำมั่นจะตอบโต้สหรัฐ แต่ยังไม่เผยรายละเอียด

ด้านจีนระบุว่า จะท้าทายภาษี 10% ของทรัมป์โดยการนำไปฟ้ององค์การการค้าโลก (WTO)

อย่างไรก็ดี เพื่อลดข้อกังวลของผู้กลั่นน้ำมันและบางมลรัฐ ทรัมป์ได้กำหนดตัวเลขการขึ้นภาษีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับพลังงานจากแคนาดาอยู่ที่ 10% แต่การนำเข้าพลังงานจากเม็กซิโกจะต้องเผชิญกับภาษีนำเข้าเต็มจำนวน 25%

จากข้อมูลของทางการสหรัฐ การนำเข้าน้ำมันดิบจากแคนาดาคิดเป็นมูลค่าเกือบ 100,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 3.4 ล้านล้านบาทในปี 2023 หรือประมาณหนึ่งในสี่ของการนำเข้าทั้งหมดของสหรัฐจากแคนาดา

นักวิจารณ์กล่าวว่าแผนของประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันจะทำให้การเติบโตทั่วโลกชะลอตัว และผลักดันให้ราคาสินค้าสำหรับชาวอเมริกันสูงขึ้น แต่ทรัมป์ก็ปกป้องการตัดสินใจของเขา

?เราจะไม่เป็น ?ประเทศโง่? อีกต่อไป? ทรัมป์โพสต์ในโซเชียลมีเดีย และกล่าวเสริมด้วยตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมดว่า ?จะมีความเจ็บปวดหรือไม่ ? ใช่ อาจจะ (และอาจจะไม่ !)? แต่ทรัมป์ไม่ได้ระบุเพิ่มเติมว่า ?ความเจ็บปวด? ในที่นี้หมายถึงอะไร

เกร็ก ดาโค หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของบริษัทเอิร์นสท์ แอนด์ ยัง (EY) กล่าวว่าภาษีศุลกากรของทรัมป์อาจทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐลดลง 1.5 จุดเปอร์เซนต์ในปีนี้ ส่งผลให้แคนาดาและเม็กซิโกเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย และนำไปสู่ภาวะภาวะเศรษฐกิจที่ชะงักงัน และเงินเฟ้อ ซึ่งได้แก่ อัตราเงินเฟ้อสูง การเติบโตทางเศรษฐกิจที่หยุดนิ่ง และการว่างงานที่เพิ่มขึ้นในประเทศสหรัฐเองด้วย

หลายบริษัทในทวีปอเมริกาเหนือเตรียมรับมือกับการเคลื่อนไหวครั้งนี้ ซึ่งอาจพลิกโฉมส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมต่าง ๆ อย่างมาก ตั้งแต่ยานยนต์ไปจนถึงสินค้าอุปโภคบริโภค และพลังงาน

การเคลื่อนไหวของทรัมป์ถือเป็นการโจมตีครั้งแรกในสงครามการค้าโลกที่อาจสร้างความเสียหายได้ ซึ่งพอล แอชเวิร์ธ จากแคปิตอล อีโคโนมิกส์ (Capital Economics) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยทางเศรษฐกิจกล่าวว่า จะส่งผลให้เงินเฟ้อของสหรัฐพุ่งสูงขึ้น เร็วขึ้นกว่าที่คาดไว้ในตอนแรก

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบสหรัฐล่วงหน้าพุ่งขึ้นกว่า 2 ดอลลาร์ (ราว 68 บาทต่อบาร์เรล) แตะที่ 75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (ราว 2,550 บาทต่อบาร์เรล)

เรียกร้องกำจัดอิทธิพลจีนเหนือคลองปานามา
มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเรียกร้องให้ทางการปานามากำจัดอิทธิพลบริษัทที่เกี่ยวข้องกับจีนให้หมดไปจากคลองปานามา มิฉะนั้นสหรัฐจะดำเนินมาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้องสิทธิสิทธิของสหรัฐตามสนธิสัญญาคลองปานามา ในการพบหารือกับนายโฮเซ ราอุล มูลิโน ประธานาธิบดีปานามาและนายจาเวียร์ มาร์ติเนซ อาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศปานามาที่ประเทศปานามา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์

การเยือนปานามาถือเป็นการเยือนต่างประเทศครั้งแรกของนายรูบิโอ นับตั้งแต่ขึ้นดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ

แถลงการณ์ผลการหารือระหว่างนายรูบิโอและนายมูลิโน จากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐระบุว่า สถานการณ์ในปัจจุบันอิทธิพลและการควบคุมของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเหนือพื้นที่บริเวณคลองปานามา เป็นภัยคุกคามและเป็นการละเมิดสนธิสัญญาว่าด้วยความเป็นกลางที่ถาวร และการดำเนินการของคลองปานามา

ด้านนายมูลิโนกล่าวว่า การประชุมเป็นไปด้วยความเคารพและจริงใจ และไม่ได้รู้สึกถึงการคุกคามที่ละเมิดสนธิสัญญาและความถูกต้องของสนธิสัญญา ยิ่งไปกว่านั้นรวมถึงการใช้กำลังทหารเพื่อเข้ายึดคลองปานามาแต่อย่างใด

ทั้งนี้ เมื่อกลับมารับตำแหน่ง ทรัมป์ขู่ว่าจะยึดคลองปานามา ซึ่งขุดขึ้นโดยสหรัฐเมื่อต้นศตวรรษที่ 20 และส่งมอบให้ปานามาในปี 1999 โดยอ้างว่าคลองนี้ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลจีน