NER-STA-TRUBB-TEGH กอดคอวิ่ง! รับราคายางพุ่งกิโลละ 80 บาท นิวไฮรอบ 41 เดือน
ที่มาข่าวหุ้น [/size]8/3/2024
NER-STA-TRUBB-TEGH วิ่งคึก! ตอบรับราคายางปรับตัวขึ้นกิโลละ 80 บาท แตะระดับสูงสุดในรอบ 41 เดือน ด้านโบรกชี้ราคายาง SICOM ทำ New high ในรอบ 1 ปีครึ่ง หนุนหุ้นกลุ่มยางพารา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด ณ เวลา 15:59 น. สำหรับราคายางปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่อง ตามราคายางในประเทศซึ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 41 เดือน และมาตรฐานสากลสำหรับยางพาราที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน นำโดยราคาหุ้น บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER อยู่ที่ 5.85 บาท บวก 0.15 บาท หรือ 2.63% สูงสุดที่ 5.90 บาท ต่ำสุดที่ 5.75 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 24.66 ล้านบาท
บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA ราคาหุ้นอยู่ที่ 20 บาท บวก 0.70 บาท หรือ 3.63% สูงสุดที่ 20.30 บาท ต่ำสุดที่ 19.20 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 374.47 ล้านบาท
บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TRUBB ราคาหุ้นอยู่ที่ 1.35 บาท บวก 0.05 บาทหรือ 3.85% สูงสุดที่ 1.36 บาท ต่ำสุดที่ 1.30 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 18.83 ล้านบาท
บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ปโฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEGH ราคาหุ้นอยู่ที่ 3.22 บาท บวก 0.10 บาทหรือ 3.21% สูงสุดที่ 3.24 บาท ต่ำสุดที่ 3.12 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 8.04 ล้านบาท
ทั้งนี้ นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการ กยท. เปิดเผยว่า ปัจจัยสนับสนุนที่ส่งผลให้ราคายางพุ่งสูงขึ้น โดยราคาซื้อขายยางแผ่นรมควัน อยู่ที่ 81.09 บาท/กก. ส่วนหนึ่งมาจากความต้องการใช้ยางในอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ของโลกที่เพิ่มมากขึ้น ยอดขายรถยนต์ของยุโรปในเดือนม.ค. โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 10.3%
ในขณะที่จีนผลิตรถยนต์และส่งออกในปี 66 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 4.91 ล้านคัน คิดเป็น 57.9% ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ประกอบกับการลดกำลังการผลิตน้ำมันของ กลุ่ม OPEC+ ส่งผลให้ยังสามารถตรึงราคาน้ำมันไว้ในระดับที่สูง ต้นทุนการผลิตยางสังเคราะห์จึงสูงขึ้น ช่วยเพิ่มความต้องการใช้ยางธรรมชาติในภาคการผลิตให้มากขึ้นด้าน บล.หยวนต้า ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ราคายาง SICOM ทำ New high ในรอบ 1 ปีครึ่ง หนุนหุ้นกลุ่มยางพารา โดยแนะนำซื้อ STA จากมีสินค้าที่ผ่าน EUDR (มาตรฐานใหม่ยุโรปบังคับใช้ ธ.ค.67) เป็นยาง Premium และ High margin ตั้งเป้าปริมาณขาย 7.5 แสนตันในปี 68 (19% ที่ยุโรปต้องการทั้งปี) ถือเป็นรายใหญ่ที่สุดในโลกที่ผ่านมาตรฐานนี้ขณะที่ผลประกอบการกลับมามีกำไรในไตรมาส 1/67 ทั้งธุรกิจยาง และถุงมือยาง, ดีมานด์ฟื้นทั้งจีน ยุโรป และ สหรัฐฯ ส่วน Supply ลดลงจากปริมาณฝนที่น้อยกว่าค่าเฉลี่ย และราคาหุ้นซื้อขายที่ PBV ต่ำเพียง 0.6 เท่า ด้วยปัจจัยของราคายางรอบนี้ที่ขึ้นอย่างแข็งแกร่ง เชื่อว่าการปรับตัวขึ้นรอบนี้จะสามารถผ่านและยืนได้ที่ 20 บาท โดยทางเทคนิคมีโอกาสไปทำ Higher high ที่ 21.00 บาท ทั้งนี้ แนะนำเก็งกำไร TRUBB ได้ประโยชน์จากราคายางพาราที่ปรับขึ้นเช่นกัน มีโอกาสเทิร์นอะราวด์ในปีนี้ มีโอกาสขึ้นไปปิด Gap ที่ 1.44 บาท โดยปัจจุบันยังซื้อขายที่ PBV เพียง 0.35 บาท
