ผู้เขียน หัวข้อ: World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ  (อ่าน 160 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 85111
    • ดูรายละเอียด

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ
          สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (5 ม.ค. 2566)--ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 4 ม.ค. 2566
          -- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (4 ม.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมซึ่งระบุว่า กรรมการเฟดมีความเห็นตรงกันว่าควรจะชะลออัตราการปรับขึ้นดอกเบี้ย เพื่อลดความเสี่ยงที่จะมีต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ
          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,269.77 จุด เพิ่มขึ้น 133.40 จุด หรือ +0.40%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,852.97 จุด เพิ่มขึ้น 28.83 จุด หรือ + 0.75% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,458.76 จุด เพิ่มขึ้น 71.78 จุด หรือ + 0.69%
          -- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพุธ (4 ม.ค.) เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของฝรั่งเศสที่ลดลง และข้อมูลกิจกรรมทางธุรกิจของยูโรโซนที่ดีเกินคาด
          ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 440.19 จุด เพิ่มขึ้น 6.01 จุด หรือ +1.38%
          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,776.43 จุด เพิ่มขึ้น 152.54 จุด หรือ +2.30%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,490.78 จุด เพิ่มขึ้น 309.11 จุด หรือ +2.18% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,585.19 จุด เพิ่มขึ้น 31.10 จุด หรือ +0.41%
          -- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันพุธ (4 ม.ค.) ขณะที่นักลงทุนรอการเปิดเผยรายงานการประชุมเดือนธ.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้อัตราการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในอนาคต ซึ่งรายงานดังกล่าวเปิดเผยหลังจากตลาดลอนดอนปิดทำการไปแล้ว
          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,585.19 จุด เพิ่มขึ้น 31.10 จุด หรือ +0.41%
          -- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 5% ในวันพุธ (4 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกและการพุ่งขึ้นของยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจีน จะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน
          ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. ร่วงลง 4.09 ดอลลาร์ หรือ 5.3% ปิดที่ 72.84 ดอลลาร์/บาร์เรล
          ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. ดิ่งลง 4.26 ดอลลาร์ หรือ 5.2% ปิดที่ 77.84 ดอลลาร์/บาร์เรล
          -- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 7 เดือนในวันพุธ (4 ม.ค.) เนื่องจากการอ่อนค่าของดอลลาร์และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยหนุนตลาดทองคำ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
          ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 12.9 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 1,859 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย. 2565
          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 27.2 เซนต์ หรือ 1.12% ปิดที่ 23.964 ดอลลาร์/ออนซ์
          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 1 ดอลลาร์ หรือ 0.09% ปิดที่ 1,092.3 ดอลลาร์/ออนซ์
          สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. พุ่งขึ้น 103.80 ดอลลาร์ หรือ 6.1% ปิดที่ 1,796.70 ดอลลาร์/ออนซ์
          -- ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (4 ม.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมซึ่งระบุว่า กรรมการเฟดมีความเห็นตรงกันว่าควรจะชะลออัตราการปรับขึ้นดอกเบี้ย เพื่อลดความเสี่ยงที่จะมีต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ
          ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.24% แตะที่ระดับ 104.2430
          ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9295 ฟรังก์ จากระดับ 0.9351 ฟรังก์ ขณะเดียวกันก็อ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3452 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3659 ดอลลาร์แคนาดา และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.5026 โครนา จากระดับ 10.5450 โครนา แต่ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 132.58 เยน จากระดับ 130.76 เยน
          ส่วนยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.0605 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0566 ดอลลาร์ และเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ  1.2060 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1988 ดอลลาร์
          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 33,269.77 จุด เพิ่มขึ้น 133.40 จุด, +0.40%
          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 3,852.97 จุด เพิ่มขึ้น 28.83 จุด, +0.75%
          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 10,458.76 จุด เพิ่มขึ้น 71.78 จุด, +0.69%
          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,776.43 จุด เพิ่มขึ้น 152.54 จุด, +2.30%
          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,490.78 จุด เพิ่มขึ้น 309.11 จุด, +2.18%
          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,585.19 จุด เพิ่มขึ้น 31.10 จุด, +0.41%
          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,059.20 จุด เพิ่มขึ้น 113.00 จุด, +1.63%
          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,249.10 จุด เพิ่มขึ้น 118.00 จุด, +1.65%
          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 25,716.86 จุด ลดลง 377.64 จุด, -1.45%
          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,255.98 จุด เพิ่มขึ้น 37.30 จุด, +1.68%
          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 14,199.13 จุด ลดลง 24.99 จุด, -0.18%
          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,123.52 จุด เพิ่มขึ้น 7.00 จุด, +0.22%
          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 20,793.11 จุด เพิ่มขึ้น 647.82 จุด, +3.22%
          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 60,657.45 จุด ลดลง 636.75 จุด, -1.04%
          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 6,813.24 จุด ลดลง 75.52 จุด, -1.10%
          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,718.50 จุด เพิ่มขึ้น 132.49 จุด, +2.01%
          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,469.5 จุด ลดลง 4.44 จุด, -0.30%
          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,242.46 จุด ลดลง 3.34 จุด, -0.10%
โดย กัลยาณี ชีวะพานิช/รัตนา พงศ์ทวิช