ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ข่าวหุ้น-การเงิน 3 กุมภาพันธ์ 2564  (อ่าน 627 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 84444
    • ดูรายละเอียด

***ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดร่วง 30.5 ดอลล์ ปรับลงตามราคาโลหะเงิน

ข่าวต่างประเทศ Wednesday February 3, 2021 07:00 ?สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 30 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (2 ก.พ.) ตามทิศทางราคาสัญญาโลหะเงินที่ทรุดตัวลงกว่า 10% หลังจาก Chicago Mercantile Exchange (CME) ซึ่งเป็นตลาดซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์และสัญญาฟิวเจอร์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศขึ้นอัตรา maintenance margin เพื่อสกัดการปั่นราคาของกลุ่มนักลงทุนรายย่อยในตลาด

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ร่วงลง 30.5 ดอลลาร์ หรือ 1.64% ปิดที่ 1,833.4 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 3.016 ดอลลาร์ หรือ 10.25% ปิดที่ 26.402 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ร่วงลง 42.8 ดอลลาร์ หรือ 3.76% ปิดที่ 1,096 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ร่วงลง 14 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ to 2,227.70 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำปรับตัวลงตามทิศทางราคาสัญญาโลหะเงิน หลังจาก CME ประกาศปรับอัตรา maintenance margin สำหรับสัญญา Comex 5000 Silver Futures โดยปรับเพิ่มขึ้น 17.9% เพื่อสกัดการปั่นราคาของกลุ่มนักลงทุนรายย่อยในตลาด

ความเคลื่อนไหวของ CME มีขึ้นหลังจากราคาสัญญาโลหะเงินพุ่งขึ้นกว่า 11% ทะยานขึ้นเหนือระดับ 30 ดอลลาร์ แตะระดับสูงสุดในรอบ 8 ปีเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา จากการที่กลุ่มนักลงทุนรายย่อยในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทได้หันเข้าปั่นราคาโลหะเงินเพื่อกดดันให้กองทุนเฮดจ์ฟันด์เข้าซื้อคืนสัญญาเพื่อตัดขาดทุน หลังจากที่ได้ขายชอร์ตก่อนหน้านี้ โดยเก็งว่าราคาโลหะเงินมีแนวโน้มในช่วงขาลงต่อไป

นอกจากนี้ นักลงทุนยังเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งติดต่อกัน 2 วันทำการ และยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.24% สู่ระดับ 91.2011 เมื่อคืนนี้

ทั้งนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้น และมีความน่าดึงดูดน้อยลงสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่นๆ

***น้ำมัน WTI ปิดบวก $1.21 ขานรับโอเปกพลัสรักษาข้อตกลงการผลิต

ข่าวต่างประเทศ Wednesday February 3, 2021 06:50 ?สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% ติดต่อกันเป็นวันที่สองเมื่อคืนนี้ (2 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ที่ยังคงดำเนินการผลิตน้ำมันตามข้อตกลง นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากความหวังที่ว่า รัฐบาลสหรัฐจะเร่งผลักดันการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ซึ่งจะช่วยหนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันให้ฟื้นตัวขึ้นด้วย

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. พุ่งขึ้น 1.21 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 54.76 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 1.11 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 57.46 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นหลังมีรายงานว่า กำลังผลิตเดือนม.ค.ของกลุ่มโอเปกปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน แต่เป็นการเพิ่มขึ้นน้อยกว่าการคาดการณ์ ขณะที่กำลังผลิตของรัสเซียในเดือนม.ค.ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่เป็นไปตามกรอบข้อตกลงของกลุ่มโอเปกพลัส

ทางด้านซาอุดีอาระเบียได้ปรับลดกำลังการผลิต 1 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 8.125 ล้านบาร์เรล/วัน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.ไปจนถึงสิ้นเดือนมี.ค. ขณะที่กลุ่มโอเปกพลัส มีกำหนดคงกำลังการผลิตน้ำมันที่ระดับ 7.2 ล้านบาร์เรล/วันในช่วงเวลาดังกล่าว

นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่า รัฐบาลสหรัฐจะสามารถผลักดันการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่จนเป็นผลสำเร็จ หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้พบปะกับสมาชิกพรรครีพับลิกันที่ทำเนียบขาวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเพื่อหารือเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยมีแนวโน้มว่าปธน.ไบเดนจะพยายามผลักดันมาตรการดังกล่าวให้ผ่านการอนุมัติของสภาคองเกรส แม้เผชิญเสียงท้วงติงเกี่ยวกับวงเงินที่สูงถึง 1.9 ล้านล้านดอลลาร์จากสมาชิกรัฐสภาทั้งจากพรรครีพับลิกันและเดโมแครต

รายงานระบุว่า นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และนายชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐ ได้ร่วมกันยื่นญัตติพิจารณางบประมาณสหรัฐเข้าสู่การพิจารณาของสภาคองเกรสแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะลดลง 2.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 29 ม.ค.

***ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 475.57 จุด รับความหวังสหรัฐออกมาตรการกระตุ้นศก.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 3, 2021 06:32 ?สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่สองในวันนี้ (2 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่ารัฐบาลสหรัฐจะผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่จนเป็นผลสำเร็จ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการพุ่งขึ้นของหุ้นอัลฟาเบทและหุ้นแอมะซอน รวมทั้งรายงานที่ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ในสหรัฐปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 3

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,687.48 จุด เพิ่มขึ้น 475.57 จุด หรือ +1.57% ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,826.31 จุด เพิ่มขึ้น 52.45 จุด หรือ +1.39% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,612.78 จุด เพิ่มขึ้น 209.38 จุด หรือ +1.56%

ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้นเป็นเปอร์เซนต์ในวันเดียวที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบ 3 เดือน หรือนับตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย.2563 โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่า รัฐบาลสหรัฐจะสามารถผลักดันการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่จนเป็นผลสำเร็จ หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้พบปะกับสมาชิกพรรครีพับลิกันที่ทำเนียบขาวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเพื่อหารือเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยมีแนวโน้มว่าปธน.ไบเดนจะพยายามผลักดันมาตรการดังกล่าวให้ผ่านการอนุมัติของสภาคองเกรส แม้เผชิญเสียงท้วงติงเกี่ยวกับวงเงินที่สูงถึง 1.9 ล้านล้านดอลลาร์จากสมาชิกรัฐสภาทั้งจากพรรครีพับลิกันและเดโมแครต

ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ในสหรัฐปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 3 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ย.2563 ขณะที่จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลก็ปรับตัวลงเช่นกัน

หุ้นทั้ง 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้นทั้งหมด นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารที่พุ่งขึ้น 2.5% โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 3.57% หุ้นเจพีมอร์แกน พุ่งขึ้น 3.06% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ทะยานขึ้น 4.85% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 4.46%

ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเมื่อคืนนี้ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 1.10% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 1.874%

หุ้นแอมะซอน พุ่งขึ้น 1.11% หุ้นอัลฟาเบทซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล พุ่งขึ้น 1.38% ก่อนที่ทั้งสองบริษัทจะเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 4/2563 หลังตลาดปิดทำการ โดยนักลงทุนคาดว่า ผลประกอบการของทั้งสองบริษัทจะออกมาแข็งแกร่ง

ข้อมูล IBES data จาก Refinitiv บ่งชี้ว่า บรรดาบริษัทในดัชนี S&P 500 ที่มีการรายงานผลประกอบการในไตรมาส 4/2563 แล้ว มีจำนวนกว่า 80% ที่รายงานตัวเลขรายได้และกำไรสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ และมีบริษัทเทคโนโลยีราว 97% ที่รายงานผลประกอบการที่ดีกว่าคาด

หุ้นเอ็กซอน โมบิล ดีดตัวขึ้น 1.58% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุนสุทธิในไตรมาส 4/2563 กว่า 2 พันล้านดอลลาร์ แต่ตัวเลขกำไรที่ปรับค่าตามฤดูกาลแล้วนั้น อยู่ในระดับสูงกว่าการคาดการณ์

หุ้น GameStop ปิดตลาดดิ่งลง 60.01% ส่งผลให้ราคาหุ้น GameStop ทรุดตัวลงไปแล้วกว่า 70% นับตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งช่วยให้ตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับความผันผวนในตลาด หลังจากที่ราคาหุ้น GameStop พุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงในช่วงที่ผ่านมา

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนม.ค.จาก ADP, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนม.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคบริการเดือนม.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนธ.ค. และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค.