ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ข่าวหุ้น-การเงิน 25 กันยายน พ.ศ. 2563  (อ่าน 670 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 84462
    • ดูรายละเอียด

***ราคาทองฟิวเจอร์ร่วง ต่ำสุดรอบ2เดือน

25 กันยายน 2563  กรุงเทพธุรกิจ
ราคาทองฟิวเจอร์ ปิดตลาดวันพฤหัสบดี(24ก.ย.)ปรับตัวร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ2เดือน เหตุถูกกดดันจากการแข็งค่าของเงินสกุลดอลลาร์ ขณะที่ความคืบหน้าเกี่ยวกับการผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ทำให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 0.3% ปิดที่ราคา 1,862 ดอลลาร์/ออนซ์

ทั้งนี้ ราคาทองร่วงลงมากกว่า 10% นับตั้งแต่พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนส.ค. ขณะที่นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างสภาคองเกรสและทำเนียบขาวในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่

ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันนี้ หลังจากที่ได้เข้าแถลงต่อคณะอนุกรรมการว่าด้วยวิกฤตการณ์ไวรัสโควิด-19 ในสภาคองเกรสเมื่อวานนี้

***ดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นขานรับยอดขายบ้านพุ่งสูงสุด 14 ปี

25 กันยายน 2563 
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันพฤหัสบดี (24ก.ย.)พลิกสู่แดนบวก หลังจากที่สหรัฐเผยยอดขายบ้านใหม่พุ่งสูงสุด 14 ปีในเดือนส.ค. ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีต่างปรับตัวขึ้นหลังร่วงลงในช่วงแรก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวขึ้น 52.31 จุด หรือ 0.20% ปิดที่ 26,815.44 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 9.67 จุด หรือ 0.30% ปิดที่ 3,246.59 จุด และดัชนีแนสแด็ก บวก 39.28 จุดหรือ 0.37% ปิดที่ 10,672.27 จุด

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ รายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 4.8% สู่ระดับ 1.011 ล้านยูนิตในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2549 และสวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่ายอดขายจะดิ่งลง 1% สู่ระดับ 895,000 ยูนิต

ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์ยังได้ปรับเพิ่มยอดขายบ้านใหม่ในเดือนก.ค.สู่ระดับ 965,000 ยูนิต จากเดิมรายงานที่ระดับ 901,000 ยูนิต


ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงในการซื้อขายช่วงแรก ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ หลังการเปิดเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานสูงกว่าคาด

กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 870,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 840,000 ราย และสูงกว่าระดับ 866,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้

ตัวเลขการว่างงานที่สูงกว่าคาดดังกล่าวบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกได้พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์แตะระดับ 6.867 ล้านรายในช่วงปลายเดือนมี.ค. จากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ภาคธุรกิจปิดกิจการ และมีการปลดพนักงานจำนวนมาก

การที่ประธานาธิบโดนัลด์ ทรัมป์ปฏิเสธที่จะให้คำมั่นสัญญาว่า การส่งมอบอำนาจบริหารจะเป็นไปอย่างราบรื่น หากเขาพ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพ.ย.นี้ ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน

ขณะเดียวกัน ตลาดยังมีความวิตกต่อความขัดแย้งระหว่างสภาคองเกรสและทำเนียบขาวในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ โดยพรรครีพับลิกันและเดโมแครตยังคงมีความเห็นต่างเกี่ยวกับขนาดและขอบข่ายของมาตรการดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นการขยายมาตรการให้ความช่วยเหลือคนว่างงานซึ่งได้หมดอายุลงแล้วตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค. ซึ่งพรรครีพับลิกันต้องการลดวงเงินช่วยเหลือคนว่างงานลงสู่ระดับ 300 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ ขณะที่พรรคเดโมแครตต้องการรักษาวงเงินดังกล่าวที่ระดับ 600 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์

***น้ำมัน WTI ปิดบวก 38 เซนต์ หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง

ข่าวต่างประเทศ Friday September 25, 2020 06:56 ?สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดบวก 38 เซนต์ หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (24 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลงติดต่อกัน 2 สัปดาห์ อย่างไรก็ดี ความกังวลที่ว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในยุโรปจะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน ได้สกัดแรงบวกของราคาน้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 38 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 40.31 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 17 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 41.94 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ โดยได้แรงหนุนจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 1.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 18 ก.ย. ซึ่งเป็นการลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดบวก 38 เซนต์ หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง
รายงานของ EIA ยังระบุด้วยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 4 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 3.4 ล้านบาร์เรล

อย่างไรก็ดี แรงบวกของราคาน้ำมันได้ถูกสกัดในระหว่างวัน หลังจากรัฐบาลอังกฤษ เยอรมนี และฝรั่งเศสต่างประกาศมาตรการสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงกดดันจากการที่ EIA ระบุว่า อุปสงค์น้ำมันเบนซินเฉลี่ยรอบ 4 สัปดาห์อยู่ที่ระดับ 8.5 ล้านบาร์เรล/วันในสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว