ราคาเวสต์เท็กซัสร่วงหลังสหรัฐเผยสต็อกน้ำมันดิบพุ่ง
16 เมษายน 2563
ราคาเวสต์เท็กซัสร่วงหลังสหรัฐเผยสต็อกน้ำมันดิบพุ่ง นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลต่อภาวะน้ำมันล้นตลาด ขณะที่อุปสงค์ทรุดตัวลงจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดตลาดวันพุธ (15เม.ย.)ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลต่อภาวะน้ำมันล้นตลาด ขณะที่อุปสงค์ทรุดตัวลงจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แม้ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันก่อนหน้านี้
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนพ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ลดลง 24 เซนต์ ปิดที่ 19.87 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 1.91 ดอลลาร์ ปิดที่ 27.69 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทั้งนี้ สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้น 19.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นตัวเลขการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ที่มีการรายงานตัวเลขดังกล่าว ขณะที่สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 12 สัปดาห์ ส่วนนักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 10.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (เอพีไอ) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 13.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
อีไอเอ ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 4.9 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 7.1 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ สต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 6.3 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรล
ขณะที่สำนักงานพลังงานสากล (ไออีเอ) ออกรายงานระบุว่า วิกฤตการณ์จากแพร่ระบาดของเชื้อของโรคโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมันทั่วโลก ขณะที่ประเทศต่างๆพากันออกมาตรการจำกัดการเดินทางเพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 โดยไออีเอ คาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันจะลดลง 2.7 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
