ผู้เขียน หัวข้อ: ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดลบ 5.27 จุด วิตกผลกระทบเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์  (อ่าน 273 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 84531
    • ดูรายละเอียด

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดลบ 5.27 จุด วิตกผลกระทบเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์





สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 29 สิงหาคม 2560 06:41:24 น.
 
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (28 ส.ค.) โดยหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มประกันปรับตัวลง เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคน "ฮาร์วีย์" อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq ปิดในแดนบวก โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
 
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,808.40 จุด ลดลง 5.27 จุด หรือ -0.02% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,444.24 จุด เพิ่มขึ้น 1.19 จุด หรือ +0.05% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,283.02 จุด เพิ่มขึ้น 17.37 จุด หรือ +0.28%


ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซาเมื่อคืนนี้ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลระทบของพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ ซึ่งพัดถล่มรัฐเท็กซัส ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมหนัก และสร้างความเสียหายต่อพื้นที่ประสบภัยหลายแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองฮุสตัน ซึ่งเป็นเมืองขนาดใหญ่อันดับ 4 ของสหรัฐ
 
หุ้นกลุ่มประกันร่วงลง นำโดยหุ้นทราเวลเลอร์ส คอส อิงค์ ซึ่งดิ่งลง 2.6% เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากพายุฮาร์วีย์ ขณะที่คอร์โลจิก (CoreLogic) ผู้ให้บริการข้อมูลด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของสหรัฐ คาดการณ์ว่า ยอดเคลมประกันภัยจากพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ อาจอยู่ในช่วง 1-2 พันล้านดอลลาร์
 
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง หลังจากบริษัทเอ็กซอน โมบิล ประกาศปิดโรงกลั่นเบย์ทาวน์ ในรัฐเท็กซัส ขณะที่บริษัทรอยัล ดัชท์ เชลล์ ได้ประกาศปิดโรงกลั่นเดียร์พาร์ค ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับเมืองฮุสตัน ทั้งนี้ หุ้นเอ็กซอน โมบิล ปรับตัวลง 0.4% ขณะที่หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ลดลง 0.2% หุ้นเชฟรอน คอร์ป ลดลง 0.4% และหุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี คอร์ป ร่วงลง 3.7%
 
อย่างไรก็ตาม การดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีช่วยหนุนดัชนี Nasdaq ปิดตลาดในแดนบวก โดยหุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 1.2%
 
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนในระหว่างวัน จากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งในเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 0.4% จากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 6.012 แสนล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ การที่ภาคธุรกิจเพิ่มสต็อกสินค้าคงคลังจะถือเป็นสัญญาณบวกต่อเศรษฐกิจ เนื่องจากสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจที่เพิ่มสูงขึ้นจะมีส่วนสนับสนุนการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ
 
ทางด้านธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัส เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตขยับตัวลงสู่ระดับ 20.3 ในเดือนส.ค. จากระดับ 22.8 ในเดือนก.ค.
 
นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.ของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.จะขยายตัวเพียง 180,000 ตำแหน่ง หลังจากที่ขยายตัวมากกว่า 200,000 ตำแหน่ง ติดต่อกันเป็นเวลา 2 เดือนก่อนหน้านั้น ขณะเดียวกันคาดว่า อัตราว่างงานเดือนส.ค.จะทรงตัวอยู่ที่ระดับ 4.3%
 
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่จะเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ดัชนีราคาบ้านเดือนมิ.ย.จาก S&P/Case-Shiller และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.จากคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด