ภาวะตลาดน้ำมัน: WTI ปิดดีดขึ้น 19 เซนต์ หลังร่วงหนัก 2 วันติดต่อกัน
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 10 มิถุนายน 2560 07:05:31 น.
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (9 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนซื้อเก็งกำไรหลังจากราคาสัญญาน้ำมันปรับตัวลดลงติดต่อกันมา 2 วัน อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการซื้อขายโดยรวมยังคงถูกกดดันจากแนวโน้มภาวะน้ำมันล้นตลาด แม้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) พยายามลดกำลังการผลิต
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 19 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 45.83 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ตลอดสัปดาห์ สัญญาร่วงลง 3.8%
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 29 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 48.15 ดอลลาร์/บาร์เรล สำหรับทั้งสัปดาห์ สัญญาเบรนท์ร่วงลง 3.6%
ทั้งนี้ ทั้งสัญญา WTI และเบรนท์ ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3
สัญญาน้ำมันปรับตัวลดลงอย่างหนักในการซื้อขาย 2 วันที่ผ่านมา โดย WTI และเบรนท์ ต่างดิ่งลงไปถึงราว 5% เพราะได้รับแรงกดดันจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐ ซึ่งผิดไปจากที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้
โดยถึงแม้สัญญาน้ำมันดีดตัวขึ้นในวันศุกร์ แต่บรรยากาศการซื้อขายโดยรวมก็ยังคงถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาดทั่วโลก หลังจากที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานเมื่อวันพุธว่า สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 3.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 3.5 ล้านบาร์เรล
ด้านสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 3.3 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 580,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 4.4 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 281,000 บาร์เรล
ขณะเดียวกัน EIA ยังออกรายงานคาดการณ์ซึ่งระบุว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 10 ล้านบาร์เรล/วันในปีหน้า ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 9.3 ล้านบาร์เรลในปัจจุบัน ส่งผลให้สหรัฐมีการผลิตน้ำมันใกล้เคียงกับซาอุดิอาระเบีย
นอกจากนี้ ไนจีเรียได้กลับมาส่งออกน้ำมันดิบเข้าสู่ตลาด โดยบริษัทรอยัล ดัชท์ เชลล์เปิดเผยว่า ทางบริษัทได้ยกเลิกภาวะสุดวิสัยต่อการส่งออกน้ำมันดิบของไนจีเรีย ส่งผลให้ไนจีเรียสามารถส่งออกน้ำมันเป็นครั้งแรกในรอบ 16 เดือน
ส่วนลิเบียจะกลับมาผลิตน้ำมันตามปกติภายใน 3 วัน โดยจะมีการเปิดบ่อน้ำมันชารารา ซึ่งมีกำลังการผลิต 270,000 บาร์เรล/วัน หลังจากที่คนงานได้ทำการประท้วงก่อนหน้านี้
เมื่อวันที่ 25 พ.ค. ที่ประชุมของกลุ่มโอเปก และประเทศนอกกลุ่มโอเปก มีมติเห็นพ้องสำหรับการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตออกไปอีก 9 เดือนจนถึงเดือนมี.ค.2018 โดยไม่มีการปรับลดกำลังการผลิตมากขึ้น โดยโอเปกและกลุ่มนอกโอเปกจะยังคงผลิตน้ำมันราว 1.8 ล้านบาร์เรล/วันต่อไป
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งมองว่า ข้อตกลงดังกล่าวยังไม่เพียงพอที่จะช่วยลดปริมาณน้ำมันในตลาดโลก โดยระบุว่าโอเปกจะต้องลดการส่งออกควบคู่กันไปด้วย นอกเหนือจากการลดกำลังการผลิตเพียงอย่างเดียว ท่ามกลางการผลิตและส่งออกที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐ
วานนี้ เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะบ่อน้ำมันสหรัฐ ได้เปิดเผยรายงานแท่นขุดเจาะน้ำมันรายสัปดาห์ พบว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐ มีจำนวนเพิ่มขึ้น 8 แท่น สู่ระดับ 741 แท่นในสัปดาห์นี้ โดยเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 21 ติดต่อกัน