ทำเนียบขาวเตือนอากาศร้อนจัดปี 2573 อาจคร่าชีวิตชาวอเมริกันกว่า 11,000 คน
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 5 เมษายน 2559 10:17:54 น.
ผลการศึกษาของสหรัฐฯเผย คลื่นความร้อนอาจคร่าชีวิตชาวอเมริกันเพิ่มขึ้นกว่า 11,000 คนในช่วงฤดูร้อนปี พ.ศ. 2573 โดยคลื่นความร้อนซึ่งเกิดขึ้นบ่อยครั้งและทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงสิบปีที่ ผ่านมานี้เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
รายงานว่าด้วยเรื่องผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อสุขภาพ มนุษย์ในสหรัฐฯ (The Impacts of Climate Change on Human Health in the United States) คาดการณ์ว่า สภาพอากาศที่ร้อนจัดจะคร่าชีวิตผู้คนอีกกว่า 27,000 คนในช่วงฤดูร้อนปี พ.ศ. 2643 เมื่อเทียบกับข้อมูลอ้างอิงในปี พ.ศ. 2533 โดยทำเนียบขาวเผยว่า เมื่อปีที่ผ่านมามีการประมาณการณ์ว่าคลื่นความร้อนจะส่งผลให้ผู้คนในสหรัฐฯ เสียชีวิต 670 ถึง 1,300 คนต่อปี
นอกจากนี้ แถลงการณ์จากทำเนียบขาวยังระบุอีกว่า "อากาศที่ร้อนจัดในช่วงฤดูร้อนแต่ละปีอาจส่งผลให้มีจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่ม มากขึ้น จากหลักพันเป็นหลักหมื่น ซึ่งอาจแซงหน้าจำนวนผู้เสียชีวิตที่ลดลงจากสภาพอากาศหนาวจัด"
ทั้งนี้ แนวโน้มการแพ้สารก่อภูมิแพ้ในอากาศ (airborne allergen) ก็มีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้อาการภูมิแพ้และหอบหืดแย่ลงด้วย โดยมีหลักฐานหนึ่งจากช่วงฤดูกาลที่วัชพืชเรจวีดแพร่ละอองเกสรปลิวไปในอากาศ ยาวนานขึ้นในพื้นที่ตอนเหนือของสหรัฐ ซึ่งอาจกินเวลาถึง 11-27 วัน ในช่วงปี พ.ศ. 2538 ถึง 2544
รายงานยังระบุอีกว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตอย่างรุนแรง ตั้งแต่ความเครียดเล็กน้อยและอาการวิตกกังวล ไปจนถึงความผิดปกติทางคลินิกอย่างโรควิตกกังวล โรคซึมเศร้า โรคเครียดจากเหตุการณ์ร้ายแรง รวมไปถึงความคิดและพฤติกรรมที่นำไปสู่การฆ่าตัวตาย
แถลงการณ์จากทำเนียบขาวเปิดเผยว่า "ผลกระทบต่อสุขภาพจิตที่มาจากเหตุการณ์ร้ายแรง เช่น เฮอร์ริเคน น้ำท่วม และความแห้งแล้ง อาจทำให้ผู้คนต้องเผชิญกับความเครียดมากขึ้น ซึ่งมักเป็นผลมาจากบาดแผลทางใจจากภัยพิบัติเหล่านั้น "
"ผู้ที่ป่วยเป็นโรคทางจิตและโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ใช้ยารักษาโรคทาง สุขภาพจิต เช่น โรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล และความผิดปกติทางอารมณ์ต่างๆมักมีความเสี่ยงจากเหตุการณ์สภาพอากาศรุนแรง หรือสภาพอากาศที่ร้อนจัด"
ยิ่งไปกว่านั้น สภาพอากาศที่รุนแรงและเหตุการณ์อื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพ ภูมิอากาศจะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคที่มากับน้ำ รวมไปถึงอาหารที่อาจเสี่ยงต่อการปนเปื้อนเชื้อโรคและสารพิษ และยังส่งผลให้โครงสร้างพื้นฐานอย่างพลังงาน น้ำ การคมนาคม และระบบการติดต่อสื่อสารต้องรวนอีกด้วย
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปัทมาสน์ ชนะรัชชรักษ์/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์:
sunita@infoquest.co.th- 
