ผู้เขียน หัวข้อ: วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง วันพุธที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2558  (อ่าน 970 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 86784
    • ดูรายละเอียด

วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง
วันพุธที่  23  กันยายน  พ.ศ. 2558
ปัจจัย[/t][/t] [/t]

วิเคราะห์
1.สภาพภูมิอากาศ
 
- มรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังปานกลางทำให้ภาคใต้มีฝนกระจายร้อยละ   40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนของภาค ส่วนภาคอื่น ๆ มีฝนร้อยละ 40-60 ของพื้นที่
 
2.การใช้ยาง
 
- กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์   สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ในเดือนตุลาคมนี้จะมีเป้าหมายยอดขายรถยนต์ปี 2558 อย่างเป็นทางการลงมาอยู่ที่   1.95 ล้านคัน จากเป้าหมายเดิมที่ 2 ล้านคัน เนื่องจากในช่วง 4 เดือนที่เหลือของปีนี้ยังคงไม่เห็นสัญญาณบวกในการกระตุ้นยอดขายรถยนต์ เนื่องจากราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ การลงทุนในภาคเอกชนชะลอตัว และสถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ รวมทั้งการเบิกจ่ายงบลงทุนในภาครัฐก็ต่ำกว่าเป้าหมาย  อย่างไรก็ตามการส่งออกยังคงเป้าหมายเดิมที่   1.2 ล้านคัน เพราะตลาดส่งออกยังเติบโต
 
3.เศรษฐกิจโลก
 
- สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS)   ระบุว่ารัฐบาลขาดดุลงบประมาณ 1.21 หมื่นล้านปอนด์ ในเดือนสิงหาคม   ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี  เนื่องจากรายได้จากภาษีที่ลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในเดินสิงหาคม
- ธนาคารกลางจีนได้อัดฉีดเม็ดเงิน   5 หมื่นล้านหยวน เข้าสู่ตลาดเงินผ่านข้อตกลงซื้อพันธบัตรโดยมีสัญญาขายคืนเมื่อวานนี้ โดยเป็นการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเป็นครั้งแรกของสัปดาห์
- ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียลงสู่ระดับร้อยละ   5.8 ในปี 2558 และร้อยละ 6.0 ในปี 2559   จากที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ที่ระดับร้อยละ 6.3   ทั้งในปี2558และปี2559
- รายงานดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจจีนที่จัดทำโดย MNI ระบุว่าความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ   (BSI) ของเหล่าผู้บริหารบริษัทใหญ่ๆ ของจีนลดลงในเดือนกันยายน   โดยดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจลดลงสู่ระดับ 51.3 ในเดือนกันยายน จากระดับ 56.0   ในเดือนสิงหาคม ส่วนดัชนีย่อยสำหรับการคาดการณ์ในอนาคตอ่อนตัวแตะ 52.1   ในเดือนกันยายน ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่เริ่มการสำรวจในปี 2550
- ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)   สาขาริชมอนด์ เปิดเผยว่า ภาคการผลิตในภูมิภาคแอตแลนติคตอนกลางปรับตัวซบเซามากกว่า คาดในเดือนกันยายน ขณะที่ปัจจัยส่วนใหญ่มีค่าติดลบ  ทั้งนี้ ระบุว่า ดัชนีภาวะธุรกิจในปัจจุบันของภาคการผลิตลดลงสู่ระดับ -5 ในเดือนกันยายน หลังจากอยู่ที่ระดับ 0 ในเดือนสิงหาคม ขณะที่เดือนกรกฎาคม อยู่ที่ระดับ 13 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ -2 ในเดือนกันยายน
 
4.   อัตราแลกเปลี่ยน
 
-   เงินบาทอยู่ที่ 36.11 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ  อ่อนค่า 0.14 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ
-   เงินเยนอยู่ที่ 119.85 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ  อ่อนค่า 0.52 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ
 
5.   ราคาน้ำมัน
 
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนตุลาคม ปิดตลาดที่ 45.83 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 0.85 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด  นอกจากนี้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีนและสหรัฐฯ ยังได้สร้างความกังวลต่ออุปสงค์น้ำมันในประเทศดังกล่าว
- ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์   ส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 0.16 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 49.08 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
- ผลสำรวจวาณิชธนกิจ จำนวน 13 แห่ง   โดยหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล พบว่า วาณิชธนกิจเหล่านี้ได้ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันลงต่ำกว่า 60 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล จนถึงปีหน้า ท่ามกลางภาวะน้ำมันล้นตลาด
 
6.   การเก็งกำไร
 
- ราคาตลาด TOCOM หยุดทำการเนื่องในวันที่รำลึกถึงบรรพบุรุษผู้ล่วงลับ
- ราคาตลาด SICOM เปิดตลาดที่ 131.0   เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม ลดลง 0.20 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม
 
7. ข่าว
 
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดตลาดปรับตัวลดลงเมื่อวานนี้ โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลล่าร์สหรัฐ อันเป็นผลมาจากกระแสคาดการณ์   ระลอกใหม่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้
 
8. ข้อคิดเห็นของ ผู้ประกอบการ
 
- ราคายางปรับตัวลดลงได้เล็กน้อย เพราะตลาดโตเกียวหยุดทำการหลายวันทำให้นักลงทุนชะลอการซื้อ ประกอบกับจีนใกล้ถึงวันหยุดยาว ทำให้ตลาดต่างประเทศเงียบ
 
  แนวโน้ม ราคายางมีแนวโน้มทรงตัวหรือเปลี่ยนแปลงอยู่ในช่วงแคบ ๆ เนื่องจากไม่มีปัจจัยใหม่ ๆ กระตุ้นตลาด ประกอบกับราคาน้ำมันปรับตัวลดลง และนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจจีนและสหรัฐฯ รวมทั้งความไม่แน่นอนเกี่ยวกับช่วงเวลาของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ สหรัฐฯ (เฟด) ขณะที่ราคาชี้นำตลาดล่วงหน้าโตเกียวหยุดทำการ 3 วันติดต่อกัน  อย่างไรตามเงินบาทที่อ่อนค่าลงยังคงเป็นปัจจัยหนุนราคายางได้ในระดับหนึ่ง


ทีมวิเคราะห์สำนักงานตลาดกลางยางพาราสงขลา