ผู้เขียน หัวข้อ: วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง วันจันทร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2558  (อ่าน 998 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 86776
    • ดูรายละเอียด

วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง
วันจันทร์ที่  21  กันยายน  พ.ศ. 2558
ปัจจัย[/t][/t] [/t]

วิเคราะห์
1.สภาพภูมิอากาศ
 
- มรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังอ่อนลงทำให้ประเทศไทยมีฝนน้อยลงในระยะนี้ โดยภาคใต้มีฝนร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนของภาค ทำให้หลายพื้นที่กรีดยางได้เพิ่มขึ้น ส่วนภาคอื่น ๆ มีฝนร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
 
2.การใช้ยาง
 
- ยอดขายที่ชะลอตัวลงเกินคาดหมายของตลาดรถยนต์ในจีนทำให้ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ หลายรายต้องลดจำนวนการผลิตลงเพื่อรองรับความต้องการที่อ่อนแอในตลาดรถยนต์ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก   โดยรายงานระบุว่าบริษัท เจเนอรัลมอเตอร์ ของสหรัฐฯ ผลิตรถยนต์ลดลงร้อยละ 21.0 และโฟล์กสวาเกนของเยอรมนีกำลังการผลิตลดลงร้อยละ 24.0 ในเดือนสิงหาคม เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ยอดขายรถยนต์ใหม่ในจีนเดือนสิงหาคม   ลดลงร้อยละ 3.4 เหลือ 1.42 ล้านคัน ต่อเนื่องจากเดือนกรกฎาคม ที่ลดลงร้อยละ 6.6   และเดือนมิถุนายน ลดลงร้อยละ 3.4   ส่วนยอดขายรถยนต์ส่วนบุคคลและเชิงพาณิชย์ลดลงร้อยละ 3.0 ในเดือนสิงหาคม เหลือ   1.66 ล้านคัน
 
3.สต๊อกยาง
 
- สต๊อกยางจีน วันที่ 18 กันยายน   2558 มีจำนวน 196,225 ตัน เพิ่มขึ้น 1,279 ตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.66   จากจำนวน 194,946 ตัน ณ วันที่ 11 กันยายน 2558
- สต๊อกยางญี่ปุ่น วันที่ 10   กันยายน 2558 ลดลง 735 ตัน หรือลดลงร้อยละ 8.0 แตะระดับ 8,447 ตัน จาก 9,182 ตัน   ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2558
 
4.เศรษฐกิจโลก
 
- ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)   ระบุว่าความมั่นคงของครัวเรือนชาวสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาส 2 โดยได้รับปัจจัยจากราคาอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น
- ธนาคารกลางเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า   ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนสิงหาคม ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวลดลง ทั้งนี้ดัชนี PPI เดือนสิงหาคมปรับตัวลงร้อยละ 0.5 เมื่อเทียบรายเดือนก่อนหน้า
- สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (EU) รายงานว่า EU มีการเกินดุลบัญชีเดินสะพัด 1.2 หมื่นล้านยูโรในเดือนกรกฎาคม ลดลงจาก   1.46 หมื่นล้านยูโรในเดือนมิถุนายน
- ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)   สาขาเซนต์หลุยส์ เปิดเผยว่าตอนเองไม่เห็นด้วยกับการค้าอัตราดอกเบี้ยในการประชุมคณะกรรมการ นโยบายของเฟด เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว   เพราะเศรษฐกิจสหรัฐฯ นั้นฟื้นตัวขึ้นเพียงพอที่จะรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
- มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของฝรั่งเศสลงหนึ่งขั้น โดยอ้างถึงความอ่อนแอของแนวโน้มอัตราการขยายตัวในระยะกลางของประเทศ นอกจากนี้ยังปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของฝรั่งเศสลงจากมีเสถียรภาพสู่ เชิงลบ   ทั้งนี้อันดับความน่าเชื่อถือของฝรั่งเศสถูกปรับลดลงสู่ระดับ Aa2 จาก Aa1
 
5.   อัตราแลกเปลี่ยน
 
-   เงินบาทอยู่ที่ 35.73 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ  แข็งค่า 0.08 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ
-   เงินเยนอยู่ที่ 119.85 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ  แข็งค่า 0.16 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ
 
6.   ราคาน้ำมัน
 
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาด Nymex ส่งมอบเดือนตุลาคม ปิดตลาดที่ 44.68 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 2.22 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ   (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม
- ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์   ส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 1.61 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 47.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
- เบเกอร์ ฮิวจ์อิงค์ รายงานว่า   แท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐฯ ลดลง 8 แท่น สู่ระดับ 644 แท่น ในสัปดาห์ล่าสุด   ซึ่งเป็นการปรับลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกันหลังจากเพิ่มขึ้นเป็นเวลา 6   สัปดาห์
 
7.   การเก็งกำไร
 
- ราคาตลาด TOCOM หยุดทำการตั้งแต่วันที่ 21-23 กันยายน 2558 เนื่องในวันผู้สูงอายุและวันเริ่มต้นฤดูใบไม้ล่วง
- ราคาตลาด SICOM เปิดตลาดที่ 133.0   เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม ลดลง 0.9 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม
 
8. ข่าว
 
- กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า อัตราว่างงานลดลงใน 29 รัฐ ในเดือนสิงหาคม ขณะที่ทรงตัวใน 11 รัฐ อย่างไรก็ดีอัตราว่างงานเพิ่มขึ้นใน 10 รัฐ โดยราคาน้ำมันและถ่านหินร่วงลงได้ส่งผลกระทบต่อการจ้างงานในรัฐดังกล่าว
- เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ โดยประธานเฟดระบุว่า 13 ใน 17 สมาชิกบอร์ดคณะกรรมการของเฟดต้องการเห็นความเคลื่อนไหวดังกล่าวภายในปีนี้
 
9. ข้อคิดเห็นของ ผู้ประกอบการ
 
- ราคายางปรับตัวลดลงได้ประมาณ   0.50 บาท ตามตลาดต่างประเทศ โดยผู้ประกอบการกล่าวว่า ขายออกยากมาก เพราะราคายางของไทยอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับราคาต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดล่วงหน้าสิงคโปร์ ในขณะที่ผู้ซื้อมีความต้องการซื้อในราคาต่ำ ซึ่งหากขายออกก็ประสบกับภาวะขาดทุน ส่วนมากจึงไม่ขายเพราะปริมาณผลผลิตยางก็ยังมีไม่มากนักในขณะนี้
 
  แนวโน้ม ราคายางมีแนวโน้มปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมัน ประกอบกับเงินบาทและเงินเยนแข็งค่า รวมทั้งการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ลังเลที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก ที่อ่อนแอ และความเสี่ยงจากตลาดการเงินที่ไร้เสถียรภาพ ขณะที่เงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำทั่วโลก ส่วนตลาดโตเกียวปิดทำการเนื่องในวันผู้สูงอายุ


ทีมวิเคราะห์สำนักงานตลาดกลางยางพาราสงขลา