ผู้เขียน หัวข้อ: บอร์ด กยท.เปิดแผนพัฒนายางพาราไทย เตรียมลุย 4 ช่องทางหลักหาพื้นที่ปลูกที่เหมาะสม เพิ่มอัตราการใช้ในประเทศ เร่งยกระดับอุตส  (อ่าน 726 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 83189
    • ดูรายละเอียด

บอร์ด กยท.เปิดแผนพัฒนายางพาราไทย เตรียมลุย 4 ช่องทางหลักหาพื้นที่ปลูกที่เหมาะสม เพิ่มอัตราการใช้ในประเทศ เร่งยกระดับอุตสาหกรรมยางล้อ ดึงผู้เกี่ยวข้องแชร์ผลประโยชน์ร่วมกัน เชื่อมั่นสร้างเสถียรภาพราคาได้


หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ -- เสาร์ที่ 19 กันยายน 2558 00:00:37 น.
 
นายสมชาย ชาญณรงค์กุล รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการยางแห่งประเทศไทยหรือบอร์ด กยท.เผยถึงแนวทางการสร้างเสถียรภาพราคายางพาราว่า เพื่อสร้างความมั่นคงด้านราคายางของประเทศ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐผู้ประกอบธุรกิจยาง ผู้ส่งออก และเกษตรกรชาวสวนยางจำเป็นต้องมีส่วนร่วมพัฒนา 4 เรื่องหลัก คือ 1.จัดพื้นที่ปลูกยางให้มีความเหมาะสมในรูปแบบโซนนิ่ง และต้องมีข้อมูลแหล่งผลิตและปริมาณผลผลิตทีชัดเจน 2.เพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราในประเทศให้มากขึ้นทุกรูปแบบ 3.เร่งรัดการพัฒนาอุตสาหกรรมยางล้อยานยนต์ และ 4.ต้องมีการแบ่งปันผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างผู้ส่งออกและเกษตรกรชาวสวนยาง โดยใช้หลักการเดียวกับอ้อยและมีสวัสดิการให้กับชาวสวนยางด้วย


ปัจจุบันพื้นที่ปลูกยางพาราของไทยกระจายอยู่ทั่วประเทศ ภาครัฐจำเป็นต้องบริหารจัดการให้อยู่ในพื้นที่ที่เหมาะสมที่สุด ทั้งยังต้องบริหารจัดการและควบคุมปริมาณผลผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการใช้ ด้วย เป็นช่องทางหนึ่งที่จะช่วยป้องกันและแก้ไขปัญหาราคายางตกต่ำและยกระดับราคา ให้สูงขึ้นได้
 
สำหรับการส่งออกยางของไทยขณะนี้ยังต้องพึ่งพิงตลาดยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และยางกึ่งสำเร็จรูปซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ยางขั้นต้นหรือไพรมารีโป รดักส์(Primary product) หากไทยสามารถผลิตภัณฑ์ยางสำเร็จรูปหรือฟีนิชโปรดักส์(Finish product) ให้มีความหลากหลายมากขึ้น และส่งออกได้ เช่น ยางล้อยานยนต์ จะช่วยเพิ่มปริมาณการใช้ยางในประเทศพร้อมเพิ่มมูลค่าสินค้าและแก้ไขปัญหา ราคายางได้อย่างยั่งยืน ขณะเดียวกันควรลดวิธีการซื้อขายยางแบบเก็งราคา และมุ่งพัฒนาตลาดซื้อขายยางแบบส่งมอบจริง เพื่อแก้ปัญหาการปั่นราคาและเก็งกำไร เป็นทางออกหนึ่งที่จะช่วยแก้ปัญหาได้" นายสมชายกล่าว
 
นอกจากนั้น การส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้จากการทำการเกษตรผสมผสานตามหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง จะทำให้เกษตรมีความมั่นคงในอาชีพมากขึ้น หากยางมีราคาถูกก็หยุดกรีดเป็นการชั่วคราว แต่ยังสามารถหารายได้จากการทำเกษตรผสมผสานในสวนยางและลดค่าใช้จ่ายจากการ ปลูกพืชผักสวนครัว หรือเลี้ยงสัตว์ได้อีกทางหนึ่ง เพื่อมาทดแทนในช่วงเวลาดังกล่าว
 
นายสมชาย กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ไทยจำเป็นต้องเร่งรัดการพัฒนาอุตสาหกรรมยางล้อ โดยเร่งส่งเสริมให้สร้างโรงงานผลิตยางล้อที่ทันสมัย และพัฒนาศูนย์ทดสอบคุณภาพยางล้อให้ได้มาตรฐานและเป็นที่ยอมรับของสากล เพื่อสนับสนุนการผลิตและส่งออกยางล้อยานยนต์ไปต่างประเทศ เพื่อลดการพึ่งพาตลาดส่งออกยางแท่ง ยางแผ่นรมควัน ยางคอมปาวด์ และยางกึ่งสำเร็จรูป อย่างไรก็ตาม ตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์ยางขั้นต้นก็จำเป็นต้องรักษาไว้เช่นกั ซึ่งคาดว่า ภายในเวลา 3 ปี ราคายางจะมีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น
 
"การแบ่งผลประโยชน์ระหว่างผู้ประกอบธุรกิจยาง ผู้ส่งออก เกษตรกรชาวสวนยาง และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องสามารถใช้แนวทางการบริหารจัดการอ้อยและน้ำตาลมาเป็น ต้นแบบได้ คือโรงงานกับชาวไร่เหมือนกับหุ้นส่วนกัน และรัฐบาลเป็นคนกลาง โดยทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันอย่างจริงจังในการบริหารจัดการเรื่องแบ่งผล ประโยชน์ให้ชัดเจน จะทำให้ราคายางมีความคงที่มากขึ้นซึ่งทั้ง 4 ประเด็น ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องขับเคลื่อนในระยะเริ่มต้น คาดว่าจะเป็นกลไกทำให้ราคายางมีเสถียรภาพมากขึ้นได้ภายใน 3 ปีนี้" นายสมชาย กล่าว