เช็คบิลโกงยาง ฉัตรชัยสั่งสอบสัญญาทาส4.1แสนตันเอื้อบริษัทจีน ขรก.เอี่ยวทุจริตหนาวอีก ปปท.จ่อชงโผเชือดลอต3 เมื่อวันที่ 14 กันยายน มีรายงานข่าวจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้เรียกประชุมหน่วยงานเกี่ยวกับเรื่องยางทั้งหมด เพื่อสอบถามความไม่ชอบมาพากล กรณีการทำสัญญาซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) กับประเทศจีน โดยมีบริษัทไหหนาน เป็นผู้ทำสัญญาเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2557 ซึ่งจะสิ้นสุดสัญญาในวันที่ 21 กันยายนนี้ โดยทางตัวแทนองค์การสวนยาง (อสย.) ได้ชี้แจงยืนยันว่าการทำสัญญาครั้งนี้ ไม่ใช่ดำเนินการรัฐต่อรัฐ แต่เป็นดำเนินการธุรกิจตามปกติของอสย. จึงไม่จำเป็นต้องผ่านการความเห็นชอบรัฐมนตรีที่กำกับดูแล
ทั้งนี้ พล.อ.ฉัตรชัย ได้สอบถามย้ำว่า ได้ทำสัญญาซื้อขายยางในสต็อกจำนวน 210,000 ตัน และยังมีสัญญาแนบท้ายอีก 200,000 ตัน จากโครงการมูลภัณฑ์กันชนเข้าซื้อราคานำตลาดไว้ช่วงกลางปีที่ผ่านมา ควรจะถือว่า เป็นโครงการของรัฐ ซึ่งทาง อสย. ไม่น่าจะดำเนินการได้โดยพลการ น่าจะขอความเห็นชอบจากรัฐมนตรี จึงเห็นว่า ไม่น่าเข้าข่ายการทำธุรกิจของ อสย.เพียงหน่วยงานเดียว ดังนั้นจึงสั่งการให้ อสย. นำสัญญาซื้อขายยางทั้งหมดไปหารือกับฝ่ายกฎหมายของกระทรวงเกษตรฯ และส่งให้สำนักงานอัยการสูงสุด ตรวจสอบรายละเอียดของสัญญา ให้นำมาเสนอกลับมาภายในวันอังคารที่ 15 กันยายนนี้
พร้อมทั้ง ยังได้ให้มีการพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปในการซื้อขายยาง ที่จะสิ้นสุดสัญญาแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ทางบริษัทมีการรับมอบยางเพียง 1.7 หมื่นตัน โดยให้มีการเสนอรายละเอียดว่าจะดำเนินการเรียกเก็บค่าปรับจากบริษัทไหหนาน ด้วยเพราะจากการประเมินความเสียหายกว่า 8,000 ล้านบาท จากที่ยางเสื่อมคุณภาพ และยังไม่นับรวมค่าเช่าโกดังอีกจำนวนมาก
นอกจากนี้ สั่งให้มีการแสดงรายละเอียด และตรวจสอบข้อเท็จจริงการเช่าโกดังของ อสย.4-5โกดัง ที่ใช้เงินไปกว่า 60 ล้านบาท ซึ่งอสย.อ้างว่า จำเป็นต้องเช่าโกดังใช้เก็บยางเพื่อนำมาคัดเลือกปรับปรุงคุณภาพยางก่อนส่ง มอบให้บริษัทไหหนาน และในเรื่องดังกล่าว พล.อ.ฉัตรชัย ได้ย้ำว่า ต้องรายงานภายใน 15 วัน และส่งรายงานระบายในสต็อกทุก 15 วันด้วย เพราะมีการใช้เงินจากโครงการมูลภัณฑ์กันชน ไปซื้อยางในราคานำตลาดกว่า 6,000 ล้านบาท
วันเดียวกัน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ว่า จะมีการส่งรายชื่อข้าราชการที่พัวพันการทุจริตล็อต 3 มาให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พิจารณาดำเนินการ ส่วนรายชื่อข้าราชการที่พัวพันการทุจริตล็อต 1 และ 2 ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน
สำหรับกรณี นายขวัญชัย วงศ์นิติกร อธิบดีกรมพัฒนาชุมชน และ นายชูศักดิ์ ตั้งศิริไพบูลย์ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ปราจีนบุรี ที่ยังมีการสอบสวนอยู่ แต่กลับมีคำสั่งให้กลับไปปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่งเดิมนั้น นายวิษณุ กล่าวว่า เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องการให้เกษียณอายุราชการในตำแหน่งเดิม แต่แม้เกษียณไปแล้ว คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็ยังมีอำนาจไต่สวนได้
ด้าน นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณารายชื่อข้าราชการพัวพันการทุจริต ล็อต3ว่าขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่ ป.ป.ท., ป.ป.ช.และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) อยู่ระหว่างตรวจสอบรายชื่อว่า มีข้าราชการคนใดบ้าง ที่มีแนวโน้มว่า กระทำผิด แต่ยังไม่มีการลงโทษทางวินัยอีกบ้าง จะนำเข้าที่ประชุมศอตช.มี พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม เป็นประธาน ภายใน 2 สัปดาห์ก่อนส่งมายังรัฐบาลต่อไป
ที่มา แนวหน้า วันอังคาร ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2558, 06.00 น.
