ผู้เขียน หัวข้อ: ชาวสวนยางใต้ถกปัญหาราคายางทรุด เตรียมยื่นหนังสือผ่าน ผวจ.14 จังหวัดให้รัฐแก้ไข  (อ่าน 750 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 86983
    • ดูรายละเอียด
ชาวสวนยางใต้ถกปัญหาราคายางทรุด เตรียมยื่นหนังสือผ่าน ผวจ.14 จังหวัดให้รัฐแก้ไข

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

31 สิงหาคม 2558 18:07 น.
 
ชาวสวนยางใต้ถกปัญหาราคายางทรุด เตรียมยื่นหนังสือผ่าน ผวจ.14 จังหวัดให้รัฐแก้ไข height=412
 
พัทลุง - เครือข่ายสวนยาง 14 จังหวัดภาคใต้ประชุมหารือหารือแนวทางแก้ไขปัญหาราคายางพาราเพื่อเสนอไปยัง รัฐบาล โดยการยื่นหนังสือผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 14 จังหวัด        
        วันนี้ (31 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตัวแทนเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง 14 จังหวัดภาคใต้ ประมาณ 40 คน นำโดย นายประทบ สุขสนาน ประธานเครือข่ายชาวสวนยาง จ.ตรัง นายไพรัช เจ้ยชุม ประธานเครือข่ายชาวสวนยาง จ.พัทลุง นายธนพล ทองหวาน ประธานเครื่อข่ายชาวสวนยาง และชาวสวนปาล์ม จ.สงขลา/รองนายก อบต.ทุ่งหมอ อ.สะเดา จ
.สงขลา ได้จัดประชุมหารือร่วมกัน ณ ห้องประชุมร้านอาหารครัวสังข์หยด ต.ท่ามิหรำ อ.เมือง จ.พัทลุง


วัตถุประสงค์ เพื่อหาเเนวทางเเก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำ หารือแนวทางเสนอไปยังรัฐบาลโดยการยื่นหนังสือผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 14 จังหวัดในภาคใต้ จากที่เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามา แก้ปัญหาอย่างจริงจังเน้นให้เกษตรกรมีความมั่นคงและยั่งยืนในการประกอบอาชีพ โดยหลังจากหารือ จะกำหนดวันยื่นหนังสืออีกครั้งหนึ่ง


ชาวสวนยางใต้ถกปัญหาราคายางทรุด เตรียมยื่นหนังสือผ่าน ผวจ.14 จังหวัดให้รัฐแก้ไข height=450
       
        นายไพรัฐ เจ้ยชุม กล่าวว่าตนต้องการเรียกร้องให้รัฐบาลมีความจริงใจในการแก้ปัญหาเรื่อง ยางพาราอย่างเป็นระบบไม่ใช่เมื่อได้รับการร้องเรียนจากเกษตรกรก็ใช้วิธีการ แก้ปัญหาแบบเฉพาะหน้าเอาเงินมาจ่ายชดเชยให้กับเกษตรกร หรือให้สถาบันการเงินนำเงินมาปล่อยให้เกษตรกรกู้ เมื่อราคายางพาราตกต่ำเกษตรกรไม่สามารถนำเงินมาจ่ายคืนได้ จึงเกิดปัญหาเป็นลูกโซ่ ส่วนการจ่ายเงินชดเชยเมื่อได้เงินก้อนมาก็ใช้จ่ายหมดไปในการใช้ชีวิตประจำ วันเพราะค่าครองชีพที่สูงขึ้นในปัจจุบัน


ชาวสวนยางใต้ถกปัญหาราคายางทรุด เตรียมยื่นหนังสือผ่าน ผวจ.14 จังหวัดให้รัฐแก้ไข height=412


ดังนั้นรัฐบาลควรเข้ามาแก้ปัญหาโดยการมุ่งเน้น ให้เกษตรกรมีความยั่งยืนและมั่นคงในอาชีพ และการดำรงชีพ โดยการส่งเสริมให้มีการแปรรูปยางพาราในประเทศอย่างจริงจัง โดยเน้นสถาบันเกษตรกรที่มีความพร้อมในการจัดตั้งโรงงานแปรรูป และรัฐเข้ามาสนับสนุนด้านการตลาด ซึ่งหากกระบวนการผลิต การแปรรูป และใช้ในประเทศไทยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จะทำให้สามารถลดปริมาณการส่งออกได้ในระดับหนึ่ง และเป็นการเพิ่มมูลค่ายางพาราทำให้เกษตรกรในประเทศสามารถขายยางพาราได้ใน ราคาที่เพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติ
       
        สำหรับราคาน้ำยางสดในภาคใต้ วันที่ 31 ส.ค.58 อยู่ที่กิโลกรัมละ 40-45 บาท ในขณะที่ราคายางพาราแผ่นรมควัน ชั้น 1-3 อยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 47 บาท และยังมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ ในขณะที่เกษตรกรมีต้นทุนในการผลิตยางพาราที่กิโลกรัมละ 63 บาท และปัจจุบันในพื้นที่ภาคใต้กำลังเข้าสู่ช่วงหน้าฝน เกษตรกรไม่สามารถกรีดยางพาราได้ เกษตรกรชาวสวนยางพาราจึงเดือดร้อนอย่างหนัก ไม่สามารถเก็บเงินไว้สำรองเพื่อใช้จ่ายในช่วงหน้าฝนได้เหมือนในอดีต