สรุปทวงคืนป่าต้นน้ำแล้ว 7 หมื่นไร่
เมื่อวันที่ 1 ส.ค 58
นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ อธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าของยุทธการทวงคืนผืนป่าในประเทศไทยว่า ขณะนี้การตรวจยึดทางคืนผืนป่าต้นน้ำที่ถูกนายทุนบุกรุกเพื่อปลูกยางพารา ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2557 สามารถยึดคืนได้แล้วกว่า 70,000 ไร่ จากเป้าหมายทั้งสิ้น 400,000 ไร่ ที่ต้องดำเนินการให้ได้ภายในปีนี้ จึงได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้เร่งทำให้ทันเป้าที่ตั้งไว้ ขณะที่ในภาพรวมทั่วประเทศของการทวงคืนผืนป่าสงวนแห่งชาติ สามารถดำเนินการได้แล้ว 110,000-120,000 ไร่ ถือว่าเกินเป้าหมายไปมาก เพราะเฉลี่ยทุกปีจะทวงคืนมาได้เพียง 40,00-50,000 ไร่เท่านั้น
นายธีรภัทรกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พบปัญหาว่ากลุ่มนายทุนลักลอบปลูกยางพาราได้ให้ชาวบ้านมาออกรับแทน จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบและสอบถามข้อเท็จจริงกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้ที่อาศัยในพื้นที่ พร้อมทำความเข้าใจกับชาวบ้านว่าปฏิบัติการครั้งนี้เน้นกลุ่มนายทุนเท่านั้น หลังการบุกยึดและดำเนินคดีก็ได้เฝ้าระวังห้ามมีการบุกรุกพื้นที่ใหม่พร้อม ส่งเสริมการปลูกไม้พะยูงโดยเพาะกล้าไม้พะยูงไว้ 12 ล้านต้น เพื่อนำไปปลูกในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งขณะนี้ได้ปลูกที่ป่าต้นน้ำแล้ว 10,000 ไร่ และส่งเสริมให้ประชาชนปลูกอีก 10,000 ไร่ และได้มีโครงการศาสนา ค้ำพะยูง ตามดำริของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ในการถวายกล้าไม้พะยูงแก่พระสงฆ์เพื่อนำไปปลูกในวัด จำนวน 3 ล้านต้น ใน 3 ปี นอกจากนี้กำลังเข้าไปแก้ปัญหาเขาหัวโล้น เพื่อฟื้นฟูป่า และยังมีการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนด้วย--จบ--
ไทยโพสต์ (Th)
