ผู้เขียน หัวข้อ: วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง วันพุธที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2558  (อ่าน 995 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 84531
    • ดูรายละเอียด
วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง
วันพุธที่  29  กรกฎาคม  พ.ศ. 2558
ปัจจัย
วิเคราะห์
1. สภาพภูมิอากาศ
- ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนฟ้าคะนองทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ไม่เป็นอุปสรรคต่อการกรีดยาง
2. การใช้ยาง
- บริษัทโตโยต้ามอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยสถิติการจำหน่ายของตลาดรถยนต์ในประเทศช่วงครึ่งแรกปี 2558 มีจำนวน 369,109 คัน ลดลงร้อยละ 16.3 พร้อมกันนี้ได้ปรับประมาณการตลาดรถยนต์ทั้งปี 2558 อยู่ในระดับไม่เกิน 800,000 คัน
3. เศรษฐกิจโลก
- สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) รายงานว่า ไตรมาส 2 เศรษฐกิจอังกฤษขยายตัวร้อยละ 0.7 เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส หลังจากที่มีการเติบโตร้อยละ 0.4 ในไตรมาสแรก และเมื่อเทียบเป็นรายปี เศรษฐกิจอังกฤษขยายตัวร้อยละ 2.8 ในไตรมาส 2- มาร์กิต อิโคโนมิกส์ เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นภาคบริการของสหรัฐฯ เดือนกรกฎาคมปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 55.2 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 55.0 เพราะได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวในการจ้างงานและธุรกิจใหม่- ผลสำรวจของคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ระบุว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ เดือนกรกฎาคมลดลงสู่ระดับ 90.9 หลังแตะระดับ 99.8 ในเดือนมิถุนายน นอกจากนี้ดัชนีประเมินภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันลดลงสู่ระดับ 107.4 ในเดือนกรกฎาคม ขณะที่ดัชนีคาดการณ์เศรษฐกิจในอนาคตลดลงสู่ 79.9- ธนาคารกลางจีนเปิดเผยว่า ธนาคารยังคงดำเนินนโยบายการเงินที่รัดกุมในช่วงครึ่งหลังของปี แม้มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับขึ้นของราคาเนื้อสุกรซึ่งเป็นอาหารหลักของประเทศในช่วงที่ผ่านมา- สหภาพยุโรป (EU) เรียกร้องให้กรีซดำเนินการปฏิรูปเศรษฐกิจเบื้องต้นเพื่อปูทางสู่การรับความช่วยเหลือด้านการเงินรอบที่ 3 ขณะที่การเจรจาระหว่างรัฐบาลกรีซและกลุ่มทรอยก้า ซึ่งประกอบด้วย ธนาคารกลางยุโรป (ECB) กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ยังคงดำเนินต่อไปที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ- ตลาดหุ้นทั่วโลกมีสภาพย่ำแย่ หลังจากวานนี้ (28 กรกฎาคม 2558) ตลาดหุ้นจีนดิ่งลงอย่างรุนแรงในรอบ 8 ปี จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจจีน หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ
4. อัตราแลกเปลี่ยน
- เงินบาทอยู่ที่ 34.86 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ อ่อนค่าลง 0.01 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ- เงินเยนอยู่ที่ 123.37 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ อ่อนค่าลง 0.24 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ
5. ราคาน้ำมัน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาด Nymex ส่งมอบเดือนกันยายนปิดตลาดที่ 47.98 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.59 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากการปรับขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรป ช่วยฟื้นความเชื่อมั่นของนักลงทุน อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เพราะตลาดได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันล้นตลาด- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ตลาดลอนดอนส่งมอบเดือนกันยายน ปิดที่ 53.30ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 0.17 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล
6. การเก็งกำไร
- ราคา TOCOM ส่งมอบเดือนสิงหาคม อยู่ที่ 194.4 เยนต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 2.8 เยนต่อกิโลกรัม และส่งมอบเดือนธันวาคม อยู่ที่ 205.0 เยนต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 4.0 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ- ราคา SICOM เปิดตลาดที่ 158.5 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 0.5 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม
7. ข่าว
- ผลสำรวจของสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) และเคส ซิลเลอร์ ระบุว่า ราคาบ้านในสหรัฐฯ เดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.9 เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยเพิ่มขึ้นในอัตราเดียวกับเดือนเมษายน แต่ต่ำกว่าร้อยละ 5.6 ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้- รายงานจากสถาบันวิจัย E - House Research Institute เปิดเผยว่า มูลค่าการขาย 10 บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของจีนเพิ่มขึ้นร้อยละ 60.0 เมื่อเทียบเป็นรายปี อยู่ที่ 9.396 หมื่นล้านหยวนในเดือนมิถุนายน- HSBC โฮลดิ้งส์ ปรับลดคาดการณ์ราคาทองเฉลี่ยปีนี้ลงมาอยู่ที่ 1,160 ดอลล่าร์สหรัฐ จากเดิมที่ 1,234 ดอลล่าร์สหรัฐ ขณะที่แนวโน้มราคาทองเฉลี่ยปีหน้าอยู่ที่ 1,205 ดอลล่าร์สหรัฐ จากเดิมประเมินไว้ที่ 1,275 ดอลล่าร์สหรัฐ พร้อมเตือนว่าราคาทองปีนี้ยังมีแนวโน้มเผชิญแรงกดดันในระยะใกล้นี้
8. ข้อคิดเห็นของผู้ประกอบการ
- ราคายางปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 0.50 บาท โดยผู้ประกอบการกล่าวว่า เพราะปริมาณผลผลิตยังคงมีน้อย เมื่อมีปัจจัยบวกเข้ามาก็สามารถปรับราคาสูงขึ้นได้ แต่หากสภาพอากาศดีขึ้น กรีดยางได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้นก็ต้องปรับราคาลง เพราะต่างก็ซื้อในราคาสูงเกินจริงมาอย่างต่อเนื่อง
แนวโน้ม ราคายางมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดล่วงหน้าโตเกียวและราคาน้ำมัน ประกอบกับได้รับปัจจัยบวกจากเงินเยนและเงินบาทอ่อนค่า รวมถึงนักลงทุนเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรหลังจากราคาปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ขณะเดียวกันนักลงทุนยังจับตามองการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันนี้ เพื่อดูทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯทีมวิเคราะห์สำนักงานตลาดกลางยางพาราสงขลา