วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

[Rakayang.Com]

วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง
วันศุกร์ที่  10  กรกฎาคม  พ.ศ. 2558

ปัจจัย วิเคราะห์

1. สภาพภูมิอากาศ - ภาคใต้ยังคงมีเมฆมากและมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 60 - 70 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณตอนบนของภาค ส่งผลกระทบต่อการกรีดยาง ส่วนภาคอื่น ๆ มีฝนร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่

2. การใช้ยาง - สมาคมผู้ผลิตรถยนต์เยอรมันปรับเพิ่มยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ในยุโรปตะวันตก จากการฟื้นตัวของตลาดรถยนต์ยุโรปและยอดจำหน่ายที่สดใสในเยอรมัน โดยคาดว่ายอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ในยุโรปตะวันตกจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.0 ในปีนี้ สู่ระดับ 12.6 ล้านคัน จากเดิมที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0 โดยได้อานิสงค์จากการฟื้นตัวในประเทศที่เคยได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์ยูโรโซน คือ สเปน อิตาลี โปรตุเกส และไอร์แลนด์ นอกจากนี้ยังคาดว่ายอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.0 สู่ระดับ 76.6 ล้านคันในปีนี้ และยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ในจีนจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.0 ในปีนี้ ขณะที่สหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0

3. เศรษฐกิจโลก - กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF.) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปีนี้สู่ร้อยละ 3.3 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เศรษฐกิจโลกหดตัวในปี 2552 หรือต่ำสุดในรอบ 6 ปี โดยลดลงร้อยละ 0.2 เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ในเดือนเมษายนที่ร้อยละ 3.5 และต่ำกว่าการขยายตัวในปีก่อนที่ร้อยละ 3.4- ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขามินเนอาโพลิส กล่าวว่า สหรัฐฯ มีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อต่ำเป็นเวลานานอีกหลายปี โดยเขาระบุว่าภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ค่อนข้างทรงตัว อยู่ที่ร้อยละ 1.0 และคาดว่าเงินเฟ้อจะยังไม่กลับสู่เป้าหมายเป็นเวลาอีกหลายปี- สำนักงานกลางเยอรมันเปิดเผยว่า เยอรมันมียอดเกินดุลการค้า 2.28 หมื่นล้านยูโร (2.53 หมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐ) ในเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้นจาก 2.15 หมื่นล้านยูโรในเดือนเมษายน อันเป็นผลมาจากยอดส่งออกที่ขยายตัวขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และสูงกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ ทั้งนี้ยอดส่งออกเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.7 จากเดือนก่อน ขณะที่ยอดนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4- ธนาคากลางจีนอัดฉีดเงิน 3.5 หมื่นล้านหยวน หรือ 5.7 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ เข้าสู่ตลาดการเงินผ่านข้อตกลงซื้อพันธบัตรโดยมีสัญญาขายคืน เพื่อบรรเทาภาวะขาดสภาพคล่อง ทั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 5 ตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน 2558 ที่ธนาคารกลางจีนอัดฉีดเงินเข้าสู่ตลาดโดยผ่านทางข้อตกลงซื้อคืนพันธบัตร- รัฐบาลอังกฤษปรับลดคาดการณ์การขยายตัวเศรษฐกิจในประเทศจากร้อยละ 2.5 สู่ร้อยละ 2.4 ในปีนี้ หลังจากที่รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของอังกฤษแถลงงบประมาณรัฐบาลอนุรักษ์นิยมชุดใหม่ต่อรัฐสภาเป็นครั้งแรก- กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศจีนรายงานว่า กำไรในอุตสาหกรรมสินค้าเพื่อผู้บริโภคจีนช่วงเดือนมกราคม - พฤษภาคม 2558 เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.1 เมื่อเทียบเป็นรายปี- รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานภาคเอกชนปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 ในเดือนพฤษภาคม สู่ 9.076 แสนล้านเยน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2551 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 เพราะได้แรงหนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งจากภาคการผลิต- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมิถุนายนขยายตัวร้อยละ 1.4 เมื่อเทียบเป็นรายปี และเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 ในช่วงครึ่งแรกของปี 2558 สูงกว่าที่คาดการณ์ของตลาดที่ร้อยละ 1.3 และเพิ่มขึ้นจากอัตราร้อยละ 1.2 ในเดือนพฤษภาคม- สำนักงานสถิตแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตราวัดเงินเฟ้อในระดับค้าส่ง ปรับตัวลดลงร้อยละ 4.8 ในเดือนมิถุนายน จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลงร้อยละ 0.4 จากเดือนก่อน 4. อัตราแลกเปลี่ยน - เงินบาทอยู่ที่ 33.94 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้น 0.04 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ- เงินเยนอยู่ที่ 121.89 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ อ่อนค่าลง 0.81 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ 5. ราคาน้ำมัน - สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาด Nymex ส่งมอบเดือนสิงหาคมปิดตลาดที่ 52.78 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.13 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากการดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งของตลาดหุ้นจีนช่วยให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นในแนวโน้มเศรษฐกิจมากขึ้น- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ Brent) ตลาดลอนดอนส่งมอบเดือนสิงหาคม ปิดที่ 58.61ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.56 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล 6. การเก็งกำไร - ราคา TOCOM ส่งมอบเดือนสิงหาคม อยู่ที่ 199.6 เยนต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 0.7 เยนต่อกิโลกรัม และส่งมอบเดือนธันวาคม อยู่ที่ 210.0 เยนต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 0.4 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ- ราคา SICOM เปิดตลาดที่ 164.0 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 4.0 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม 7. ข่าว - กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 4 กรกฎาคม 2558 เพิ่มขึ้น 15,000 ราย สู่ระดับ 297,000 ราย ตัวเลขดังกล่าวยังคงต่ำกว่าระดับ 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 18 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2543 และเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง- ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB.) แสดงความไม่มั่นใจต่อโอกาสในการช่วยเหลือกรีซให้พ้นจากภาวะล้มละลาย โดยกล่าวว่า เขาไม่แน่ใจว่าจะมีทางออกสำหรับกรีซ และไม่เชื่อว่ารัสเซียจะเข้ามาช่วยเหลือกรีซ เนื่องจากรัสเซียก็กำลังขาดแคลนเงินทุน ด้านนายกรัฐมนตรีกรีซมีกำหนดยื่นข้อเสนอการปฏิรูปเศรษฐกิจเมื่อวานนี้- รัฐบาลกรีซได้ยื่นแผนการปฏิรูปการคลังต่อกลุ่มเจ้าหนี้เมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่จำเป็นต่อการรับความช่วยเหลือด้านการเงินครั้งใหม่จากสหภาพยุโรป (EU.) และยังมีเป้าหมายที่จะช่วยให้กรีซไม่ประสบภาวะล้มละลายและออกจากการเป็นสมาชิกยูโรโซน 8. ข้อคิดเห็นของผู้ประกอบการ - ราคายางน่าจะทรงตัว โดยอุปทานยางที่มีน้อยยังคงช่วยหนุนราคายาง และมองว่าราคายางปรับตัวลงมากแล้ว จะเริ่มมีผู้เข้าซื้อ เพราะผู้ประกอบการหลายรายยังมีความต้องการยางเพื่อส่งมอบและเก็บสต๊อคไว้ เพราะไม่แน่ใจในสภาพอากาศที่ได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลณิโญ่ แนวโน้ม ราคายางมีแนวโน้มทรงตัวหรือเปลี่ยนแปลงในช่วงแคบ ๆ โดยมีปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น และนักลงทุนมีมุมมองเป็นบวกว่ากรีซจะสามารถทำข้อตกลงกับเจ้าหนี้ได้ภายในสัปดาห์นี้ ประกอบกับนักลงทุนคลายความกังวลหลังจากทางการจีนได้ออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อหนุนการฟื้นตัวของตลาดหุ้นจีน รวมทั้งอุปทานยางยังคงออกสู่ตลาดน้อย ส่วนปัจจัยลบมาจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF.) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกลงสู่ร้อยละ 3.3 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามทั้งสถานการณ์ตลาดหุ้นจีนและวิกฤตหนี้กรีซต่อไปอย่างใกล้ชิดทีมวิเคราะห์สำนักงานตลาดกลางยางพาราสงขลา