ผู้เขียน หัวข้อ: สุราษฎร์ฯเปิดจุด"รับซื้อยาง" แก้รอคิวข้ามวัน-ขาย60บาท  (อ่าน 991 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 84352
    • ดูรายละเอียด
สุราษฎร์ฯเปิดจุด"รับซื้อยาง" แก้รอคิวข้ามวัน-ขาย60บาท




    updated: 26 ม.ค. 2558 เวลา 14:15:03 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
 
 ตลาดกลางยางพาราสุราษฎร์ธานี เร่งเปิดตลาดเครือข่ายรับซื้อยางแผ่นรมควัน 11 แห่งภายใน 2 สัปดาห์นี้ ประเดิมแห่งแรกที่สหกรณ์กองทุนสวนยางพ่วงพรมคร อ.เคียนซา หวังแก้ปัญหารอคิวขายนานข้ามคืน-เพิ่มช่องทางให้ชาวสวนยางเข้าถึงราคา 60 บาท/กก. เตรียมปูพรมเปิดทั่วประเทศ 108 แห่ง
 
หลังจากที่ตลาดกลางยางพาราสุราษฎร์ธานี ได้เปิดรับซื้อยางแผ่นรมควันในราคานำตลาดที่ 60 บาท/กิโลกรัม ตามนโยบายของรัฐบาล ส่งผลให้มีพ่อค้ารายใหญ่รายย่อย และเกษตรกรจำนวนมาก นำยางแผ่นรมควันมาจำหน่ายที่ตลาดกลางยางพาราสุราษฎร์ธานี (โค-อ๊อฟ) จนเริ่มประสบปัญหาการรอคิวเพื่อขายยางพารานานข้ามวัน ประกอบกับปริมาณยางพาราที่เข้าสู่ตลาดกลางมีเป็นจำนวนมาก ทำให้คนงานไม่สามารถขนยางเข้าสต๊อกได้ทัน

ล่าสุด ตลาดกลางยางพาราสุราษฎร์ธานีได้เปิดตลาดเครือข่ายตลาดกลางยางพาราสุราษฎร์ธานี เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยเปิดแห่งแรกที่สหกรณ์กองทุนสวนยางพ่วงพรมคร ต.พ่วงพรมคร อ.เคียนซา

นายอาคม สุขนภาสวัสดิ์ เจ้าของกิจการรับซื้อน้ำยางชาญรุ่งไทยรับเบอร์ ในพื้นที่ อ.บ้านนาเดิม ได้นำยางแผ่นรมควันมาขายที่ตลาดเครือข่ายพ่วงพรมครเป็นครั้งแรกเปิดเผยว่า ปกติต้องนำยางไปขายที่ตลาดกลางสุราษฎร์ธานีหรือโค-อ๊อฟ และที่ อ.จันดีจ.นครศรีธรรมราช ซึ่งมีคนนำยางไปขายจำนวนมาก เพราะได้ราคาประมาณ 60 บาท/กก. แต่ต้องเข้าคิวนานข้ามวัน และระยะทางในการเดินทางค่อนข้างไกล

ด้านนายพนัส แพชนะ ผู้อำนวยการตลาดกลางยางพาราสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ยางแผ่นรมควันที่เข้าสู่ตลาดกลางยางพาราสุราษฎร์ธานี มีปริมาณมาก บางวันมีจำนวนมากถึง 1 ล้านกิโลกรัม ทำให้ผู้ที่นำยางมาขายต้องรอคิวในการขายนานข้ามวัน จึงได้เปิดจุดรับซื้อในลักษณะตลาดเครือข่ายในพื้นที่รอบนอก ซึ่งจะทยอยเปิดประมาณ 11 จุดใน จ.สุราษฎร์ธานี โดยใช้สถาบันเกษตรกรที่มีความพร้อมทั้งสถานที่เครื่องมือ และบุคลากร เป็นตลาดเครือข่ายเพื่อเพิ่มช่องทางในการขายยางให้กับเกษตรกร ซึ่งจะปิดตลาดเครือข่ายทั่วประเทศประมาณ 108 แห่ง

นายสิทธิพร จริยพงษ์ ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า การนำยางเข้าไปขายในตลาดกลางมีความแออัด ต้องเข้าคิวนาน ส่งผลให้ชาวสวนยาง 90% เข้าไม่ถึงตลาดกลางและจำเป็นต้องนำยางไปขายให้พ่อค้าคนกลางในราคาต่ำ การเปิดตลาดเครือข่ายจะทำให้ชาวสวนยางเข้าถึงตลาดกลาง และขายยางได้ราคาใกล้เคียง 60 บาท/กก. จึงอยากให้เกษตรกรเก็บยางไว้ขายให้กับตลาดเครือข่ายเพราะราคาที่พ่อค้ารับซื้อต่างกันกว่า 10 บาททำให้เกษตรกรขายยางไม่ได้ราคา

สำหรับตลาดกลางยางพาราสุราษฎร์ธานี เปิดรับซื้อเฉพาะยางแผ่นรมควันคุณภาพดีในราคานำตลาดที่กิโลกรัมละประมาณ 60 บาท โดยมีองค์การสวนยางเข้าประมูลซื้อในทุกวัน เพื่อดึงราคายางในตลาดท้องถิ่นให้ขยับตัวสูงขึ้นตาม แต่จากการดำเนินการมาระยะหนึ่งแล้ว ปรากฏว่าราคายางในตลาดท้องถิ่นไม่ขยับสูงขึ้นอย่างที่ตั้งเป้าไว้โดยพ่อค้าคนกลางยังคงกดราคารับซื้อยางจากเกษตรกร ทำให้ราคายางที่เกษตรกรขายได้ กับราคายางที่ประมูลในตลาดกลางต่างกันกว่า 10 บาท/กก.

"เกษตรกรส่วนใหญ่จะขายยางพาราในรูปแบบน้ำยางสดให้กับพ่อค้ารายย่อย รายใหญ่ หรือสถาบันเกษตรกร ซึ่งราคาปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 44 บาท หลังจากนั้นพ่อค้าจะนำน้ำยางไปแปรรูปเป็นยางแผ่นรมควัน และนำไปขายที่ตลาดกลางยางพาราในราคาประมาณ 60 บาท/กก. ปัญหาส่วนต่างราคายางดังกล่าว ทางภาครัฐกำลังหาแนวทางแก้ไขให้กับเกษตรกร เบื้องต้นมีแนวคิดที่จะเปิดรับซื้อยางแผ่นดิบเพิ่ม จากเดิมที่รับซื้อเฉพาะยางแผ่นรมควัน" นายสิทธิพรกล่าว