ผู้เขียน หัวข้อ: ชง ครม.เพิ่มใช้ยาง 1 แสนตัน  (อ่าน 806 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 84347
    • ดูรายละเอียด
ชง ครม.เพิ่มใช้ยาง 1 แสนตัน
« เมื่อ: มกราคม 24, 2015, 09:58:20 AM »
ชง ครม.เพิ่มใช้ยาง 1 แสนตัน



"อำนวย" เตรียมชง ครม.ไฟเขียวแผนเพิ่มใช้ยางในประเทศปี 58 อีก 1 แสนตัน นำร่อง 4 กระทรวงหลักเกษตรฯ-ท่องเที่ยวและกีฬา-ศึกษาธิการ-มหาดไทย ระบุใช้ยางทั้งจากสต๊อกเก่าและสต๊อกใหม่ของรัฐบาล ยอมรับส่งมอบยางสต๊อกเก่า 2.08 แสนตันที่ขายให้กับไชน่าไห่หนานฯ ยังอืด ติดปัญหาโต้แย้งเรื่องคุณภาพ เชื่อไม่เบี้ยวรับมอบเหตุวางเงินค้ำประกันสัญญา


นายอำนวย ปะติเส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กำกับดูแลยางพาราของประเทศ เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ล่าสุดอยู่ระหว่างการจัดทำเอกสารโครงการส่งเสริมการใช้ยางพาราในประเทศของส่วนราชการจาก 4 กระทรวงหลัก ประกอบด้วยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงมหาดไทย (ไม่รวมโครงการใช้ยางของกระทรวงคมนาคมที่แยกไปต่างหาก)คิดเป็นปริมาณยางที่จะมีการใช้ในประเทศเพิ่มขึ้นอีกในปีนี้ประมาณ 1 แสนตันจากทุกปีที่ผ่านมา ไทยมีการใช้วัตถุดิบยางพาราในประเทศประมาณ 5-6 แสนตัน ที่เหลืออีกกว่า 3 ล้านส่งออกต่างประเทศ


"กำลังรวบรวมข้อมูลและจัดทำเอกสารโครงการส่งเสริมการใช้ยาง เพื่อเพิ่มการใช้ยางในประเทศในปีนี้โดยรวมประมาณ 1 แสนตัน โดยในส่วนของกระทรวงเกษตรฯจะใช้ในการทำบ่อ เรื่องเขื่อนต่างๆ ส่วนกระทรวงศึกษา กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ใช้ในเรื่องทำสนามกีฬา เรื่องที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ อนามัยของเด็ก และผู้สูงอายุ ซึ่งขณะนี้ข้อมูลทั้งหมดได้รวบรวมเสร็จแล้ว เหลือจัดทำเป็นเอกสารเพื่อนำเสนอโครงการต่อ ครม. แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือโครงการของกระทรวงเกษตรฯล้วนๆ กับโครงการของกระทรวงอื่น คาดเอกสารจะแล้วเสร็จและนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี หรือ ครม.เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบได้ในสัปดาห์หน้า"


สำหรับยางที่ส่วนราชการจะนำไปใช้ในครั้งนี้จะเป็นยางจากทั้งในสต๊อกเก่าของรัฐบาล(2.08 แสนตัน) รวมถึงยางสต๊อกใหม่ที่ใช้เงินกองทุนมูลภัณฑ์กันชน(บัฟเฟอร์ ฟันด์)ซื้อมาแล้วในเวลานี้ประมาณ 5.2 หมื่นตัน ใช้เงินไปประมาณ 2,970 ล้านบาท(ข้อมูล ณ 16 ม.ค.58) ส่วนชนิดยางที่จะนำไปใช้ ยางในสต๊อกรัฐบาลมี 4 ชนิด ได้แก่ ยางแผ่นดิบ ยางแผ่นรมควัน ยางลูกขุน และยางแท่ง STR 20 โดยงบในการจัดซื้อของแต่ละโครงการจะมาจาก 3 ส่วนคือ งบส่วนท้องถิ่นงบของหน่วยงาน และงบส่วนกลางที่จะไปสนับสนุน


นายอำนวยกล่าวถึงโครงการส่งเสริมการใช้ยางในประเทศเพิ่มของส่วนราชการในรัฐบาลที่ผ่านมาที่ไม่ประสบความสำเร็จ ปัญหาอุปสรรคที่ติดขัดได้รับการแก้ไข จะนำไปสู่การวางระเบียบปฏิบัติการใช้ยางในปีต่อ ๆ ไปอย่างชัดเจน จะช่วยเพิ่มการใช้ยางในประเทศได้อีกมาก


"ยางที่เราซื้อมาใหม่โดยใช้เงินกองทุนมูลภัณฑ์กันชนที่ซื้อมาแล้วประมาณ 5.2 หมื่นตัน เราใช้วิธีบริหารจัดการให้เกิดความสมดุลของการซื้อมา-ขายไปเพื่อให้เกิดมูฟวิ่งสต๊อก โดยส่วนหนึ่งส่งออก อีกส่วนหนึ่งเก็บสต๊อกไว้ในโกดังของกรมวิชาการเกษตร และโกดังเช่าจากเอกชน เพื่อรอการส่งออก หรือเพื่อใช้ในประเทศเพื่อไม่ให้ไปทำร้ายตลาดทำให้ราคายางตกซึ่งต้องใช้ความระมัดระวัง"


อย่างไรก็ตามยอมรับว่าสต๊อกยางเดิมที่ได้เซ็นสัญญาขายให้กับบริษัท ไชน่า ไห่หนาน รับเบอร์ อินดัสทรีกรุ๊ปฯ รัฐวิสาหกิจของจีนไปก่อนหน้านี้จำนวน 2.08 แสนตัน ได้เริ่มส่งมอบแล้วเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมาประมาณ 2 พันตัน ที่เหลือยังมีความล่าช้า เพราะติดปัญหาเรื่องคุณภาพยางที่ทั้งสองฝ่ายเห็นไม่ตรงกัน หากตกลงร่วมกันได้ในเรื่องคุณภาพยางในการส่งมอบ คาดในปีนี้จะส่งมอบได้ทั้งหมด เชื่อว่าคู่ค้าคงไม่เบี้ยวสัญญาในการรับมอบสินค้า เพราะมีการวางเงินค้ำประกันอยู่


ด้านนายสิทธิพร จริยพงศ์ รองประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติคนที่ 2 ให้ความเห็นกรณีโครงการส่งเสริมการใช้ยางในประเทศของส่วนราชการว่า เห็นด้วยในการจัดการล้างสต๊อกยางเก่า 2.08 แสนตันเพื่อส่งออกหรือใช้ในประเทศให้หมดโดยเร็ว เพราะพ่อค้ามักอ้างว่าสต๊อกเก่าของรัฐบาลเป็นสาเหตุของราคายางในประเทศที่ไม่สามารถขยับขึ้นได้


ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ


 
23/1/2015