ครม.อัดเงินจ่ายดอกเบี้ยชะลอขายข้าว
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม. เห็นชอบให้เพิ่มเป้าหมายของโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 57/58 ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) อีก 500,000 ตัน จากเดิม 1.5 ล้านตัน รวมเป็น 2 ล้านตัน เพื่อดูดซับปริมาณข้าวที่ออกมาสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก และเป็นการรักษาระดับรายได้ของชาวนา และรักษาระดับราคาข้าว ขณะเดียวกันยังได้อนุมัติเงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น 2,796 ล้านบบาท เพื่อชดเชยดอกเบี้ย ค่าเช่า ค่าเก็บรักษาข้าวเปลือก ค่าบริหารสินเชื่อ และค่าใช้จ่ายในการส่งมอบข้าวทั้ง นี้กระทรวงการคลังมีความเห็นว่า การดำเนินงานครั้งนี้ ธ.ก.ส.จะต้องไปประเมินการให้สินเชื่ออย่างใกล้ชิดด้วยว่า ดำเนินการในแต่ละช่วงเป็นอย่างไร แลหากราคาข้าวหอมมีราคาสูงขึ้นจนถึงขั้นที่พอใจแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องขยายปริมาณเพิ่มถึง 500,000 ตัน และให้กลับไปใช้กรอบเดิมที่กำหนดที่ 1.5 ล้านตันแทน ขณะที่คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) เห็นว่า เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการดำเนินงาน ตรวจสอบได้ ก็ขอให้ปิดประกาศการจ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกรในที่สาธารณะ เช่น ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบล เพื่อให้ตรวจสอบได้ว่า การช่วยเหลือนั้นเป็นไปด้วยความถูกต้องสำหรับการดำเนินการดังกล่าว แบ่งเป็น การเพิ่มเป้าหมายปริมาณข้าวเปลือกเป็น 2 ล้านตัน และปรับเพิ่มวงเงินชดเชยดอกเบี้ยแทนเกษตรกร จากเดิม 432 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 187 ล้านบาท และปรับเพิ่มหลักเกณฑ์ในการจ่ายสินชื่อ จากเดิม 80% เป็น 90% ของราคาตลาดที่กำหนด คือ ข้าวเปลือกหอมมะลิ 36 กรัม ราคาตันละ 16,000 บาท และข้าวเปลือกเหนียว 10% ราคาตันละ 13,000 บาท พร้อมทั้งให้ค่าเช่าและค่าเก็บรักษาข้าวเปลือกเป็นจ่ายขาดให้เกษตรกร และสหกรณ์การเกษตร ตันละ 1,000 บาท เป็น 2,000 บาท โดยเก็บข้าวเปลือกใช้เป็นหลักประกันอย่างน้อย 30 วัน ให้วงเงินชดเชยดอกเบี้ยกับธ.ก.ส. 48 ล้านบาทขณะเดียวกัน ยังปรับลดหลักเกณฑ์การใช้บุคคลค้ำประกันเงินกู้จากเดิม 5 คนเหลือ 3 คน พร้อมทั้งให้สินเชื่อเกษตรกรในการเตรียมข้าวเปลือกขึ้นยุ้งฉาง ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของเกษตรกร ไร่ละ 2,000 บาท เวลา 2 เดือน ดอกเบี้ย 0% เป้าหมาย 4.524 ล้านไร่ วงเงินสินเชื่อ 9,048 ล้าบาท วงเงินชดเชยดอกเบี้ย 36 ล้านบาท เพิ่มวงเงินสินเชื่อจากเดิม 17,280 ล้านบาท เพิ่มอีก 17,508 ล้านบาท และปรับเพิ่มวงเงินค่าบริหารสินเชื่อดังกล่าว อัตรา 2.25% ของวงเงินสินเชื่อเดิม 388 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 224 ล้านบาท และปรับเพิ่มวงเงินค่าใช้จ่ายในการส่งมอบข้าวไม่เกินตันละ 300 บาท จาก 300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอีก 300 ล้านบาท
Souce: เว็บไซต์เดลินิวส์
