ผู้เขียน หัวข้อ: ยางใต้จ่อลุกฮือ! เตรียมรวมตัว 8 ต.ค. เหตุ"ยางสต๊อกเน่ากว่าครึ่ง" ชี้ ส่อแววทุจริตชัดเจน  (อ่าน 782 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 84444
    • ดูรายละเอียด
ยางใต้จ่อลุกฮือ! เตรียมรวมตัว 8 ต.ค. เหตุ"ยางสต๊อกเน่ากว่าครึ่ง" ชี้ ส่อแววทุจริตชัดเจน

            กรณี ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และนายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรและสหกรณ์ ชะลอการขายยางในสต็อกโครงการเพิ่มพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกร อีก 1 แสนตันไปก่อน เนื่องจากสต็อกมียางทั้งหมด 2.1 แสนตัน ได้ทำสัญญาขายให้กับบริษัท ยีฟางเหลียง จำกัด จำนวน 1 แสนตัน วงเงิน 5,940 ล้านบาท แต่ในขณะนี้ยังไม่สามารถส่งมอบได้ เนื่องจากพบว่ายางในสต็อกมียางเน่าขึ้นราเสียหายมากกว่าครึ่งนั้น


            เมื่อเวลา 14.30 น. นายทศพล ขวัญรอด ประธานภาคีเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางและสวนปาล์ม 16 จังหวัดภาคใต้ ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ความจริงได้ปรากฏขึ้นมาให้เห็นแล้ว ทั้งที่ก่อนหน้านี้ภาคีเครือข่ายฯได้นำเสนอผ่านสื่อมวลชน เรียกร้องให้รัฐบาลตรวจสอบสต็อกยางพาราทั้งหมดที่มี ว่าครบตามจำนวนหรือไม่ และมีคุณภาพดีหรือไม่ เห็นหรือยังว่าโผล่ออกมาจริงๆ หากมองตามความเป็นจริงแล้วยางจะเน่าเสียได้อย่างไร ยางที่รับซื้อเป็นยางแผ่นรมควัน ต้องผ่านกระบวนการผลิตมาเป็นอย่างดี เป็นไปไม่ได้



            ส่อแววพิรุธทุจริตอย่างชัดเจน ถ้าวันนั้น ภาคีเครือข่ายไม่จี้ รัฐบาลจะกล้าเข้าทำการตรวจสอบหรือไม่ และการขายยางนั้นส่อทุจริตอีกที่ขายยางในราคาที่ถูกกว่าคู่ประมูล มันก็ชี้ให้เห็นอยู่แล้วถามว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นใครรับผิดชอบ ท้ายที่สุดก็มาอ้างว่าเกษตรกรขายยางที่ไม่มีคุณภาพ เกษตรกรเร่งขายยาง ซึ่งไม่เกี่ยวกับขั้นตอนของเกษตรกร มันพ้นไปแล้ว เป็นเรื่องของพ่อค้าคนกลาง นายทุน และภาครัฐแล้วที่สมรู้ร่วมคิดกันมานาน ช่วยกันทำให้ประเทศไทยเสื่อมเสียชื่อเสียงในการผลิตยางพาราที่ไม่มีคุณภาพ ทั้งๆที่กระบวนการเหล่านี้ เป็นกระบวนการทุจริตที่อยู่ข้างบนทั้งสิ้น" นายทศพล กล่าว

             นายทศพล กล่าวว่า ขณะนี้ตนกำลังร่วมประชุมยุทธศาสตร์แก้ปัญหายางพารา ที่ สกย.เขต 1 จ.สงขลา จะเร่งนำเรื่องนี้เข้าชี้แจงในที่ประชุมเป็นวาระเร่งด่วน และหากว่า รัฐบาลมีความจริงใจ พร้อมที่จะให้มีการตรวจสอบจริง เราก็จะดีใจ แต่หากว่า รัฐบาลประกาศแบบขอไปที ก็จะได้เห็นกันว่าเกิดอะไรขึ้น

              ในวันที่ 8 ตุลาคมนี้ ในนามภาคีเครือข่ายฯ จะเปิดเวทีสัมมนาใหญ่ถึงแนวทางการแก้ปัญหายางพารา โดยมีการหยิบยกประเด็นการสัมมนาในวันนี้ ไปวิเคราะห์สังเคราะห์เพื่อเดินคู่ขนานกับยุทธศาสตร์ยางของรัฐบาลต่อไป ดูว่ายุทธศาสตร์ใครจะแก้ปัญหาให้กับเกษตรกรได้ หากว่าไม่โดนบล็อกเสียก่อน

             นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกโซเชี่ยลมีเดียได้มีการเผยแพร่ ภาพเกษตรกรชาวสวนยางในรูปแบบต่างๆ พร้อมกับการโพสต์ข้อความทับลงบนภาพ โดยระบุ ?การลุกขึ้นครั้งใหญ่ของคนใต้ 8 ตุลาคม 2557 มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ท่าศาลา นครศรีธรรมราช วันนี้...น้ำตาคนไทย...ยังไม่เหือดหาย..?

            ทั้งนี้ ในหลายภาพได้โพสต์ถึงปัญหาและผลกระทบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน โดยลักษณะภาพดังกล่าวเป็นภาพที่สะท้อนให้เห็นถึงความทุกข์ยากของเกษตรกร ขณะเดียวกันเพื่อเป็นการปลุกกระแสความเคลื่อนไหวให้พี่น้องชาวเกษตรกรลุกขึ้นมาต่อสู้อีกครั้ง ภาพดังกล่าวได้มีการแชร์ในโซเชียลมีเดียกันอย่างกว้างขวาง

            นายสมควร (ขอสงวนนามสกุล) เกษตรกรชาวสวนยาง อ.นบพิตำ กล่าวว่า ราคายางพาราตกต่ำลงอย่างมาก เจ้าหน้าที่รัฐก็เดินทางมาตัดสวนยางของชาวบ้านแล้วจะเอาอะไรกินกัน จะเอาอะไรมาประทังชีวิต พวกเราไม่ได้ร่ำรวย ส่วนหนึ่งรับจ้างกรีดยาง ส่วนหนึ่งเป็นเจ้าของสวนยางที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ และส่วนหนึ่งเป็นเจ้าของที่มีเอกสารสิทธิ์ จะอะไรกันนักกันหนา

            อยากบอกว่า วันนี้เกษตรกรชาวสวนยางกำลังถูกย่ำยี อย่าถึงกับให้เกษตรกรต้องลุกขี้นมาต่อสู้กับ จนท.รัฐอีกครั้ง วันนี้ก็มาโค่นต้นยางอีก อ้างว่าอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเขานั้น อยากจะบอกว่าแล้วทำไมก่อนหน้านี้ ที่พวกเราโค่นต้นยางขาย แล้วปลูกใหม่ไม่รู้ต่อกี่ครั้ง ไม่มาจับล่ะว่าผิดกฎหมาย มาโค่นอะไรตอนยางราคาถูก เกษตรกรต้องฆ่าตัวตายกันแน่ๆ อย่าซ้ำเติมย่ำยีกันมากนัก

ที่มา : มติชนออนไลน์ (วันที่ 29 กันยายน 2557)