จีนใช้ยางสังเคราะห์กว่าหนึ่งในสามของโลก
นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 21 อุตสาหกรรมรถยนต์และอุตสาหกรรมยางล้อรถยนต์ในประเทศจีนมีการพัฒนาไปอย่างรวด เร็ว ซึ่งถือเป็นการส่งเสริมความต้องการใช้ยางในประเทศด้วยอีกทางหนึ่ง ในปี 2555 ปริมาณการผลิตรถยนต์มีถึง 19.27 ล้านคัน ซึ่งใช้ยางล้อเรเดียลรวม 460 ล้านเส้น ซึ่งถือเป็นอันดับหนึ่งของโลก ในช่วง 2544-2555 อัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ของปริมาณการผลิตรถยนต์มีมากกว่า 20% และอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ของปริมาณการผลิตยางล้อรถยนต์มีถึง 25% ซึ่งจัดเป็นอันดับสูงสุดของโลก
ในปี 2555 ปริมาณการใช้ยางธรรมชาติในจีนมีมากกว่า 1 ใน 3 ของปริมาณการใช้ทั่วโลก ซึ่งต้องพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศมากกว่า 80% นับตั้งแต่ปี 2544 จีนกลายเป็นผู้นำเข้ายางธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดของโลก ทรัพยากรยางธรรมชาติที่ไม่เพียงพอในประเทศจีนจึงเป็นโอกาสของตลาดสำหรับการ พัฒนาอุตสาหกรรมยางสังเคราะห์ ปริมาณความต้องการยางสังเคราะห์ของอุตสาหกรรมปลายน้ำในจีนมีความแข็งแรง ดังนั้น อุตสาหกรรมยางสังเคราะห์จึงมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว
ยาง สังเคราะห์หมายถึงวัสดุที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ที่จัดว่าเป็นอิลาสโทเมอร์ ยางสังเคราะห์จัดวัสดุพอลิเมอร์สังเคราะห์ที่มีความยืดหยุ่นสูงที่ส่วนใหญ่ ผลิตมาจากถ่านหิน ปิโตรเลียม และก๊าซธรรมชาติ ดังนั้นราคายางสังเคราะห์จึงสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับราคาของวัตถุดิบหลัก ทั้ง 3 ชนิดดังกล่าว ยางสังเคราะห์มีหลายชนิดซึ่งมีสมบัติพิเศษเพื่อตอบสนองความต้องการที่แตก ต่างกัน ส่งผลให้ปริมาณการส่งออกยางสังเคราะห์ของโลกมากกว่ายางธรรมชาติ
เมื่อ ไม่กี่ปีมานี้ กำลังการผลิตยางสังเคราะห์ในจีนได้พัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยในสิ้นปี 2555 มีกำลังการผลิตมากกว่า 4 ล้านตัน และมีปริมาณการผลิตถึง 3.78 ล้านตัน ในขณะที่มีจำนวนผู้ประกอบการยางสังเคราะห์ในประเทศมากกว่า 20 ราย ซึ่งได้รับผลดีจากความพร้อมด้านเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ และวัตถุดิบที่มีจำนวนมากของบริษัท โดยบริษัท Sinopec และ CNPC กลายเป็นบริษัทผลิตยางสังเคราะห์ชั้นนำในจีนที่มีกำลังการผลิตรวมกันมากกว่า ครึ่งหนึ่งของกำลังการผลิตทั้งประเทศ
ที่มา::RIU
