ผู้เขียน หัวข้อ: ข่าวด่วน สรุปข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศและในประเทศ 07/08/57  (อ่าน 401 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 84897
    • ดูรายละเอียด
สรุปข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศและในประเทศ 07/08/57


สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -7 ส.ค. 57 7:13: น.


สรุปข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
                ? รัสเซียเตรียมใช้มาตรการปกป้องเศรษฐกิจชุดใหญ่ "อย่างเข้มแข็ง มั่นคง และฉับไว" เพื่อต่อต้านการคว่ำบาตรจากบรรดาชาติตะวันตก โดยจะมุ่งเน้นปกป้องเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งรวมถึงอุตสาหกรรมอวกาศด้วย และเห็นว่าการที่ชาติตะวันตกคว่ำบาตรรัสเซียนั้น ไม่ต่างอะไรกับการ "ทำลายตัวเอง" พร้อมเตือนว่า "การสูญเสียตลาดอาจใช้เวลาแค่ชั่วโมงเดียว แต่การรื้อฟื้นตลาดอาจต้องใช้เวลานานหลายสิบปี"
                ? GDP อิตาลีในไตรมาส 2 ปรับตัวลง 0.2% จากไตรมาส 1 ที่ปรับตัวลง 0.1% ชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจอิตาลีอยู่ในภาวะถดถอย ทำให้เป้าหมายที่จะปรับลดสัดส่วนยอดขาดดุลต่อ GDP ให้ เหลือ 2.6% ในปีนี้เป็นไปได้ยากขึ้น เมื่อพิจารณาจาก GDP ที่หดตัวลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งยังไม่รวมอัตราว่างงานของวัยหนุ่มสาวในประเทศที่สูงถึง 40% และหนี้สาธารณะมูลค่า 2 ล้านล้านยูโร
                ? ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของเยอรมนีในเดือน มิ.ย. ปรับตัวลง 3.2% หลังจากที่ปรับตัวลง 1.7% ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นตัวเลขที่ร่วงลงหนักสุดในรอบเกือบ 3 ปี เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในภูมิภาคต่างๆรวมทั้งยูเครนที่ทำให้ภาคโรงงานชะลอคำสั่งซื้อ สำหรับยอดสั่งซื้อจากต่างประเทศปรับตัวลง 4.1% โดยยอดสั่งซื้อจากยูโรโซนร่วงลง 10.4% ซึ่งเป็นการร่วงลงหนักสุด ขณะที่ยอดสั่งซื้อจากนอกกลุ่มยูโรโซนยังคงทรงตัว
                ? ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐเดือน มิ.ย. หดตัวลง 7% จากเดือนก่อนหน้า หลังจากยอดส่งออกขยับขึ้น 0.1% แตะ 1.9586 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ยอดนำเข้าเดือน มิ.ย. ลดลง 1.2% เนื่องจากอุปสงค์สินค้าหดตัว รวมถึงน้ำมันปิโตรเลียมที่มียอดนำเข้าลดลง 3.3% จนแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย. 2553 เนื่องจากสหรัฐสามารถผลิตน้ำมันภายในประเทศได้มากขึ้น
                ? ยอดสั่งซื้อสินค้าที่ผลิตในโรงงานสหรัฐปรับตัวขึ้น 1.1% ในเดือน มิ.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งที่ 4 ในรอบห้าเดือน และมากที่สุดในรอบสามเดือน อีกทั้งยังมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ถึงเกือบ 2 เท่า
                ? สมาคมผู้นำเข้ารถยนต์แห่งญี่ปุ่น รายงานว่า ยอดขายรถยนต์นำเข้าใหม่ในญี่ปุ่น ซึ่งรวมถึงรถญี่ปุ่นที่ผลิตในต่างประเทศ ปรับตัวลง 9.9% ในเดือน ก.ค. จากปีก่อนหน้า โดยยอดขายรถยนต์แบรนด์ต่างประเทศ ลดลง 7.4% ส่วนรถยนต์แบรนด์ญี่ปุ่นปรับตัวลง 18.4%
                ? สมาคมผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์เกาหลีใต้ เผยว่า ยอดขายรถยนต์นำเข้าได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 21.1% จากปีก่อนหน้า ในเดือน ก.ค. ทำสถิติรายเดือนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เป็นผลจากความต้องการแบรนด์รถหรูจากต่างประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยรถยนต์ยุโรปได้รับความนิยมมากที่สุด คิดเป็น 81.8% ในตลาด ส่วนรถยนต์ญี่ปุ่นและรถยนต์สหรัฐ มีส่วนแบ่งตลาด 10.9% และ 7.4% ตามลำดับ ทั้งนี้ รถ BMW จากเยอรมัน เป็นแบรนด์ที่ขายดีที่สุด

สรุปข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
                ? สนง.เศรษฐกิจการคลัง รายงานว่า หากมีการปรับขึ้นเงินเดือนตามนโยบาย คสช. ที่ 7 - 8% จะส่งผลให้ GDP ปี 2558 ปรับเพิ่มขึ้น 0.03 ? 0.06% และส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 2.59 - 2.68% จากคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในปี 2557 ที่ 2.5% และมีเม็ดเงินส่วนใหญ่เพิ่มเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจผ่านทางรายจ่ายประจำของภาครัฐ จำนวน 5.8 ? 11.6 พันล้านบาท โดยเฉลี่ย ไตรมาสละ 1.5 - 3 พันล้านบาท
                ? กนง. มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.00% โดยประเมินว่า นโยบายการเงินที่ผ่อนปรนในปัจจุบันยังจำเป็นต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ซึ่งช่วยสนับสนุนภาครัฐในการปฏิรูปเพื่อยกระดับศักยภาพของเศรษฐกิจไทย โดยเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2 มีแนวโน้มดีขึ้นจากการใช้จ่ายภาคเอกชนหลังสถานการณ์ทางการเมืองคลี่คลาย การส่งออกสินค้าฟื้นตัวอย่างช้าๆ ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐมีความล่าช้ากว่าที่คาดบ้าง ขณะที่ในช่วงครึ่งหลังของปีเศรษฐกิจยังมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องจากอุปสงค์ในประเทศและแรงกระตุ้นทางการคลัง โดยเฉพาะการลงทุนของภาครัฐ ขณะที่การส่งออกสินค้าและการท่องเที่ยวมีแนวโน้มขยายตัวในระดับต่ำ ส่วนอัตราเงินเฟ้อยังมีเสถียรภาพ
                ? นายอัมมาร สยามวาลา นักวิชาการเกียรติคุณทีดีอาร์ไอ กล่าวว่า โจทย์เร่งด่วนสำหรับเศรษฐกิจการคลังของไทยในขณะนี้คือ การปิดช่องโหว่ที่จะให้ภาคการเมืองเข้าไปมีโอกาสใช้เงินนอกงบประมาณผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ เพื่อมาใช้ในโครงการประชานิยม เพราะจะก่อให้เกิดการขาดวินัยทางการคลัง และเป็นความท้าทายในลำดับแรกที่ต้องเร่งดำเนินการ
                ? ก.อุตสาหกรรม ร่วมกับ ส.อ.ท. เตรียมจัดโซนนิ่ง เลือกโรงงานอุตสาหกรรมให้เหมาะสมกับพื้นที่ พร้อมส่งเสริมการลงทุนและพัฒนาปัจจัยแวดล้อมให้เอื้อต่อการประกอบธุรกิจและการพัฒนาอุตสาหกรรม เพื่อนำมาสู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน และสนับสนุนให้เกิดการกระจายพื้นที่อุตสาหกรรมออกไปสู่ภูมิภาคมากขึ้น เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ และให้พื้นที่อุตสาหกรรมดังกล่าวแสวงหาประโยชน์ด้านความเชื่อมโยงจากการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ได้อย่างเต็มที่
                ? SET Index ปิดที่ 1,522.41 จุด ลดลง 6.57 จุด (-0.43%) ด้วยมูลค่าซื้อขาย 49,916.70 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยมีความผันผวนค่อนข้างมาก โดยได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างยูเครน-รัสเซีย ทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้น และส่งผลกระทบต่อกระแสเงินไหลเข้า ประกอบกับแรงหนุนจากแรงซื้อของนักลงทุนสถาบันในประเทศเบาบางลง หลังจากก่อนหน้านี้มีแรงซื้อจากนักลงทุนสถาบันในประเทศเข้ามามาก
                ? อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลทรงตัวในช่วง -0.12% ถึง 0.00% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 57,036.84 ล้านบาท
สรุปยอดสุทธิการซื้อขายของแต่ละกลุ่ม(6 ส.ค. 57)
กลุ่มนักลงทุน                 ล้านบาท
นักลงทุนสถาบัน          -439.15
บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ -294.15
นักลงทุนต่างชาติ       1,048.34
นักลงทุนทั่วไป              -315.03


ที่มา : Good Morning News บลจ.บัวหลวง
เรียบเรียง โดย ประน้อม บุญร่วม  
                อีเมล์. reporter@efinancethai.com