ผู้เขียน หัวข้อ: วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง วันอังคารที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2557  (อ่าน 1020 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 84475
    • ดูรายละเอียด

วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง
วันอังคารที่  15  กรกฎาคม  พ.ศ. 2557
ปัจจัย[/t][/t]
[/t]
วิเคราะห์
1. สภาพภูมิอากาศ- มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลาง ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้มีฝนตกหนักบางพื้นที่ โดยเฉพาะภาคตะวันออกและภาคใต้ตอนบน มีฝนร้อยละ 60 - 70 ของพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อการกรีดยาง
2. การใช้ยาง- สมาคมผู้ผลิตยานยนต์จีนคาดว่า ยอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศจะชะลอตัวลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจบ่งชี้ถึงการปรับตัวที่ดีขึ้นเพียงเล็กน้อย และหลายเมืองกำลังพิจารณาเรื่องการควบคุมการซื้อรถยนต์ โดยสมาคมระบุว่า ยอดส่งมอบรถยนต์ทั้งหมดอาจเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 8.3 อยู่ที่ 23.83 ล้านคัน เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์เมื่อเดือนมกราคมที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.0 ส่วนปีที่ผ่านมายอดจำหน่ายรถยนต์ในจีนขยายตัวร้อยละ 14.0 ส่งผลให้จีนกลายเป็นประเทศแรกที่มียอดจำหน่ายรถยนต์มากกว่า 20 ล้านคันภายในระยะเวลา 1 ปี
- สมาคมผู้ผลิตรถยนต์ตุรกีคาดการณ์ว่า ยอดการผลิตรถยนต์ปี 2557 จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.0 อยู่ที่ 1.25 ล้านคัน จาก 1.13 ล้านคันในปี 2556 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในยุโรปได้ผลักดันการส่งออกของประเทศ
3. สต๊อคยาง- สต๊อคยางจีน ณ วันที่ 11 กรกฎาคม 2557 เพิ่มขึ้น 2,737 ตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.84 อยู่ที่ 151,784 ตัน จากระดับ 149,047 ตัน เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2557
- สต๊อคยางญี่ปุ่น ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2557 ลดลง 239 ตัน หรือลดลงร้อยละ 1.24 อยู่ที่ 19,027 ตัน จากระดับ 19,266 ตัน เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2557
4. เศรษฐกิจโลก- สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรปเปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพฤษภาคมอ่อนตัวลงร้อยละ 1.1 จากเดือนเมษายนที่ขยายตัวร้อยละ 0.7
- กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.7 จากเดือนเมษายน เป็นการปรับเพิ่มตัวเลขให้สูงขึ้นจากรายงานครั้งก่อนที่ระบุว่าผลผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5
- กระทรวงการคลังจีนเปิดเผยว่า รายได้ทางการคลังช่วงครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.8 เมื่อเทียบเป็นรายปี อยู่ที่ 7.46 ล้านล้านหยวน
- บริษัทหลักทรัพย์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจีนอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยหรือปรับลดสัดส่วนการสำรองสภาพคล่อง (RRR) เดือนกรกฎาคมหรือสิงหาคม โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจที่อยู่ในภาวะซบเซา
- ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นฝ่ายจัดซื้อระหว่างประเทศระบุว่า การส่งออกของจีนยังคงปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 2 เนื่องจากได้แรงหนุนจากนโยบายรัฐและค่าเงินที่อ่อนตัวลง
- กองทุนการเงินระหว่าประเทศ (IMF.) คาดว่า เศรษฐกิจของยูโรโซนจะขยายตัวมากกว่าร้อยละ 1.0 เพียงเล็กน้อยในปีนี้ ก่อนที่จะเติบโตร้อยละ 1.5 ในปี 2558
5. อัตราแลกเปลี่ยน- เงินบาทอยู่ที่ 32.16 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ อ่อนค่าลง 0.14 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ
- เงินเยนอยู่ที่ 101.61 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ อ่อนค่าลง 0.08 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ
6. ราคาน้ำมัน- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาด Nymex ส่งมอบเดือนสิงหาคม ปิดตลาดที่ 100.91 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.08 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ภาวะซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากตลาดคาดการณ์ว่าอุปทานน้ำมันจากลิเบียจะเข้าสู่ตลาดโลกมากขึ้น
- สำนักงานพลังงานสากล (IEA.) คาดว่าในปี 2558 ความต้องการน้ำมันทั่วโลกจะขยายตัวรวดเร็วที่สุดในรอบ 5 ปี เนื่องจากการบริโภคในจีนที่ขยายตัวขึ้น และเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่มีความแข็งแกร่งขึ้น โดย IEA. ระบุว่า ปี 2558 ความต้องการน้ำมันทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มมากกว่า 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในส่วนของอุปทานนอกกลุ่มโอเปค
7. การเก็งกำไร- ราคาตลาด TOCOM ส่งมอบเดือนสิงหาคม อยู่ที่ 192.2 เยนต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 0.8 เยนต่อกิโลกรัม และส่งมอบเดือนธันวาคม อยู่ที่ 201.9 เยนต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 1.4 เยนต่อกิโลกรัม
- ราคาตลาด SICOM เปิดตลาดที่ 200.5 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม ไม่เปลี่ยนแปลง
8. ข่าว- ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาแอตแลนตา กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยที่ระดับเกือบร้อยละ 0 ในสหรัฐฯ ยังไม่มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นไปจนถึงครึ่งหลังของปี 2558 พร้อมกล่าวเสริมว่า ต้องติดตามข้อมูลเศรษฐกิจอีกหลายเดือน ก่อนจะได้ข้อสรุปว่าอัตราเงินเฟ้อได้ปรับเพิ่มขึ้นสู่เป้าหมายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่ร้อยละ 2.0
9. ข้อคิดเห็นของผู้ประกอบการ- ราคายางมีแนวโน้มทรงตัวหรือปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย เพราะยังมีแรงหนุนจากผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยมาก และผู้ประกอบการหลายรายยังไม่ได้ขายยาง จึงต้องพยายาม
ดึงราคาไว้ ประกอบกับปัจจุบันราคายางอยู่ในระดับต่ำแล้ว ไม่น่าจะปรับตัวลงมากอีก
แนวโน้ม ราคายางมีแนวโน้มทรงตัวหรือปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยในทิศทางเดียวกับตลาดล่วงหน้าโตเกียว เพราะได้รับแรงหนุนจากนักลงทุนมีมุมมองบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และจีน ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยังไม่ได้ส่งสัญญาณจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ประกอบกับอุปทานยางออกสู่ตลาดน้อยจากภาวะฝนตกชุกในหลายพื้นที่ปลูกยางของไทย อย่างไรก็ตาม ความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาทางการเงินในยูโรโซนและราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปรับตัวลดลงยังเป็นปัจจัยกดดันราคายางได้ในระดับหนึ่ง
ทีมวิเคราะห์สำนักงานตลาดกลางยางพาราสงขลา
[/td][/tr][/table]