ผู้เขียน หัวข้อ: ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: ข้อมูลจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐ หนุนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก  (อ่าน 648 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 86080
    • ดูรายละเอียด

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: ข้อมูลจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐ หนุนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก




ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 3 กรกฎาคม 2557 06:38:00 น.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (2 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานที่ระบุว่า ภาคเอกชนของสหรัฐจ้างงานเพิ่มขึ้นมากกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในเดือนมิ.ย. อย่างไรก็ตาม ตลาดปรับตัวขึ้นไม่มากนักเพราะได้รับปัจจัยลบจากรายงานที่ว่ายอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐหดตัวลง


ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.2% ปิดที่ 345.68 จุด


 
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,444.72 จุด ลดลง 16.40 จุด หรือ -0.37% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,911.27 จุด เพิ่มขึ้น 8.86 จุด หรือ +0.09% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,816.37 จุด เพิ่มขึ้น 13.45 จุด หรือ +0.20%


ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นหลังจากออโตเมติค ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐเปิดเผยว่า ภาคเอกชนของสหรัฐจ้างงานเพิ่มขึ้น 281,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 205,000 ตำแหน่ง


การเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวของ ADP มีขึ้นเพียงวันเดียวก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนมิ.ย.ในวันพฤหัสบดีนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 211,000 ราย และอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ 6.3%


อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันในระหว่างวันจากกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐปรับตัวลดลง 0.5% ในเดือนพ.ค. อันเนื่องมาจากการปรับตัวลงของอุปสงคด้านยุทธปัจจัยทางทหาร


หุ้น Chr. Hansen ซึ่งเป็นผู้ผลิตเอ็นไซม์สำหรับอุตสาหกรรมอาหาร ปรับตัวขึ้น 4.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้สุทธิรายไตรมาสอยู่ที่ 37.4 ล้านยูโร สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 35.9 ล้านยูโร


หุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด พุ่งขึ้น 2.4% หลังจากมีรายงานว่าทางธนาคารวางแผนที่จะขายธุรกิจไพรเวทอิควิตี้ มูลค่า 500 ล้านดอลลาร์


นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในช่วงเย็นวันพฤหัสบดี โดยมีการคาดการณ์ว่าอีซีบีอาจจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม หลังจากที่ได้ปรับอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับ 0.15% จากระดับเดิมที่ 0.25% ในการประชุมครั้งก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจของยูโรโซนต้องเผชิญกับภาวะเงินฝืด