วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง วันอังคารที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2557

[Rakayang.Com]

วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง

วันอังคารที่  17  มิถุนายน  พ.ศ. 2557

ปัจจัย[/t][/t] [/t] วิเคราะห์ 1. สภาพภูมิอากาศ - จากอิทธิพลร่องมรสุมกำลังปานกลางและมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรง ยังคงทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศมีฝนตกชุกและตกหนักบางแห่ง ร้อยละ 60 - 70 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดจันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ส่งผลกระทบต่อการกรีดยาง 2. การใช้ยาง - พื้นที่ปลูกยางหลายแห่งในเมียนมาร์กำลังประสบปัญหาขาดทุน เนื่องจากราคายางธรรมชาติตกต่ำ โดยเดือนนี้ราคาตกมาอยู่ที่ 1,700 ดอลล่าร์สหรัฐต่อตัน จากเมื่อสิ้นปี 2556 ที่ 2,600 ดอลล่าร์สหรัฐต่อตัน- ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์เปิดเผยว่า จากการประเมินล่าสุดคาดว่ายอดจำหน่ายรถยนต์ทุกชนิดในปีนี้จะลดลงประมาณร้อยละ 5 - 10 เมื่อเทียบกับปี 2556 เนื่องจากยอดจำหน่ายภายในประเทศลดลงมาก และยอดส่งออกไม่ได้ขยายตัวมากจนชดเชยยอดจำหน่ายในประเทศที่ลดลงได้หมด โดยคาดว่าปีนี้ยอดจำหน่ายภายในประเทศลดลงร้อยละ 5 - 10 ส่วนยอดส่งออกเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 10 3. เศรษฐกิจโลก - กระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมอินเดียเปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้ออ้างอิงราคาส่งเดือนพฤษภาคมขยายตัวแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนที่ร้อยละ 6.01 เนื่องจากต้นทุนด้านอาหารและเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น และเพิ่มขึ้นสูงมากเมื่อเทียบกับเดือนเมษายนที่ร้อยละ 5.20 - ธนาคารกลางจีนได้อนุมัติให้ธนาคารอีก 2 แห่ง ได้แก่ อินดัสเทรียล แบงค์ และไชน่า หมินเซิง แบงค์ คอร์ป ลดสัดส่วนการกันสำรอง (RRR) เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยไม่จำเป็นต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม - สำนักงานสถิติสหภาพยุโรปเปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อยูโรโซนเดือนพฤษภาคมอยู่ที่ร้อยละ 0.5 ลดลงจากเดือนเมษายนที่ร้อยละ 0.7 ส่วนอัตราเงินเฟ้อในสหภาพยุโรปเดือนพฤษภาคมอยู่ที่ร้อยละ 0.6 ลดลงจากเดือนเมษายนที่ร้อยละ 0.8 - กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF.) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปีนี้ลงจากร้อยละ 2.8 อยู่ที่ร้อยละ 2.0 เนื่องจากเศรษฐกิจที่อ่อนแรงในช่วงไตรมาสแรก แต่ยังคงคาดการณ์ปี 2558 ไว้ที่ร้อยละ 3.0 - ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพฤษภาคมปรับตัวขึ้นร้อยละ 0.6 สูงกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 และเป็นสัญญาณล่าสุดว่าภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ มีการฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง หลังจากปรับตัวย่ำแย่จากสภาพอากาศที่หนาวเย็นรุนแรง- ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขานิวยอร์ก รายงานว่า ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวมเดือนมิถุนายนยังคงปรับตัวขึ้นแตะ 19.28 จุด หลังจากเดือนพฤษภาคมปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 19.01 จุด แสดงถึงกิจกรรมภาคการผลิตในนิวยอร์กที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง 4. อัตราแลกเปลี่ยน - เงินบาทอยู่ที่ 32.42 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ อ่อนค่าลง 0.03 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ- เงินเยนอยู่ที่ 102.02 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้น 0.82 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ 5. ราคาน้ำมัน - สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาด Nymex ส่งมอบเดือนกรกฎาคม ปิดตลาดที่ 106.90 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 0.01 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากราคาน้ำมันพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในระหว่างวัน อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันยังเคลื่อนไหวในระดับสูง เนื่องจากสถานการณ์รุนแรงในอิรัก 6. การเก็งกำไร - ราคาตลาด TOCOM ส่งมอบเดือนกรกฎาคม อยู่ที่ 193.4 เยนต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 2.4 เยนต่อกิโลกรัม และส่งมอบเดือนพฤศจิกายน อยู่ที่ 198.9 เยนต่อกิโลกรัม ลดลง 0.6 เยนต่อกิโลกรัม- ราคาตลาด SICOM เปิดตลาดที่ 208.5 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม ลดลง 0.7 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม 7. ข่าว - สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 4 จุด อยู่ที่ 49.0 จุด จาก 45.0 จุดในเดือนพฤษภาคม โดยเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในปีนี้ แสดงให้เห็นว่าตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐฯ กำลังมีเสถียรภาพ หลังจากเผชิญกับสภาพอากาศที่เลวร้ายในช่วงต้นปี- ตลาดทุนทั่วโลกได้รับแรงกดดันจากวิกฤตการณ์ในอิรัก มีรายงานว่ากระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้สั่งการให้เรือรบสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกเดินทางไปยังอ่าวเปอร์เซีย ทั้งนี้ยังได้เพิ่มมาตรการด้านความปลอดภัยที่สถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงแบกแดด และได้อพยพเจ้าหน้าที่บางส่วน 8. ข้อคิดเห็นของ ผู้ประกอบการ - ราคายางปรับตัวสูงขึ้นได้อีกเล็กน้อยในสภาวะที่ต้นยางให้ผลผลิตค่อนข้างน้อย ขณะที่ผู้ประกอบการหลายรายมีความต้องการเพื่อส่งมอบ เพราะมีสัญญาขายล่วงหน้า และต้องการผลักดันให้ราคาสูงขึ้น เนื่องจากยังมีสินค้าในโรงงานที่ผลิตแล้วจากการซื้อวัตถุดิบก่อนหน้านี้ที่กิโลกรัมละประมาณ 70 บาท แนวโน้ม ราคายางมีแนวโน้มทรงตัวหรือปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยในทิศทางเดียวกับตลาดล่วงหน้าโตเกียว เพราะได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันเคลื่อนไหวอยู่ในระดับสูง และข้อมูลผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงเกินคาด รวมทั้งอุปทานยางยังคงออกสู่ตลาดค่อนข้างน้อยจากสภาพอากาศที่มีฝนตกชุกในหลายพื้นที่ปลูกยางของไทย อย่างไรก็ตาม เงินเยนแข็งค่าและความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์รุนแรงในอิรัก และภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ยังเป็นแรงกดดันให้ราคายางในระยะนี้เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบจำกัด                                   คณะทำงานวิเคราะห์สถานการณ์ตลาดและราคายาง  สำนักงานตลาดกลางยางพาราสงขลา ราคายางปรับตัวสูงขึ้นได้อีกเล็กน้อยในสภาวะที่ต้นยางให้ผลผลิตค่อนข้างน้อย ขณะที่ผู้ประกอบการหลายรายยังมีความต้องการเพื่อส่งมอบ เพราะมีสัญญาขายล่วงหน้า และต้องการผลักดันให้ราคาสูงขึ้น เนื่องจากยังมีสินค้าในโรงงานที่ผลิตแล้วจากการซื้อวัตถุดิบ ก่อนหน้านี้ที่กิโลกรัมละประมาณ 70 บาท

[/td][/tr][/table]